มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 404

เมื่อได้ยินเซียวจ้านหัวเราะถากถางต่อมู่เซิ่งแล้ว ถึงแม้ว่าทุกคนที่นั่งกันอยู่นั้นต่างก็ไม่เอ่ยปากพูดเสียดสี แต่ก็ได้แอบทยอยพยักหน้ากันทั้งหมด

ใช่อ่า มู่เซิ่งจะมีคุณสมบัติพอที่จะเอาเบอร์โทรศัพท์ของประธานเหยาเหรอ

หากว่านายเป็นเจ้าบ้านของตระกูลอันดับสองแห่งหนึ่งก็ถือว่าโอเค พอที่จะมีสิทธินั้นได้ แต่นายเป็นเพียงแค่ลูกเขยที่แต่งงานแล้วมาอยู่กับฝ่ายหญิงของตระกูลอันดับสองเท่านั้น ซึ่งเป็นไอ้ขยะที่ไม่ได้เรื่องอย่างที่สุด คนประเภทนี้ต่อให้ต้องการเบอร์ติดต่อของพวกเรา พวกเราเองต่างก็รู้สึกขายหน้า ซึ่งไม่ต้องไปพูดถึงมู่เซิ่งเลย

“เซียวจ้าน ถึงอย่างไรมู่เซิ่งก็เป็นคนของทัพเต่าดำ หากต้องการเบอร์ติดต่อของประธานเหยาก็คงไม่ถือว่าเกินไปนักหรอก” หยางฟางฟางพูดตอบโต้แทนมู่เซิ่งกลับไป

“เหอะเหอะ ที่เข้าร่วมได้นั้นก็เพราะใช้เส้นสายต่างหาก นายคิดว่าโควต้าของทัพเต่าดำใช้เงินซื้อไม่ได้เหรอ? ” เซียวจ้านหัวเราะเยาะ

ทุกคนพยักหน้า แม้ว่าทัพเต่าดำจะมีเงื่อนไขสูง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนที่จ่ายเงินซื้อโควต้าเข้าร่วม ซึ่งในสายตาของพวกเขาแล้ว มู่เซิ่งก็น่าจะเป็นบุคคลประเภทนี้

สำหรับที่ว่าทำไมมู่เซิ่งถึงสามารถต่อสู้เอาชนะเซียวจ้านได้?

เซียวจ้านไม่ยอมรับว่ามู่เซิ่งนั้นมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าเขา ดังนั้นเขาถึงเห็นด้วยกับความคิดของพวกลูกน้องเหล่านั้นว่า มู่เซิ่งอาศัยจังหวะลอบโจมตีในตอนที่ไม่ทันตั้งตัว จึงสามารถเอาชนะเขาลงได้

“ใช่เลย หยางฟางฟาง สถานะของมู่เซิ่งไม่คู่ควรที่จะขอเบอร์ติดต่อของประธานเหยา หากว่าประธานเหยารู้ว่าพานจื้อเหว่ยแนะนำมู่เซิ่งให้กับเขาแล้ว เกิดโมโหและเข้าใจผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร? ”

“ฉันคิดว่ามีเหตุผล คนที่มีสถานะอย่างมู่เซิ่งเพิ่มเบอร์ติดต่อของประธานเหยา ก็คงจะทำให้ประธานเหยาโมโห ที่สร้างความรำคาญยุ่งยากให้กับเขา”

“ฉันเตือนเธอนะว่าอย่าให้มู่เซิ่งไปติดต่อประธานเหยาเองเลย ซึ่งก็ดีต่อมู่เซิ่งเองด้วย”

คนกลุ่มนี้ทยอยพูดเตือนกันขึ้น

หยางฟางฟางฟังแล้วก็รู้สึกโกรธ เพราะอะไรที่พวกนายถึงมีสิทธิที่จะเพิ่มเบอร์ติดต่อประธานเหยา แต่มู่เซิ่งกลับไม่มีสิทธิล่ะ?

มู่เซิ่งยิ้ม เบอร์ติดต่อของประธานเหยาเขามีมาตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มเข้าไปอีกครั้ง เขายิ้มและพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องหรอก ถึงอย่างไรก็ใกล้จะพบเจอกับเขาแล้ว”

พบเจอ?

ทุกคนตกใจ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

นายก็แค่ไอ้กระจอก ยังจะสามารถพบเจอกับประธานเหยาได้เหรอ? คุยโวโอ้อวดก็ไม่ใช่ว่าจะทำกันแบบนี้หรอกนะ?

หยางฟางฟางเองก็ตกใจขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอมองไปที่มู่เซิ่งด้วยสายตาที่แปลกประหลาด แม้แต่หยางฉางจุนพ่อของเขาก็ยังไม่มีสิทธิพบเจอกับเหยาเผิงเลย แล้วทำไมมู่เซิ่งถึงกล้าพูดแบบนี้ออกมาด้วย?

ลูกเศรษฐีกี่คนนั้นพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่ได้สนใจมู่เซิ่ง ไอ้คนที่ได้แต่คุยโวโอ้อวด พูดมากไปก็ไร้สาระเปล่า คาดว่าตอนที่พบเจอกับเหยาเผิง คงจะขาอ่อนจนเดินไม่ไหวแล้ว

ไม่นานนัก หยางฉางจุนพ่อของหยางฟางฟางก็เดินลงมาจากชั้นบน โดยข้างกายของเขายังมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่อายุราวสามสิบกว่าปียืนอยู่ด้วย ชายคนนั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา โดยทั้งสองคนพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ชายอีกคนหนึ่งนั้นก็คือเจ้าบ้านตระกูลโม่ โม่หรูถง ท่วงท่ามีสง่าราศี มองดูแล้วก็น่าจะเป็นผู้ฝึกฝนด้วยเหมือนกัน อีกทั้งวิทยายุทธก็ไม่ต่ำด้วย

ด้านข้างของคนนั้น ยังมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่มีอายุยี่สิบกว่าปี ซึ่งมีลักษณะท่าทางราวกับชายวัยกลางคน โดยไม่บอกก็รู้ว่า คือลูกชายของโม่หรูถง

หยางเหม่ยหลินเมื่อเห็นเจ้าบ้านตระกูลโม่เดินลงมา ก็พูดขึ้นอย่างออดอ้อนว่า: “เจ้าบ้านโม่ ท่านทำไมถึงพูดคุยกับพ่อของฉันนานขนาดนี้ล่ะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็เพราะเรื่องของไอ้เด็กน้อยของตระกูลฉันยังไงล่ะ” โม่หรูถงพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม และสายตาก็จดจ้องมองมาที่ตัวของหยางเหม่ยหลิน

ทุกคนเข้าใจกันดี ได้แต่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร

เดิมทีหยางฉางจุนคิดที่จะยกหยางเหม่นหลินให้แต่งงานกับเซียวจ้าน กลับกลายเป็นว่าในตอนนี้ก็มามีความสัมพันธ์ที่คลุมเคลือกับตระกูลโม่อีก สังคมชั้นสูงนี้มันสับสนวุ่นวายเสียจริงเชียว

แต่ทางมู่เซิ่งเองก็ไม่ได้สนใจอะไรกับความสัมพันธ์ของตระกูลใหญ่แบบนี้ โดยนั่งอย่างเงียบ ๆ อยู่ทางด้านข้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง