เมื่อทั้งสองขึ้นรถ เขาก็ขับรถออกไปทันที รถอันโดดเดี่ยววิ่งแล่นอยู่กลางถนนบนพื้นที่อันกว้างใหญ่ มุ่งทะยานไปสู่เส้นทางสุดขอบฟ้า
ในเวลานี้บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยปุยเมฆสีขาวสะอาด ท่ามกลางผืนฟ้าอันไร้ขอบเขตนี้ หมู่เมฆค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่าง ราวกับได้เห็นภาพลวงตา
ก่อนที่แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องมาบนตัวของเฉินเฟิงในขณะที่เขากำลังขับรถ โดยมีชิงจือนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนเยว่เอ๋อที่นั่งอยู่ด้านหลังก็ถอดกระเป๋าเป้ของตัวเองมาวางไว้หน้าตักเหมือนว่าต้องการจะงีบหลับ
หลังจากผ่านไปไม่นานเขาก็ขับรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เฉินเฟิงเดินลงจากรถแล้วปล่อยให้พนักงานเติมน้ำมันไปในขณะที่เขาเดินลงไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ข้างๆ เพื่อซื้อของกินและน้ำดื่ม
กระทั่งเขาเดินออกมาจากร้านก็เห็นว่ามีรถตู้SUVสีดำหลายคันกำลังขับแล่นเข้ามาในปั๊มน้ำมัน ก่อนจะล้อมรถของเฉินเฟิงเอาไว้
เยว่เอ๋อที่นั่งอยู่ด้านหลังเห็นแบบนั้นถึงกับตื่นตระหนกขึ้นมาซึ่งเฉินเฟิงก็พอจะคาดเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายคือใคร
เขารีบสาวเท้าเดินกลับไปทันที
แล้วคนที่เดินลงมาจากรถก็คือชายชราที่มือถือไม้เท้าคนนั้นจริงๆ ไม้เท้าเหล็กนั่นของเขากระทบลงบนพื้นจนเกิดเสียงกระแทกดังขึ้นมา
เขาเหลียวหันไปมองเฉินเฟิงที่กำลังเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ
ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม: “ในเมื่อคุณชายไม่เชื่อในตัวผม ก็ไม่ควรจะทำเรื่องแบบนี้
เฉินเฟิงแอบหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากจะทำสักหน่อย
แต่ด้วยเดิมทีเขาไม่ค่อยชอบใจกับการได้เจอกับเขาอยู่แล้ว จึงตอบกลับอย่างไม่ไยดี
“คุณพาคนมาเยอะขนาดนี้ ดูแล้วคงคิดจะมาแย่งคนกลับไปสินะ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะมีความสามารถนั้นหรือเปล่า”
ชายชราตอบกลับอย่างเยือกเย็น: “ผมรู้ว่าคุณอยู่ในระดับชั้นสูง ในดินแดนแห่งนี้คนที่จะเอาชนะคุณได้คงมีไม่มาก แต่หากคุณกล้าดูถูกนักสู้แห่งใต้หล้า คุณก็อยู่ไม่ไกลจากความตายมากแล้ว”
เฉินเฟิงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม: “ผมไม่ได้ดูถูกนักสู้แห่งใต้หล้าหรอก หรอก ผมก็แค่ดูถูกคุณเท่านั้น”
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ เขาใช้มือลูบหนวดเล็กๆ ที่ห้อยลงมาตรงคาง แล้วมองเฉินเฟิงด้วยความเบื่อหน่าย
“คุณก็คือเฉินเฟิง?ดูแล้วในเมื่อคุณสามารถหนีรอดมาจากสำนักเทียนซานได้ แสดงว่าคุณก็คงมีความสามารถไม่น้อยเลยทีเดียว”
เฉินเฟิงเริ่มระมัดระวังตัวต่อการกระทำของอีกฝ่าย เขาไม่เคยเจอกับผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่ในเมื่อหลังจากที่รู้จักตัวตนของเขาแล้วยังกล้าพูดจาแบบนี้ แสดงว่าเขาคงจะไม่ใช่คนธรรมดาไร้ความสามารถแน่นอน
“จะว่าไปคุณเป็นใครอีก หรือจะเป็นแค่คนนิรนามคนหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ยังคร้านที่จะเล่นด้วย”
ชายหนวดแคระยิ้มเยาะออกมา : “งั้นก็จะทำให้คุณได้รู้ว่าคุณจะต้องมาตายในเงื้อมมือของคนที่ถูกขนานนามว่าตู๋กูหยุนกระเรียนพันลี้”
เฉินเฟิงได้ยินอย่างนั้นจึงพูดขึ้นมาทันที: “ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง!”
ชื่อนี้เฉินเฟิงเคยได้ยินมาก่อน เขานั้นเป็นนักต่อสู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโม่เป่ย แต่ด้วยนิสัยรักสันโดษของเขาจึงทำให้น้อยคนนักที่จะได้ยินเรื่องราวของเขา
และเรื่องที่มีชื่อเสียงของเขาที่สุดคือเมื่อสามปีก่อนเขาสามารถต่อสู้กับมหาปรมาจารย์ท่านหนึ่งได้ถึงสิบแปดกระบวนท่ากว่าจะล้มลงไปได้ ซึ่งสามารถนับได้ว่าเขาเป็นหั้วจิ้งชั้นสูงสุดผู้มีฝีมือชั้นยอดเลยทีเดียว
เฉินเฟิงรู้ดีว่าตัวเองไม่มีปัญญาต่อสู้กับชิงจือเกินสามกระบวนท่า ฉะนั้นดูท่าแล้วอีกฝ่ายน่าจะมีความเก่งกาจกว่าเขามาก
แต่ว่าเฉินเฟิงไม่ได้มีนิสัยยอมแพ้ก่อนที่จะลงมือสู้ และเลวร้ายไปกว่านั้นคือยังมีอีกคนที่นั่งรออยู่ในรถด้วย
ในตอนนั้นเองชายชราที่อยู่อีกฝั่งก็พูดขึ้น : “คุณชายเฉิน ก่อนหน้านี้ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา ผมถึงไม่ได้คิดทำอะไรกับคุณ แม้แต่ทางสำนักเทียนซานผมก็ไม่ได้แจ้งข่าวของคุณด้วย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะกล้าทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้ได้ และเมื่อเป็นแบบนี้ผมคงจะเอาคุณไว้ไม่ได้แล้ว”
เฉินเฟิงตอกกลับทันที: “อย่ามาเสียเวลาพูดไร้สาระ จะสู้ก็รีบสู้ ผมจะเป็นคู่มือให้เอง”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ ตู๋กูหยุนก็กระโจนเข้ามาหาเขาแล้ว ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทัน เพราะเพียงแค่เขาตวาดหมัดออกมาเบาๆ ก็สามารถนำเอาลมพัดผ่านเข้ามาด้วย
เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบหลบทันที แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับปล่อยหมัดออกมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หมัดนั้นดูรุนแรงอย่างมาก ซึ่งถ้าหากโดนหมัดนี้ซัดเข้าไป เกรงว่าเขาคงจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน และมันอาจจะบาดเจ็บไปถึงอวัยวะภายในเลยก็ว่าได้
เฉินเฟิงที่คิดได้แบบนั้นก็รีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว จนกระแทกเข้ากับประตูกระจกที่อยู่ด้านหลัง ด้วยแผ่นกระจกนั้นถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงทนทานจึงไม่ได้เสียหายอะไร แต่แล้วตู๋กูหยุนก็กระโจนเข้ามาก่อนจะฟาดเท้าเข้าไปโดนกระจกจนแตก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...