พูดตามตรงเลยว่าหลัวซิวรู้สึกตะลึงต่อคำพูดของรากษสซือโห่วจริง ๆ
ปัจจุบันจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างเป็นผู้แข็งแกร่งโบราณที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขารู้จักแล้ว
ครั้นหลัวซิวใช้ไร้ลักษ์วิวัฒนาการเกณฑ์สูงศักดิ์ทั้งสามแล้วบุกเบิกฟ้าดินตรีภพ เขาก็คาดคะเนได้แล้วว่าจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างก็ต้องเคยบุกเบิกฟ้าดินตรีภพมาก่อนแน่นอน
และวินาทีนี้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการคาดคะเนของเขาเป็นความจริง
หากสามารถตามหาตำแหน่งที่ตั้งของฟ้าดินตรีภพที่จักรพรรดิเซียนไท่ซ่างบุกเบิกขึ้นมาได้ เช่นนั้นการตระหนักรู้บนเกณฑ์สูงศักดิ์ทั้งสามของตัวหลัวซิวเองก็จะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น มีผลประโยชน์ต่อเขาสูงมาก
เนื่องจากฟ้าดินตรีภพจะยกระดับดีขึ้นตามแดนผลการฝึกตนที่เพิ่มขึ้นของตัวเจ้าของ จากแดนของจักรพรรดิเซียนไท่ซ่าง ฟ้าดินตรีภพของเขาต้องกว้างใหญ่มากจนเหลือเชื่อแน่นอน ยิ่งกว่านั้นคือมันอาจวิวัฒนาการจนกลายเป็นจักรวาลแห่งหนึ่งไปแล้ว
แต่หลัวซิวกลับไม่ได้แสดงท่าทีร้อนรนออกมาแต่อย่างใด เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าซือโห่วมีท้องที่อยู่ตรงหน้านี้อยากได้เตาเซียนชำรุดที่อยู่บนมือเขา
ทันทีที่เอ่ยปาก ฝ่ายตรงข้ามก็พูดถึงฟ้าดินตรีภพที่จักรพรรดิเซียนไท่ซ่างบุกเบิกเลย หลัวซิวจึงอยากรู้มาก ๆ ว่าตกลงเจ้าหมอนี่ยังรู้เรื่องอะไรอีกบ้าง
เตาเซียนชำรุดผุพังถูกยึดกุมอยู่ในมือหลัวซิว และเขาก็ไม่มีท่าทีที่จะส่งมอบมันให้แก่ซือโห่วเลยแม้แต่น้อย
หลัวซิวสามารถสัมผัสได้อยู่ว่า เหมือนรากษสซือโห่วตัวนี้จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับเจ้าของเตาเซียน
“ฟ้าดินตรีภพที่จักรพรรดิเซียนไท่ซ่างบุกเบิก ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถทำให้เจ้าหวั่นไหวได้หรือ?”ดวงตาที่กลมโตปานระฆังของรากษสซือโห่วจ้องเขม็งไปทางเตาเซียนผุพังที่อยู่บนมือหลัวซิว
“ไม่มีทางหากบอกว่าข้าไม่หวั่นไหว แต่มันยังไม่เพียงพอ”หลัวซิวส่ายหน้า “ข้าหวุดหวิวรอดตายมาได้หลายหนถึงจะได้ครอบครองเตาเซียนนี่ นี่คือภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลชาตะของจักรพรรดิเซียนเชียวนะ!”
“ต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมมอบมันให้แก่ข้า?”รากษสซือโห่วลุกพรวดขึ้นมา แล้วมีออร่ากดดันแพร่กระจายออกมาจากตัวที่แข็งแรงมีอานุภาพ
“เจ้าคิดจะแย่งหรือ? สามารถพูดได้อย่างไม่เกรงใจเลยว่าเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”หลัวซิวไม่ยี่หระ “แน่นอนอยู่แล้วว่าหากเจ้ายอมบอกข้าว่าเตาเซียนนี่เป็นของต่างหน้าของจักรพรรดิเซียนตนใด ข้าก็สามารถพิจารณาแลกเปลี่ยนกับเจ้าได้อยู่”
“เจ้าหนู เจ้าคิดที่จะหลอกถามข้ารึ?”รากษสซือโห่วกัดฟันแน่น
ถ้าเกิดลงมือได้ละก็ เขาคงลงมือไปตั้งนานแล้ว แม้นชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเหมือนจะอยู่แค่แดนเซียนชั้นฟ้า แต่เขากลับรู้สึกว่าหลัวซิวจัดการยากมาก
ตอนแรกเริ่มเขาได้โผกระโจนเข้าไปโจมตี แต่ฝ่ายตรงข้ามแค่ระเบิดจิตเซียนก็ทำให้เขากระเด็นออกมาแล้ว ซึ่งเขายังจำเรื่องนี้ได้ชัดเจนดีมาก
“หากเจ้าต้องการเตาเซียนนี่ ก็ทำได้เพียงปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของข้า”หลัวซิวยิ้มอ่อนพลางพูด
“เจ้านี่มัน……”
รากษสซือโห่วโกรธจนตัวสั่น แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยอมอ่อนข้อให้แล้วพูดว่า: “เอาแบบนี้เถอะ เจ้าเอาเตาเซียนมาให้ข้าดูก่อน ข้าจักพิสูจน์หน่อยว่าใช้ของแท้หรือไม่ จากนั้นเราค่อยว่ากันอีกที”
หลัวซิวเห็นว่าดวงตาที่กลมโตปานระฆังของรากษสซือโห่วเป็นประกาย จึงหลุดหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กอายุสามขวบรึ? เกรงว่าหลังจากข้านำเตาเซียนนี่ให้เจ้าแล้ว ข้าก็อย่าคิดว่าจะสามารถเอากลับคืนมาได้อีกเลย”
“โฮกก! ไอ้เด็กสารเลว เจ้าจักทำให้ข้าหัวเสียจนตายได้เลยใช่หรือไม่!”
รากษสซือโห่วคำรามอย่างพิโรธแล้วพูด: “เตาเซียนห้าสีที่อยู่บนมือเจ้าไม่สมบูรณ์ครบถ้วน เมื่อมันอยู่บนมือเจ้า เจ้าก็ไม่สามารถกระตุ้นพลานุภาพที่ควรมีของภัณฑ์จักรพรรดิมรรคผลออกมาได้ด้วยซ้ำ”
“มกุฎอย่างข้าจะยอมประนีประนอมเป็นครั้งสุดท้าย ข้าจะพาเจ้าไปตามหาฟ้าดินตรีภพที่จักรพรรดิเซียนไท่ซ่างบุกเบิกก่อนก็ได้ แต่ถ้าเกิดเจ้ายังไม่ยอมแลกเปลี่ยนอีกละก็ เจ้าก็กลับไปเถอะ”
หลัวซิวรู้สึกน่าขำ ก่อนจะตอบกลับ: “อย่าพูดให้เหมือนข้าเอารัดเอาเปรียบเจ้าสิ ในเมื่อเตาเซียนนี่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนเหมือนอย่างที่เจ้ากล่าวมาแล้ว ไม่สามารถกระตุ้นพลานุภาพเท่าที่ควรออกมาได้ เช่นนั้นการที่เจ้าอยากครอบครองมันมากขนาดนี้นั้น ก็แสดงว่าเจ้ามีวิธีฟื้นฟูซ่อมแซมมัน ใช่หรือไม่?”
เมื่อถามคำถามนี้ออกมา หลัวซิวก็เห็นว่าแววตาของรากษสซือโห่วเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อยจริง ๆ ด้วย นี่จึงทำให้เขาพูดคำว่าใช่จริงด้วยแฮะในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...