แต่ยังดีที่ว่าผ่านไปสักครู่หนึ่ง เฉินเฟิงก็พบว่าฝ่ายตรงข้ามคงเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งเช่นกัน อย่างน้อยในด้านการควบคุมรถนั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่าตัวเองเลย
ดูราวกับเหมือนดาวตกสองดวงกำลังวิ่งพุ่งข้ามขอบฟ้าที่มืดมิดไป เหลือไว้แต่เพียงลำแสงไฟท้ายรถที่วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถนนสายนี้ไม่มีรถราวิ่งผ่านเลย มีเพียงรถยนต์สองคันที่วิ่งผ่านมาด้วยความเร็วสูงที่บ้าระห่ำ
ความมืดก็กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างไปอย่างรวดเร็ว รถทั้งสองคันก็วิ่งไปยังที่ที่ห่างไกลออกไปมากขึ้น
สี่แยกไฟแดงตรงข้างหน้า ไฟเขียวที่สว่างอยู่จวนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นไฟแดงแล้ว ส่วนรถคันนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วลงเลย
แน่นอนว่าในเวลานี้ ไฟแดงก็เป็นเพียงแค่สิ่งประดับชิ้นหนึ่งเท่านั้น ความเร็วรถของเฉินเฟิงก็ย่อมไม่ได้ลดลงไปเช่นกัน
แต่ว่าก่อนที่จะถึงทางแยกนั้น ฝ่ายตรงข้ามถึงกับเหยียบเบรกขึ้นมาอย่างกะทันหัน แล้วรีบหันหน้ารถหักมุม90องศา ยางล้อรถลากเป็นรอยทางยาวไปตามพื้นถนน พร้อมกับเกิดเสียงเสียดสีที่ดังแสบแก้วหูขึ้น จากนั้นก็หักเลี้ยวซ้ายวิ่งเข้าไปตามถนนทางด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเฉินเฟิงก็รีบตอบโต้ทันที เขาเหยียบเบรกจนมิด ดูเหมือนกับกำลังเรียนแบบรถคันหน้าคันนั้น วิ่งเหยียบซ้ำไปตามรอยเดิมทำให้เกิดรอยลากเป็นทางยาวขึ้นมาเหมือนกัน
เพียงแต่ห่างกันแค่นิดเดียว เฉินเฟิงก็ได้เลี้ยวซ้ายตามเข้าไปทางถนนด้านซ้ายเช่นกัน ไม่ได้ถูกสลัดให้ทิ้งห่างออกไปเลย
แต่ว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม เฉินเฟิงก็ยังรู้สึกตกใจ ฝ่ายตรงข้ามกำลังคิดวางแผนที่จะ สลัดเขาให้ทิ้งห่างออกไป
เฟิ่งซีตกใจหน้าขาวซีดเมื่อเห็นฉากนี้แล้ว หนำซ้ำยังรู้สึกอยากจะอาเจียน ขณะที่กำลังคิดอยู่นั่นเอง เธอก็อาเจียนออกมาแล้ว
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เธอจึงเอาศีรษะที่ยื่นออกนอกหน้าต่างกลับเข้ามาในรถ
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” ถึงแม้เฉินเฟิงไม่สามารถหันไปมองเฟิ่งซีได้ แต่ก็ได้ยินเสียงดังนั้นจึงถามด้วยความเป็นห่วง
หลังจากอาเจียนเสร็จแล้ว เฟิ่งซีรู้สึกอึดอัดมาก จึงได้แต่พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร! คุณจะต้องช่วยพี่สาวออกมาให้ได้นะ”
เฉินเฟิงตอบรับว่า “แน่นอน ฉันรับปากกับคุณไว้แล้ว ว่าจะต้องปกป้องพวกคุณสองคนพี่น้อง”
คำพูดนี้เฉินเฟิงพูดมาหลายครั้งแล้ว เฟิ่งซีก็ยิ่งเชื่อใจมากขึ้นว่าเฉินเฟิงสามารถทำได้แน่นอน ฟังแล้วก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น
การขับไล่บี้กันของรถทั้งสองคันนั้นก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง มีการหักเลี้ยวโค้งไปหลายครั้งติดต่อกัน แต่สุดท้ายยังก็ไม่สามารถที่จะสลัดรถของเฉินเฟิงให้ทิ้งห่างออกไปได้ ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะรู้แล้วว่าไม่มีทางที่จะทำสำเร็จ จึงเลิกล้มความตั้งใจไป
เกือบจะมาถึงจุดเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะว่าน้ำมันรถหมดถังแล้ว ในที่สุดรถคันที่อยู่ข้างหน้าก็ได้ลดความเร็วลงมา
เฉินเฟิงเดิมทีก็น่าจะลดความเร็วตามไปด้วย แต่ว่าในใจก็ยังไม่ไว้วางใจ ได้แต่รักษาความเร็วไว้แล้ววิ่งตามขึ้นไปเรื่อยๆ
ฝ่ายตรงข้ามกำลังลดความเร็วทั้งหมดลงแล้วจริงๆ ขณะที่เฉินเฟิงกำลังจะแซงหน้าไปนั้น เขาจึงรีบหยุดลงทันที จอดขวางตรงหน้ารถของฝ่ายตรงข้ามพอดี
ด้วยฝีมือการขับที่พลิ้วไหว ทำให้หน้ารถของเฉินเฟิงหันหัวกลับมาเผชิญกับหน้ารถของฝ่ายตรงข้ามอย่างจัง
ในที่สุดท้องฟ้าก็เริ่มทอแสงขึ้นแล้ว แสงแรกยามเช้าพร้อมที่ส่องสว่างขึ้นได้ตลอดเวลา ความมืดมิดก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสลัวและค่อยๆจางหายไป ทิวทัศน์ที่อยู่ห่างไกลออกไปนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเดินลงมาจากรถ เฉินเฟิงให้เฟิ่งซีรออยู่ในรถ แล้วเขาก็เดินออกไป
เพิ่งจะได้สังเกตเห็นรูปร่างหน้าตาของฝ่ายตรงข้าม ด้วยใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยม ผิวหน้าขาวมีหนวดเล็กน้อย ความสูงเมื่อเทียบกับเฉินเฟิงแล้วดูเหมือนจะสูงกว่าบ้างเล็กน้อย แต่ที่สำคัญก็คือเฉินเฟิงเคยเห็นหน้าเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
เขาก็คือหนึ่งในจำนวนหลายคนที่ชายชราคนนั้นพามาด้วย แต่งตัวอย่างเป็นทางการเหมือนตอนนี้เลย
“ปล่อยหญิงสาวบนรถออกมา” เฉินเฟิงตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ไอ้หมอนั่นหัวเราะแล้วพูดว่า “ฝีมือขับรถของแกนี่สุดยอดเลย เป็นคนที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...