มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 12

“ผู้จัดการ บัตรของเขามีปัญหาเล็กน้อย”

ไม่นาน พนักงานก็วิ่งเหยาะๆเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกยืนอยู่ข้างผู้จัดการ พูดกระซิบข้างหูสองสามประโยค

ใบหน้าผู้จัดการแปลกใจ และเดินตามออกไป

“ฮ่าๆๆ บัตรของนายคงจ่ายได้ไม่เท่าไหร่แหละนะ!” เห็นเหตุการณ์นี้ จางเหวินเจี๋ยหัวเราะเสียงดัง มองไปทางจ้าวหลิน “คุณป้า คุณวางใจเถอะ แม้ในบัตรของเขาไม่มีเงิน จานนั้นที่คุณกินไปผมจะจ่ายให้”

“ส่วนของไอ้ขยะนี้ เขาจ่ายได้หรือไม่ หรือว่าต้องถูกตัดขาไปกี่ข้าง ผมไม่จำเป็นต้องสนใจ!”

“เหอะ แม้ไอ้ขยะนี้จะถูกตีจนตาย ก็ไม่ต้องสนใจ” เมื่อกลุ่มคนได้ยินว่าคนที่ถูกซ้อมเป็นมู่เซิ่ง สายตาเหยียดหยามต่างพากันมองไปที่มู่เซิ่ง

“แม้แต่เงินแต่ละวันยังต้องให้ภรรยาจ่าย เขาจะเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน!”

“ถ้าถูกตีจนตาย ช่างน่าสงสาร”

“เหวินเจี๋ยเป็นเพราะนาย ไม่งั้นพวกเราคงถูกไอ้ขยะนี้ลากลงไปด้วย เหอะ! ดันสั่งไม่ดูว่าตัวเองจะจ่ายไหวหรือไม่ ช่างไม่ดูกำลังตัวเอง!” หญิงอ้วนคนหนึ่งพ่นน้ำลายใส่มู่เซิ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

จางเหวินเจี๋ยโบกมือไปมาอย่างนอบน้อม แต่ในใจกลับโหดเหี้ยม หกล้านนะ แม้เขาจะจ่ายได้ก็คงต้องถลกแผ่นหนังมาชั้นหนึ่ง แต่ว่าหากว่าทำให้มู่เซิ่งขายขี้หน้าต่อหน้าคนอื่นได้และยืมตัวเจียงหว่านมานอนด้วยได้ นั่นก็ดูจะคุ้มค่า

เจียงหว่านมองไปที่มู่เซิ่งอย่างไม่เข้าใจ ไม่มีเงินแท้ๆยังทำเท่? รู้จักกันมานาน มู่เซิ่งไม่ใช่คนแบบนี้ ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ล่ะ?

เวลานี้เองผู้จัดการที่เพิ่งจากก็กลับมาแล้ว สองมือถือบัตรและพูด “คุณมู่ นี้เป็นบัตรของคุณ”

ในใจของผู้จัดการตกตะลึง เมื่อกี้ตอนรูดบัตร พนักงานบอกเขาว่าภายในบัตรกลับมีเงินถึงพันล้าน! ตอนแรกเขาเข้าใจว่าเครื่องposมีปัญหา เรียกผู้จัดการมาถึงได้รู้บัตรนี้มีเงินพันล้านจริงๆ แถมเพิ่มโอนเข้ามา!

คนที่สามารถหยิบบัตรที่มีเงินพันล้านออกมาเวลาไหนก็ได้ ต้องไม่ได้ธรรมดาอย่างแน่นอน!

“นี้เป็นใบเสร็จของร้าน เป็นครั้งแรกที่คุณจ่ายเงินที่ร้าน ทางร้านจึงมอบบัตรVIPของร้านให้ เพื่อได้เพลิดเพลินกับการใช้จ่ายในร้านและได้ส่วนลดสี่สิบเปอร์เซ็นต์”

“อืม”

มู่เซิ่งพยักหน้า และเก็บบัตรมา

หมายความว่าไง?

เพื่อนบ้านที่เยาะเย้ยมู่เซิ่งเมื่อกี้ รวมถึงจางเหวินเจี๋ย ต่างมีใบหน้าประหลาดใจ เขา……เขาจ่ายเงินแล้ว?

“เฮ้ ทำไมอยู่ดีๆถึงให้บัตรVIPกับเขาล่ะ? ไอ้ขยะนี้จะจ่ายเงินได้ยังไง?”

จางเหวินเจี๋ยตกใจ จับไหล่ของผู้จัดการและถามทันที

ผู้จัดการหันกลับมา พูดเสียงเย็นชา “คุณท่านนี้ ผมมีสามเรื่องที่ต้องพูดให้ชัดเจน เรื่องแรกการให้บัตรVIPกับใครเป็นเรื่องของทางร้านของเราเลือกเอง หากคุณไม่พอใจ สามารถไปร้องเรียนได้ เรื่องที่สองคุณมู่ท่านนี้ได้จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วอย่างแน่นอน ไม่เหมือนคุณทำได้แต่กินอย่างเดียว”

“เรื่องที่สาม คุณโปรดเคารพคุณท่านนี้สักหน่อย!”

ปัง!

พูดจบผู้จัดการแกะมือจางเหวินเจี๋ยออก ส่งสายตานอบน้อมไปที่มู่เซิ่ง

“เจียงหว่าน พวกเราไปเถอะ” มู่เซิ่งไม่แม้จะมองจางเหวินเจี๋ยสักนิด เดินออกมาจากห้องอาหาร

“นี้มันเรื่องโกหกใช่ไหม ไอ้ขยะ หยุดเดี๋ยวนี้! นายมาพูดให้เข้าใจ!”

แม้ผู้จัดการจะพูดบอก จางเหวินเจี๋ยยังคงไม่อยากเชื่อ อยากที่จะตามไปถามให้ชัดเจน

ขณะที่เขากำลังจะวิ่งไปทางหน้าประตู ก็ถูกมือหนึ่งจับไหล่ไว้ หันกลับมาพบว่าผู้จัดการสีหน้าจริงจังมองเขาอย่างพิจารณา นิ้วมือเหล็กทั้งห้าของชายร่างกำยำกดไว้จนเขาขยับไม่ได้

“นาย นายจับฉันทำไม?” ใจของจางเหวินเจี๋ยปะทุความไม่สงบออกมา

“เมื่อกี้ใครกันที่พูดนะว่าจะคายของที่กินมาออกให้หมด?”

ผู้จัดการตั้งใจพูด

“นาย นายเป็นใครกันห้ะ? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันทำนู่นทำนี้?” จางเหวินเจี๋ยโกรธไฟลุก แม้เขาจะเป็นผู้จัดการของร้านอาหารแห่งนี้ ในสายตาเขา เขาก็แค่พนักงานเงินเดือนเท่านั้น แถมจ่ายเงินไปแล้ว ไม่แม้แต่จะมีสิทธิ์มาทำร้ายเขา

“ปล่อยมือ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”

“เป็นลูกผู้ชาย ต้องพูดคำไหนคำนั้นนะ”

“เพียงแค่เรื่องหยาบคายแบบนี้ คุณมู่ขี้เกียจมายุ่ง งั้นก็ให้พวกเราทำแทนเขา!”

ใบหน้าเย็นชาของผู้จัดการพูด ฐานะและภูมิหลังที่ลึกลับของมู่เซิ่ง มันคุ้มค่าที่เขาจะทำความรู้จัก อีกอย่างเขารู้สึกว่าเขามองจางเหวินเจี๋ยไม่สบายตามาตั้งนานแล้ว มีที่ไหนจะปล่อยเขาไปง่ายๆแบบนี้

“หมาดำ นายมาเถอะ”

“นายกล้า………” สีหน้าของจางเหวินเจี๋ยเปลี่ยนไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง