ตอน Chapter 4 คลุมถุงชน จาก มายาบรรณาการ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
Chapter 4 คลุมถุงชน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ มายาบรรณาการ ที่เขียนโดย รริศา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ชายหนุ่มเงยหน้ามองมารดาอย่างเหนื่อยใจ ย้ำกับนางอีกรอบ “ผมให้กริชดูแลทั้งหมด ไม่ยุ่งกับงานโรงแรมแล้ว”
“แต่วันนี้ประชุมผู้ถือหุ้น แกต้องไป เพราะแกก็ถือหุ้นอยู่” คนเป็นแม่ยังยืนยันคำเดิม
ชายหนุ่มทำหน้าเซ็งกลับคำสั่งย้ำๆ ที่มารดาพยายามอยู่หลายปี
“อย่ามาทำหน้าหมาเบื่อโลกกับฉันนะ” เสียงร้องอย่างไม่พอใจของมารดาเกิดขึ้นทันที ทุกครั้งที่เจอหน้า หัวข้อสนทนาระหว่างมารดากับเขาก็ไม่พ้นบีบบังคับให้ทิ้งสวนปาล์มของตากลับมาบริหารงานที่โรงแรม สิ่งที่เขาไม่ต้องการทั้งสิ้น
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ย้ำเสียงหนักแน่น “ผมขอร้องนะครับแม่ อย่าให้ผมฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ชอบเลย ผมต้องรีบกลับตรัง ช่วงนี้ที่โน่นกำลังยุ่ง เราต้องรีบตัดปาล์ม”
“แล้วที่นั่นมีความสำคัญกับแกนักหนา ถ้าวันนี้แกไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉัน ฉันจะขายสวนปาล์มนั่นทิ้ง อย่าลืมนะว่าสวนปาล์มเก่าแก่ของตาแกยังเป็นชื่อของฉันอยู่” อีกคนขู่อย่างท้าทาย
ชายหนุ่มจุกอกพูดไม่ออกขึ้นมาเจอไม้เด็ดของมารดา ตราบใดที่สวนปาล์มยังเป็นชื่อของนางอยู่
“โอเค” ชายหนุ่มจำยอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ครั้งนี้เขายอมขึ้นมากรุงเทพก็เพราะมารดาแจ้งว่าให้มาจัดการเอกสารสวนปาล์ม อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบลง หลังจากโอนเป็นชื่อเขาเสร็จเรียบร้อย มารดาจะไม่มีคำคขู่หรือคำต่อรองใดๆ กับเขาอีกทั้งสิ้น
นางอิงดาวลอบยิ้มอย่างพอใจ ไม่ว่าจะอย่างไรลูกก็เป็นลูกอยู่วันยังค่ำ จะไม่มีใครเอาชนะคนเป็นแม่อย่างนางได้เด็ดขาด
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปตัดผมก่อน ฉันเห็นแบบนี้แล้วเหนื่อยสายตา บ่ายโมงตรงเจอกันที่โรงแรม”
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่ว่าเขาจะดันทุรังอย่างไรเขาก็ไม่มีวันชนะแม่ของเขาได้
คนเป็นแม่เหมือนนึกอะไรได้อีกครั้งร้องตามหลังลูกชายไป
“อ้อ...ตอนเย็นอยู่รอไปงานแฟชั่นการกุศลกับฉันด้วยนะ”
“ทำไมต้องไป”
“ตราบใดที่สวนปาล์มของตาแกยังเป็นชื่อฉัน แกก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรทั้งนั้น หรืออยากลองก็ตามใจ พรุ่งนี้ฉันจะได้ให้ทนายไปจัดการขายให้สมใจฉัน แทนที่จะโอนให้แก่อย่างที่บอกตั้งแต่แรก” คนเป็นแม่ยื่นคำขาด ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องจัดการเรื่องแต่งงานลูกชายคนโตให้จบก่อนนางจะตาย
เวลาเดียวกันที่บ้านกนกนาราย พลอยขวัญต้องเริ่มต้นทำหน้าที่ของเธอในแต่ละวันเฉกเช่นทุกวัน ไม่เพียงแค่เป็นคนดูแลส่วนตัว เธอทำเป็นผู้จัดการที่คอยรับงานให้ศยามลด้วย
จากสถิติหนึ่งปีที่ศยามลเปลี่ยนผู้จัดการมากกว่าสิบ ทำให้ไม่มีใครกล้าร่วมงานกับศยามล และสุดท้าย...ก็กลายเป็นความจำยอมของพลอยขวัญ ตั้งแต่เธอเรียนจบมาแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนทำงานสักนิด ต้องมาทนให้ศยามลกดขี่ต่อไป
“คุณศยาคะ...คุณศยา!” หญิงสาวก้มลงใกล้ๆแตะเรียกปลุกหญิงสาวบนเตียง หากแต่อีกคนยังคงนิ่ง พลอยขวัญเพิ่มระดับเสียงให้มากขึ้น
คราวนี้ศยามลถลกผ้าห่มออกจากตัวพร้อมกับลุกพรวดลงจากเตียง ชื่อของนาราใช้ได้ผลกับเธอเสมอ ความต้องการเอาชนะ งานนี้หม่อมหลวงสราลีต้องทุ่มเงินบริจากหลายแสนกว่าที่ลูกสาวจะได้เดินฟินาเล่ของงานเพื่อเอาใจศยามล
“แกทำไมเพิ่งมาบอกฉันหา! นังโง่” ศยามลใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากพลอยขวัญก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
พลอยขวัญเพียงส่ายหน้าตามหลัง ในที่สุดเธอก็แก้ปัญหาไปได้อีกเปราะหนึ่ง ทั้งที่รู้ว่าวันนี้ตัวเองต้องเจอศึกหนักในงานตอนที่ทั้งคู่เจอกัน และไม่รู้ว่าวันนี้ดวงชะตาของเธอจะยังดีอยู่หรือเปล่า
ห้องจัดเลี้ยงหรูโรงแรมปรินซ์ถูกเนรมิตห้องโถงให้เป็นสวนดอกไม้ แฟชั่นโชว์เครื่องเพชรการกุศลยิ่งใหญ่แห่งปีของท่านผู้หญิงสกุลตา งานที่รวบรวมเซเลปคนดังคับคั่ง
ในช่วงเวลาของการซ้อมเดินก่อนโชว์จริง ทันทีที่เห็นแบรนด์เครื่องสำอางที่ทีมงานช่างแต่งหน้าขนเข้ามา ศยามลก็รีบรื้อของในกระเป๋าของตัวเอง หลังจากที่หาสิ่งที่เธอต้องการไม่เจอ หญิงสาวก็เงยหน้าถามคนของตัวเอง
“นังพลอย! ชุดแต่งหน้าเซตที่ฉันซื้อมาจากฝรั่งเศสไปไหน” ศยามลร้องถามด้วยน้ำเสียงจิกๆ ไม่ไว้หน้าคนจัดงานที่อยู่แถวนั้นสักนิด ทั้งที่เครื่องสำอางที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ ที่เธอเหยียดสายตามองก็เป็นแบรนด์มีชื่อระดับแนวหน้าทั้งนั้น
หลายคนอาจจะคุ้นชิน ศยามลมักแสดงออกอย่างนี้เพื่ออวดให้ตัวเองดูดีเสมอ หารู้ไม่ว่ายิ่งนานวัน คนในวงการที่ต้องร่วมงานด้วยยิ่งเอือมระอา
พลอยขวัญขยับเข้ามาใกล้เจ้านายสาว บอกเสียงเบาเพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ยินไปด้วย “พลอยถามทีมงานแล้วว่าใช้เครื่องสำอางแบรนด์อะไร แบรนด์นี้...เซตนี้ คุณศยาก็ใช้เป็นประจำนี่คะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มายาบรรณาการ
สนุกน่ะ...