จบกัน
เวลานี้ในหัวสมองของมู่เซิ่ง มีอยู่เพียงความคิดเดียวเท่านั้น
ยอมรับสารภาพก็ลดโทษเบา ปฏิเสธต่อต้านก็ลงโทษหนัก? แม้ว่าซูอีเข่อจะดูเหมือนคนที่โผงผางตรงไปตรงมา แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็เป็นผู้หญิง เมื่อพิจารณาจากมุมมองของความเป็นผู้หญิงแล้ว ต่อให้มู่เซิ่งไม่ได้ตั้งใจ ก็คงยากที่จะพ้นความผิดนี้ไปได้
แม้ว่ามู่เซิ่งจะสามารถวิ่งหนีไปเลยก็ได้ ถึงอย่างไรจากมุมมองของเขาแล้ว บางทีในอนาคตอาจจะไม่ได้มีการติดต่อสัมพันธ์อะไรกับซูอีเข่อและตงเสี่ยวเย่อีกก็เป็นได้ แต่จิตใจอันดีงามของมู่เซิ่งนั้นไม่อนุญาตให้เขากระทำแบบนี้
เสียงน้ำได้ปกปิดเสียงของมู่เซิ่งเอาไว้ ทำให้เขาสามารถมองดูได้มากขึ้น แต่เมื่อรวมเวลาแล้วก็เพียงแค่สองถึงสามวินาทีเท่านั้น ด้านซูอีเข่อที่กำลังดื่มด่ำอยู่กับการอาบน้ำก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายลมหายใจของอีกคนหนึ่ง จึงหันหลังกลับมาในทันที
เมื่อเธอมองเห็นมู่เซิ่งแล้ว ร่างกายก็สั่นเทาไปทั้งตัว
เพราะว่าแสงไฟและเงา ทำให้ซูอีเข่อมองไม่เห็นสภาพที่ตกตะลึงบนใบหน้าของมู่เซิ่ง ทางมู่เซิ่งที่เป็นวัวสันหลังหวะนั้นก็ได้ปิดตาลง แต่เพื่อจะสังเกตเหตุการณ์ภายนอก ความอยากรู้อยากเห็นจึงทำให้มู่เซิ่งลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย
ถูกต้อง เมื่อฉันทบทวนความคิดการกระทำของตนแล้ว ที่ฉันลืมตาขึ้นนั้นก็ยังมีความตั้งใจอย่างอื่นด้วย
มองเห็นซูอีเข่อที่ร่างกายสั่นเทา สีหน้าจากที่แดงก่ำได้กลายเป็นเขียวปั้ตไปแล้ว มู่เซิ่งมองเห็นหยดน้ำที่สั่นสะเทือนบนไหล่ของเธอ ราวกับว่าสามารถส่งเสียงตะโกนขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยมู่เซิ่งไม่ได้พูดอธิบายและก็ไม่ได้หนีไปไหน แต่กลับกล้าที่จะเดินตรงเข้าไปในห้องอาบน้ำ อย่างโจ่งแจ้ง
ซูอีเข่อตกใจ แล้วก็ก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ พร้อมกับคว้าผ้าขนหนูที่อยู่ด้านข้างมาปกปิดร่างกายเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันซูอีเข่อที่รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดนั้นก็ไม่ได้ส่งเสียงกรีดร้องแต่อย่างใด
เพราะว่าคนทั่วไปหากพบเจอกับสภาพเหตุการณ์นี้แล้ว ก็คงจะวิ่งหนีออกไป แต่มู่เซิ่งกลับเดินตรงเข้ามา ซูอีเข่อจึงเกิดความลังเลใจขึ้นในทันที
สำหรับที่มู่เซิ่งต้องการนั้น ก็คือช่วงเวลาแวบเดียวนี้ของเธอ
วินาทีต่อมา มู่เซิ่งก็หันหน้าเดินตรงไปที่อ่างล้างหน้า จากนั้นก็ค่อย ๆ หยิบแปรงสีฟันขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง แล้วก็ออกแรงบีบยาสีฟัน แน่นอนว่า เขาได้ข้ามขั้นตอนของการเปิดฝาหลอดยาสีฟันไป ที่เขาทำแบบนี้ก็เพียงแค่การแสดงเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะแปรงฟันจริง ๆ สักหน่อย
จากนั้น มู่เซิ่งก็ยกแปรงสีฟันที่ไม่มียาสีฟันขึ้น แล้วก็เริ่มแปรงฟันในปากอย่างช้า ๆ
ซูอีเข่อยิ่งมองดูก็ยิ่งสับสน คนผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำเพื่อแปรงฟันในช่วงกลางดึกแบบนี้เหรอ?
แต่ทว่าหลังจากนั้น มู่เซิ่งก็หันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว
“อ่า......”
ซูอีเข่ออุทานขึ้น พร้อมกับปกปิดร่างกายแล้วก็นั่งยองลงไป
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่จาง ๆ มู่เซิ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนนั้น ไม่เพียงแต่ใบหน้าของซูอีเข่อ แผ่นหลังของเธอเองก็กลายเป็นสีแดงระเรื่อ ผ้าขนหนูปกคลุมที่หน้าอก แต่เพื่อต้องการจะปกคลุมให้ทั่วร่างกาย ตำแหน่งของผ้าขนหนูจึงค่อนข้างต่ำลงมาหน่อย ภายใต้ความมืดมิดนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างลาง ๆ ซึ่งแทบจะทำให้มู่เซิ่งถึงกับเลือดกำเดาพุ่งออกมาเลยทีเดียว
สงบนิ่ง ต้องสงบนิ่งเอาไว้
มู่เซิ่งพูดปลอบใจตนเองอย่างไม่หยุด เวลานี้เขากำลังอยู่ในสภาวะที่คับขัน หากมีเลือดกำเดาไหลออกมาแล้วก็คงจะจบเห่กัน
ระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้ แล้วมู่เซิ่งก็นั่งไปบนฝาชักโครกอย่างเพลิดเพลิน พร้อมกับผิวปากที่ไม่เป็นจังหวะบทเพลง
จุดที่ซูอีเข่อนั่งยองนั้น อยู่ทางซ้ายมือของมู่เซิ่งในระยะห่างประมาณหนึ่งก้าว แสงจันทร์จาง ๆ ได้สะท้อนกระจกส่องกลับมา ซึ่งจากมุมนี้ เธอสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ดวงตาของมู่เซิ่งกำลังปิดอยู่
“หรือว่าจะเป็น การละเมอ? ” ซูอีเข่ออดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำขึ้น
น้ำเสียงของเธอ ถ้าจะพูดว่ากำลังตกตะลึงนั้น ควรจะพูดว่ากำลังสงสัยเสียมากกว่า หรือว่าจะเป็นการปลอบใจตัวเอง ภายในน้ำเสียงแฝงไปด้วยกลิ่นอายความรู้สึกว่ากำลังหลอกตัวเองอยู่ไม่มากก็น้อย
เพราะว่า หากมู่เซิ่งละเมอนั้น ภาพตอนที่เธออาบน้ำมู่เซิ่งก็คงจะมองไม่เห็น ส่วนในความทรงจำของมู่เซิ่ง ก็คงจะไม่มีภาพเหตุการณ์ที่เก้อเขินที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...