Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 37

  ฉู่หยวนป้า เจ้าสกุลฉู่คนปัจจุบัน รู้เพียงแต่ว่าฉู่เฟิงใช้เคล็ดวิชาระดับสาม ทว่าพลังที่ใช้นั้นเป็นทักษะเหนือชั้นแฝงความลึกลับกว่าทักษะที่สวี่เทียนอีใช้เสียอีก

  จากประสบการณ์ของเขา การฝึกเคล็ดวิชาดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพเยี่ยงนี้ถือเป็นเรื่องยากมาก แสดงว่าฉู่เฟิงต้องเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ถึงสามารถฝึกมันได้สำเร็จเช่นนี้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉู่หยวนป้าตกตะลึงพรึงเพริด เขาต้องการรู้ว่าเคล็ดวิชาการต่อสู้นี้คือเคล็ดวิชาอะไรกันแน่

  "ท่านปู่ ถ้าข้าจำไม่ผิด เคล็ดวิชาที่ฉู่เฟิงใช้เป็นเคล็ดวิชาขั้นสูงของสำนักมังกรคราม ศิษย์ฝ่ายในเกือบทั้งหมดแทบจักมิมีผู้ใดฝึกมันได้สำเร็จ นั้นก็คือ เคล็ดวิชาฝ่ามือมายา" ฉู่เวยกล่าวอย่างจริงจัง

  "นี่มันอะไรกัน? ศิษย์ฝ่ายในทั้งหมดก็ยากแท้หยั่งถึงที่จะฝึกได้สำเร็จ ข้ามิคิดเลยว่า เจ้าเด็กคนนี้จักมีความสามารถ ขนาดนี้" ฉู่หยวนป้าถอนหายใจยืดยาว

  "ท่านปู่ ตอนงานคัดเลือกเข้าเป็นศิษย์ฝ่ายใน มีคนต่อสู้กับสัตว์อสูรสี่สิบตนด้วยตัวคนเดียวเพียงลำพัง ทั้งยังสังหารพวกมันทั้งหมดอย่างเลือดเย็นภายในพริบตาเดียว และมันยังได้รับรางวัลล้ำค่าไปอีกด้วย"

  "พวกข้าทุกคนต่างคิดว่าคน ๆ นั้นคือ... ฉู่เฟิง" ฉู่เวยยังคงเล่าเรื่องราวอย่างละเอียด

  เมื่อได้ฟังสิ่งที่ฉู่เวยเล่าเรื่องทั้งหมด ฉู่หยวนป้าถึงกับหน้าถอดสีในทันที เขาตกใจจนมิอาจเอื้อนเอ่ยวาจาใดออกมา เขาหันไปเพ่งมองฉู่เฟิง ทว่าสายตาของเขาในครานี้กลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

  จู่ ๆ เขากลับฉุกคิดบางอย่างในใจขึ้นมา หรือว่าบางทีฉู่เฟิงอาจกอบกู้ชื่อเสียงให้กับตระกูลฉู่ก็เป็นได้

  ก่อนหน้านี้ ฉู่หยวนป้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าศักดิ์ศรีของ ตระกูลฉู่จะต้องอาศัยเด็กหนุ่มผู้เป็นสวะของตระกูลคนนี้ช่วยกอบกู้คืนมา แม้ว่ามันจักมิใช่คนในตระกูลฉู่ ทว่าบัดนี้เขารู้เพียงว่าฉู่เฟิงเป็นความหวังเดียวของตระกูลฉู่

  "ซ่า ซ่า ซ่า"

  ในขณะที่ฉู่เฟิง. และสวี่เทียนอีกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ถือเป็นการยากที่จะทายว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายชนะ ทว่าสีหน้าของสวี่เทียนอีกลับปรากฏร่องรอยความกลัดกลุ้มอย่างเห็นได้ชัด

  ความแข็งแกร่งของสวี่เทียนอีมิทำให้ฉู่เฟิงรู้สึกกดดันแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่มันโจมตี ฉู่เฟิงก็รับมือและกลับคืนสู่สภาพเฉกเช่นเดิมอย่างรวดเร็วดุจกระแสน้ำไหลเชี่ยวไม่หยุดหย่อน

  หลังจากโจมตีอย่างต่อเนื่อง สวี่เทียนอีเริ่มหายใจหอบถี่ แต่ใบหน้าของฉู่เฟิงกลับดูเรียบเฉย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หากมันไม่รีบลงมือจัดการฉู่เฟิงให้เสร็จ มันจักต้องเหนื่อยล้าหมดเรี่ยวแรงอย่างแน่นอน

  "หรือว่า เจ้าเด็กคนนี้พยายามถ่วงเวลาในการต่อสู้เพื่อให้ข้าหมดแรงสินะ" สวี่เทียนอีรู้สึกว่ามีบางผิดปกติ และพูดกับตัวเองว่า "ดูเหมือนว่า ข้าต้องทำให้การต่อสู้นี้จบโดยเร็วที่สุด"

  เมื่อมันคิดเช่นนั้น สวี่เทียนอีไม่รีรอให้เสียเวลาอีกต่อไป ในขณะนั้นมันเริ่มเปลี่ยนการลงมือของมัน พลังวิญญาณอันไร้ขีดจำกัดค่อย ๆ แผ่กระจายออกจากร่างกายดุจมหา สมุทร บรรยากาศรอบ ๆ เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน

  ฉู่เฟิงรู้สึกว่า พื้นเวทีประลองสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างรุนแรงหลังจากสวี่เทียนอีปล่อยพลังวิญญาณอีกครั้ง แสงสีเงินและขาวปกคลุมรอบ ๆ หมัดของมัน เสมือนกับการหลอมเหล็กกล้าอันแข็งแกร่ง คราเดียวกันมันก็พุ่งหมัดเข้ามาใส่ฉู่เฟิงอย่างรุนแรงว่องไวดุจพายุหมุน

  "เคล็ดวิชาระดับสี่!"

  สวี่เทียนอีระเบิดพลังทั้งหมดออกมา สีหน้าของทุกคน แปรเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันแม้แต่สีหน้าราบเรียบของฉู่หยวน ป้าก็พลันแปรเปลี่ยนไป

  เคล็ดวิชาระดับสี่ เป็นเคล็ดวิชาการต่อสู้ที่ไม่ใช่ใครหน้าไหนก็สามารถฝึกฝนได้ มีเพียงผู้ที่มีพลังอำนาจเท่านั้นที่จะได้รับมันมา บางทีผู้คนที่นี้อาจจักมิมีใครใช้เคล็ดวิชาระดับสี่ได้ ขนาดฉู่หยวนป้าก็ยังมิอาจใช้เคล็ดวิชานี้ได้เช่นกัน

  เหตุผลนั้นง่ายมาก แน่นอนว่าผู้คนที่ฝึกเคล็ดวิชาระ ดับสี่ต่างเป็นบุคคลสำคัญของสำนัก และความสำเร็จใน อนาคตผู้คนเหล่านั้น ก็จักไม่ถูกจำกัดเฉพาะในสถานที่ขนาดเล็กเช่นนี้

  ยิ่งไปกว่านั้น การจะฝึกปรือจนบรรลุเคล็ดวิชา ระดับสี่นั้นช่างลำบากแสนสาหัส ทว่าพลังอำนาจที่ได้รับก็ยิ่งน่ากลัวเช่นเดียวกัน ผู้คนมากมายไม่สามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึง ทำให้การฝึกเกิดความล้มเหลวดังนั้นการที่สวี่เทียนอี สามารถ ใช้เคล็ดวิชาระดับสี่ได้ มันจึงทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพลิดเป็นอย่างยิ่ง

  แม้ว่ามันจะยังใช้พลังได้ไม่สมบูรณ์มากนัก แต่การที่มันใช้เคล็ดวิชาระดับสี่ได้ในวัยขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นยอดอัจ ฉริยะอย่างแท้จริง

  ฉู่เฟิง เจ้าต้องแพ้เป็นแน่ ในครานั้นเสียงในหัวของผู้ คนนับไม่ถ้วนต่างพากันคิดเช่นนี้ ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ฉู่เฟิงนั้นไม่ได้อ่อนแอ แต่ทว่าคู่ต่อสู้ของมันมีความแข็งแกร่งมากจนเกินไป

  ผู้คนต่างก็พูดว่า ฉู่เฟิงอายุอานามยังน้อย แต่มีพลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่หก ทั้งยังทำให้สวี่เทียนอีแสดงพลังความสามารถทั้งหมดของมันออกมาใช้ได้ หากมันอายุรุ่นราวคราวเดียวกับสวี่เทียนอี บางทีมันอาจจะคว้าชัยในครานี้ก็เป็นได้

  ผู้คนมากมายต่างรู้สึกว่า ฉู่เฟิงจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ แต่คงไม่มีผู้ใดเยาะเย้ยถากถางมัน เพราะในใจของพวกมัน ฉู่เฟิงก็ถือเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเช่นกัน

  "พรึ่บ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม