อิงดาวซบหน้าลงตรงซอกคอหนาอย่างหมดแรงพลางหอบหายใจหนักๆ ไม่ต่างจากคาเรนนัก ร่างกายของเธอยังคงสั่นเทิ้มโดยเฉพาะเรียวขาสวยทั้งสองข้าง เธอใช้เวลานานหลายนาทีในการปรับจังหวะการหายใจ แต่กลับไม่ยอมผละใบหน้าออกจากซอกคอง่ายๆ เช่นเดียวกับคาเรนที่ไม่ยอมถอดแก่นกายออก
"ฉันรักเธอนะ เธอกับลูกคือชีวิตและลมหายใจของฉันนะที่รัก" ริมฝีปากอุ่นบรรจงจูบเบาๆบนไหล่มน เขาไม่รู้ว่าอิงดาวจะเบื่อรึเปล่าที่ต้องฟังคำบอกรักจากเขาทุกวัน แต่เขาไม่เคยเบื่อหน่ายที่จะพูดมัน คาเรนกอดกระชับคนตัวเล็กในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ความอบอุ่นที่ได้รับจากเธอมันปลอบประโลมหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิมอีกครั้ง
"ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้ชายเฮงซวยคนนี้นะ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ขอโอกาสจากเธออีกแล้ว"
"ฉันบอกตอนไหนว่าฉันให้โอกาสนาย" อิงดาวผละใบหน้าออกจากซอกคอหนาในเวลาต่อมา เธอขมวดคิ้วถามเสียงแข็ง
"เธอไม่พูด แต่การกระทำของเธอมันชัดเจน"
"ฉันชัดเจนหรือนายหน้าด้าน?"
"อาจจะทั้งสอง" มาเฟียหนุ่มยิ้มมุมปากกับคำตอบของตัวเอง เขาทำให้รอยยิ้มหวานกลับมาเปื้อนบนใบหน้าของอิงดาวอีกครั้ง
"แค่ครั้งเดียวนะ ฉันให้โอกาสนายแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว อย่าทำให้อิงกับลูกผิดหวังอีกนะ" มือบางประคองใบหน้าหล่อเหลาของคนรักไว้หลวมๆ เธอประสานสายตากับเขาเพื่อส่งผ่านความรู้สึก
"สัญญาว่าจะไม่มีวันนั้น"
"รักษาความรู้สึกของอิงที่คาเรนทำมันพังด้วยนะ" เธอเรียกร้องเสียงอ้อน
"คืนนี้นะ ฉันจะรักษาให้ทั้งคืนเลย" อิงดาวอมยิ้มเหนียมอาย ก่อนจะซบหน้าลงตรงซอกคอหนาอีกครั้ง แม้ว่าความรู้สึกดีๆของเธอมันพังทลายไปแล้วเพราะคำพูดและการกระทำของเขา แต่ถ้าคาเรนพร้อมที่จะรักษามันหรือสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เธอก็ยินดี
@สวนสนุก
"พ่อกับแม่หนูหายไปไหนครับเนี่ย" ชานนท์พึมพำกับตัวเองพลางสอดสายตามองหาอิงดาวกับคาเรนที่จนแล้วจนรอดก็ยังมาไม่ถึงสวนสนุกสักที มันเป็นรอบที่เท่าไรแล้วเขาเองก็ไม่แน่ใจที่ต้องนั่งถอนหายใจทิ้งโดยเปล่าประโยชน์แบบนี้
"แอ๊ะ~" เด็กน้อยบนหน้าตักแกร่งเอียงคอไปมาราวกับสงสัยที่เห็นสีหน้ายุ่งเหยิงของนายแพทย์หนุ่ม เธอค่อยๆตะเกียกตะกายลุกขึ้น พยายามยืนตรงบนหน้าขาแกร่งของชานนท์ โดยมีท่อนแขนของเขาคอยกอดประคองไว้
"ว่าไงครับ อยากไปเดินเล่นแล้วเหรอ"
"แอ๊ะ~" เฟรย่ายิ้มหวานที่ได้สบตากับชายหนุ่ม เธอเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ใช้ริมฝีปากน้อยๆแตะสัมผัสกับริมฝีปากหนาของชานนท์เบาๆ ก่อนจะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจที่เห็นน้ำลายใสของตัวเองเปรอะเปื้อนบนกลีบปากของเขา
"ขโมยจูบหมอเหรอ" เด็กน้อยหัวเราะจนตาหยี จากนั้นจึงซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งราวกับเขินอาย ทำเอาชานนท์หลุดยิ้มกับความไร้เดียงสาของเธอ
"จูบหมอแล้วให้พ่อกับแม่ยกขันหมากมาขอด้วยนะ หมอเสียหายรู้ไหม" นายแพทย์หนุ่มเย้าหยอกเด็กน้อยในอ้อมแขน แต่เธอกลับเงยหน้าขึ้นมามองเขาตาแป๋ว ก่อนที่มือน้อยๆจะยื่นขึ้นมาแตะริมฝีปากของเขาเบาๆ
"อย่าลืมยกขันหมากมาสู่ขอหมอนะ"
"แอ๊ะ~" ใบหน้าจิ้มลิ้มยังคงเปื้อนรอยยิ้มไร้เดียงสา ชานนท์มองว่าเฟรย่าเป็นเด็กที่มีพัฒนาการทางความคิดดีเยี่ยมกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เธอฉลาดคิด และรู้ว่าต้องเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นยังไงตัวเองถึงจะเป็นที่น่าสนใจ
"หมอขอหอมแก้มได้ไหม" เขาถามลองใจ เพียงแค่อยากรู้ว่าเธอมีพัฒนาการด้านการคิดวิเคราะห์ดีแค่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน