เดิมทีมู่เซิ่งเองไม่อยากที่จะมีการติดต่อสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหยางอีกแล้ว แต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างหยางฟางฟางกับเขานั้นถือว่าไม่เลว อีกทั้งเป็นเพราะเรื่องที่ขัดต่อมโนธรรมที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้ มู่เซิ่งกังวลว่าหากต่อไปพบเจอกับเหตุการณ์อะไรขึ้น ถ้าตอนนี้ผูกมิตรอันดีกับทางหยางฟางฟางเอาไว้ก่อน บางทีหล่อนอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจที่จะไปพบเจอ
“มู่เซิ่ง ในที่สุดนายก็มาแล้ว”
เมื่อหยางฟางฟางเห็นมู่เซิ่งแล้ว ก็กวักมือเรียกขานด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“หยางฟางฟาง เธอเรียกฉันมามีอะไรเหรอ? ” มู่เซิ่งถามขึ้น
สถานที่ที่พบเจอกันครั้งนี้ไม่ใช่โกดังสินค้าที่อยู่ห่างไกลนั้น แต่ตำแหน่งของโกดังนี้อยู่ไกลมากกว่าโกดังที่มู่เซิ่งเคยมาครั้งก่อนเสียอีก แทบจะพูดได้ว่าไกลออกมาจากเมืองหนานเจิ้นไปแล้ว ที่หยางฟางฟางได้เรียกตนเองออกมาพบกันในสถานที่ไกลขนาดนี้นั้น จะต้องมีเรื่องอะไรอย่างแน่นอน
“มีเรื่องแน่นอน และยังเป็นเรื่องที่ดีด้วย” ใบหน้าของหยางฟางฟาง แสดงท่าทางที่ตื่นเต้นดีใจ
“เรื่องดีอะไรเหรอ? ไม่ใช่ว่าจะให้ฉันไปเข้าร่วมการแข่งขันอะไรอีกล่ะ? ” มู่เซิ่งขมวดคิ้วและพูดขึ้น: “หากว่าเป็นแบบนี้ ฉันไม่ขอเข้าร่วมแล้ว”
ก็เหมือนกับโควตาทีมของสี่องค์กรใหญ่ในครั้งที่แล้ว สำหรับคนทั่วไปนั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ยากจะปฏิเสธ แต่สำหรับมู่เซิ่งแล้ว กลับกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากน่ารำคาญ
การคัดเลือกของสี่องค์กรใหญ่นั้น มู่เซิ่งไม่สนใจที่จะเข้าร่วมเลย เพียงแต่เป็นเพราะภายในมีวัตถุดิบของยาที่เขาต้องการจะนำมากลั่น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วม
เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่ก็ต้องขอบคุณหยางฟางฟางมาก เพราะว่าตอนที่หยางฟางฟางมาหาตนเองนั้น ตนเองก็ไม่ปฏิเสธแล้ว
หยางฟางฟางเบะปาก และพูดว่า: “ก็นายวางมาดเกินไปหน่อย ฉันคงจะไม่นำเรื่องสี่องค์กรใหญ่นั้นมาทำให้นายยุ่งยากหรอก ครั้งนี้ที่มานั้นมีเรื่องดีเรื่องหนึ่งจริง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยกว่าที่ตระกูลของฉันจะขอร้องมาได้”
“ตระกูลของพวกเรารู้จักกับตระกูลโม่ แล้วก็ได้รับน้ำวิเศษพลังเสวียนมาอย่างน่าแปลกใจ ได้ยินว่าไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้แล้ว ขนาดผู้บำเพ็ญทั่วไปดื่มเข้าไปแล้ว ก็ยังสามารถเพิ่มระดับวิทยายุทธให้สูงขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งพ่อของฉันได้พาฉันไปโดยเฉพาะเลย”
