“สอง”
ร้องตะโกนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเฉินเฟิงก็เตะสวนออกไปอย่างแรงหนึ่งที เฉี่ยวผ่านศีรษะของตู๋กูหยุนไปพอดี แต่เสียดายที่เฉี่ยวผ่านไปเพียงนิดเดียว
“สาม”
เมื่อสิ้นเสียงลง ทั้งสองคนต่างก็ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อเพิ่มความห่างออกไป
“ก็รักษาคำพูดดีเหมือนกันนะ” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“อย่าพูดมาก ด้านหลังเป็นที่โล่งกว้าง แกกับฉันไปที่นั่นค่อยมาประลองแพ้ชนะกันอีกที”
ถึงแม้ตอนนี้ทั้งสองคนห่างออกจากกันมากแล้ว เฉินเฟิงก็มีโอกาสมากพอที่จะสามารถหนีไปคนเดียวได้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลย เขาไม่อยากเห็นหลี่จื่อเยว่ถูกจับกลับไป นึกถึงนังหนูคนนั้นเป็นเพื่อนเดินทางที่ดีมาโดยตลอด ก็มีความรู้สึกเสียดายบ้างเล็กน้อย
จึงบอกตกลง จากนั้นก็วิ่งนำหน้าไปยังทิศทางที่เขาชี้ไป
ส่วนสถานที่นั้น ก็เป็นสถานที่เงียบสงบดีจริงๆ ตั้งอยู่ที่เปลี่ยวห่างไกลความเจริญ ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด แสงแดดยามเย็นสาดส่องลงมา ทำให้สะท้อนเงาต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนั้นทอดเงายาวไปตามทางออกไป
สายลมยามเย็นพัดโชยมา ยอดหญ้าไหวเอนขึ้นลงลู่ไปตามแรงลมที่พัดผ่าน แลดูแล้วงดงามตระการตายิ่งนัก
“ที่นี่เหมาะสำหรับเป็นที่ฝังศพของแกเลย”
“แกกับฉันยังไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนใครกันแน่?”
ทั้งสองคนพูดจบ แล้วก็เริ่มรบราฆ่าฟันกันต่อไปอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าตู๋กูหยุนจะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าบ้างเล็กน้อยก็ตาม แต่ว่าถ้าอยากจะเอาชนะเฉินเฟิงในเวลาอันสั้นนั้น ก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายเลย อีกทั้งบริเวณรอบนอกก็ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ กระบวนท่าที่ใช้ในการต่อสู้ของทั้งสองคนจึงขยายวงกว้างออกไปมากขึ้น อย่างไม่มีความกังวลใดๆทั้งสิ้น
นี่กลับทำให้เฉินเฟิงรู้สึกมีความกดดันเพิ่มมากขึ้น ตู๋กูหยุนเดิมทีก็ถนัดกับการต่อสู้ในกระบวนท่าที่ดุเดือดเลือดพล่านเช่นนี้อยู่แล้ว อีกทั้งสถานที่โล่งกว้างเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้เขาสามารถแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่ จังหวะในการหลบหลีกของเฉินเฟิงก็ยิ่งยุ่งยากมากขึ้น
แต่ก็ไม่รู้เพราะเหตุใด เซียงหลันและเชียนเสี่ยวหยุนก็ติดตามมาทัน ยืนห่างจากเฉินเฟิงพวกเขาไม่ไกลนัก แล้วหยุดยืนดูอยู่ตรงนั้น
“แกว่าพวกเขาสองคนใครจะเป็นคนชนะ?” ตอนนี้เซียงหลันแลดูซีดเสียวไปมาก มองดู การต่อสู้ของเฉินเฟิงพวกเขาสองคน เธอก็ถามเชียนเสี่ยวหยุนที่อยู่ด้านข้างด้วยความอยากรู้
เชียนเสี่ยวหยุนส่ายหน้า “ฉันก็ยังดูไม่ออกเลย พละกำลังของพวกเขาทั้งสองคนก็สูงด้วยกันทั้งคู่”
เซียงหลันพูดว่า “มันเก่งกาจกันจริงๆเลย อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นสุดแล้วล่ะ”
เชียนเสี่ยวหยุนพูดว่า “น่าจะเกินกว่านั้นนะ ที่บ้านฉันมีผู้อาวุโสที่อยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นสุด หลายท่าน ก็ยังแทบจะสู้ความเร็วอย่างนี้ของพวกเขาไม่ได้เลย”
เซียงหลันพูดอย่างตกตะลึงว่า “หรือว่าระดับขั้นปรมาจารย์แล้วเหรอ? นี่คงเป็นไปไม่ได้มั้ง ปรมาจารย์ใต้หล้านี้ก็มีเพียงไม่กี่คนเอง”
เชียนเสี่ยวหยุนส่ายหน้าอีกครั้งหนึ่ง “ถึงแม้ว่าฉันไม่รู้ว่าปรมาจารย์จะร้ายกาจมากขนาดไหน แต่ระหว่างพวกเขาก็ดูเหมือนว่ายังไม่ค่อยคล่องแคล่ว อีกทั้งยังใช้กระบวนท่าเดิมๆวนเวียนอยู่อีก”
เชียนเสี่ยวหยุนสามารถวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจนอย่างนั้น เซียงหลันไม่รู้สึกประหลาดใจอะไร เธอรู้ว่าถึงแม้ว่าเชียนเสี่ยวหยุนจะไม่เป็นวรยุทธ์เลยก็ตาม แต่ยังไงก็ย่อมมีความรู้มากกว่าตัวเธออย่างแน่นอน ภายในบ้านตระกูลเชียนนั้นมียอดฝีมือมากมายขนาดนั้น ก็ย่อมต้องได้ซึมซับจากที่เคยได้ยินได้เห็นมาเป็นประจำ จึงได้รู้เรื่องราวมากมายเช่นนี้
“เสียดายที่ว่า การต่อสู้ที่ดุเดือดขนาดนี้ของพวกเขาสองคนยังไม่มีใครมาชมดูกันเลย” เซียงหลันพูดด้วยความเห็นที่แปลกประหลาด
เชียนเสี่ยวหยุนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แกกับฉันไม่ใช่คนหรือไง? การต่อสู้แบบนี้หรือว่าไม่ได้ช่วยอะไรแกเลยเหรอ?”
เซียงหลันส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ตั้งแต่ที่ฉันเข้าไปอยู่ในหอจิ่วโหยวแล้ว ก็ไม่เคยชอบเรื่องพวกนี้เลย ต่อให้ฉันมีโอกาสได้เห็นทั้งสองท่านที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดนี้แล้ว ฉันก็ยังไม่รู้สึกอยากจะสนใจอะไรเลย”
เชียนเสี่ยวหยุนพูดว่า “ก็เพราะว่านิสัยเอื่อยเฉื่อยขี้เกียจของแกอย่างนี้ไง เมื่อได้พบกับยอดฝีมือที่แท้จริงแล้ว แม้แต่จะหนีเอาชีวิตรอดยังทำไม่ได้เลย”
พูดพลางก็มีความรู้สึกว่ากำลังตำหนิเซียงหลันอยู่ จึงพูดเสริมขึ้นว่า
“แต่ว่าถ้าหากด้วยนิสัยของแกอย่างนี้ หากตั้งใจอย่างจริงจังที่จะฝึกวรยุทธ์แล้วละก็ ไม่มีทางที่จะทำได้ถึงระดับชั้นนี้หรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...