หยางฟางฟางเหมือนจะมีคำพูดมากมายที่จะพูดกับมู่เซิ่ง เมื่อเริ่มต้นก็พรั่งพรู พูดออกมาไม่หยุด:
“หากโดยทั่วไปแล้ว พ่อของฉันคงจะไม่พาฉันไปแน่ แต่ตอนนี้ฉันเป็นปรมาจารย์บู๊แล้ว กลายเป็นนักสู้ชั้นยอดภายในตระกูล พ่อของฉันจึงต้องพาฉันไปด้วย และยังจะให้โควต้าบัตรเชิญกับฉันหนึ่งใบด้วย นายดูสิ แล้วฉันก็นึกถึงนายขึ้นเป็นอันดับแรกเลย เจ๋งไหมล่ะ? ”
หยางฟางฟางโบกกำปั้นไปมา และพูดขอความดีความชอบจากมู่เซิ่ง
“น้ำวิเศษพลังเสวียน? ” มู่เซิ่งขมวดคิ้วขึ้น
เขารู้สึกว่า ชื่อนี้ตนเองเหมือนจะเคยได้ยินมาจากที่ไหน
“ได้ยินว่าสรรพคุณการรักษาโรคของน้ำเทพนี้ ก็ยังสามารถทำให้นักบำเพ็ญทั่วไปทะลุขั้นแดนขึ้นเป็นปรมาจารย์บู๊ได้ด้วย ก่อนหน้านี้นายเคยได้ให้ยาฉันมาหนึ่งเม็ด เพื่อให้ฉันทะลุขั้นแดนขึ้นเป็นปรมาจารย์บู๊ ดังนั้นในครั้งนี้ ฉันเตรียมจะนำส่วนของฉันนั้นให้กับนายดื่ม”
“แม้ว่านายจะไม่อยากดื่ม ก็นำกลับไปให้เจียงหว่านดื่มก็ได้”
“สิ่งของที่น่าอัศจรรย์นี้ ได้ยินว่าตามท้องตลาดทั่วไปจำหน่ายกันอยู่ที่ราคาสิบกว่าล้านต่อหนึ่งขวดเลยทีเดียว ถึงแม้ราคาจะสูงแต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งจำหน่ายกันไปจนไม่มีของเหลือแล้วด้วย”
ได้ยินหยางฟางฟางพูดแนะนำอย่างไม่หยุด มู่เซิ่งก็พยักหน้าอย่างจำใจ “ก็ได้ ฉันจะลองไปดูกับเธอหน่อย”
แต่ในใจของเขาชัดเจนอย่างดีว่า ชื่อของน้ำวิเศษพลังเสวียนนี้ฟังดูแล้วค่อนข้างจะยิ่งใหญ่ไม่เบา แต่ส่วนมากแล้วก็คงจะไม่มีประสิทธิภาพที่ดีนัก อย่างมากก็คงเป็นสิ่งของที่นักกลั่นยาชั้นต่ำบางคนกลั่นออกมาก็เท่านั้น
มู่เซิ่งยากที่จะปฏิเสธ อีกทั้งยังเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว จึงทำได้เพียงตอบตกลง
ตลอดทาง เขายังมองเห็นชายชุดดำที่สวมใส่ชุดคลุมยาวสีดำและใส่หน้ากากปิดปากจำนวนไม่น้อยเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกคนเหล่านี้ราวกับว่ากลัวคนอื่นจะเห็นรูปลักษณ์ภายนอกอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งภายในอากาศแฝงไปด้วยกลิ่นอายลมหายใจที่จริงจังเคร่งขรึมอยู่บ้าง
ขณะที่มู่เซิ่งเดินตามหยางฟางฟางมาถึงด้านหน้าของคฤหาสน์ที่สวยหรูแล้ว เวลานี้ภายนอกนั้น ก็มีรถสปอร์ตจอดกันอยู่หลายคันแล้ว
ชัดเจนว่า มีคนจำนวนไม่น้อยมาถึงกันก่อนแล้ว
รถสปอร์ตกี่คันนี้มู่เซิ่งคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเคยเห็น ถ้าหากเขาจำไม่ผิด น่าจะเป็นรถสปอร์ตที่พบเห็นอยู่ในสนามแข่งรถเมื่อวานนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...