“อย่างนั้นถ้ามีภรรยาแล้ว จะรังเกียจไหมหากจะมีเพิ่มอีกสักหนึ่งคน? ”
ซูอีเข่อไม่ถอดใจ แล้วร่างกายก็แนบชิดเข้ามาหามู่เซิ่งในทันที
แม้ว่าตอนนี้เธอจะมีสติไม่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะไม่รู้สึกตัว กลับกลายเป็นว่าเมื่อดื่มเหล้าจนเมาแล้ว ในร่างกายก็แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความมึนเมาที่เข้มข้น ร่างกายอ่อนนุ่มไร้เรี่ยวแรง ราวกับเส้นหมี่ที่พาดอยู่บนตัวของมู่เซิ่งอย่างไรอย่างนั้น
มู่เซิ่งอดหน้าแดงขึ้นไม่ได้
แม้ว่าเขาจะพบเจอกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่ถึงอย่างไรมู่เซิ่งก็ยังเป็นชายที่บริสุทธิ์อยู่ กับเจียงหว่านนั้นอย่างมากก็แค่จูงมือกัน จูบกันบ้างเล็กน้อย ซึ่งยังไม่เคยแม้แต่จะนอนในผ้าห่มเดียวกันเลย แล้วเขาจะอดทนต่อการเย้ายวนนี้ได้อย่างไร
ขณะที่มู่เซิ่งกำลังจะปฏิเสธนั้น ซูอีเข่อก็ตัวสั่นเทา ราวกับว่าคิดถึงเรื่องอะไรขึ้นได้ แล้วก็เหยียบย่ำเดินไปบนพื้นที่แวววาว เพียงแวบเดียวก็วิ่งไปถึงที่ระเบียงแล้ว
“ซูอีเข่อ ที่นั่นคือ......”
มู่เซิ่งรีบวิ่งตามเข้าไปในห้อง เมื่อจ้องสบตากัน ก็พลันตกตะลึง......
เวลานี้ ซูอีเข่อกำลังนั่งยองอยู่ที่ด้านหน้าของกระถางดอกไม้ขนาดใหญ่ มือสองข้างถือชุดกระโปรง แล้วมองมาที่มู่เซิ่งด้วยสายตาที่สับสนและสงสัย มู่เซิ่งตกใจขึ้น คิดในใจว่าคงจะจบเห่แน่แล้ว สถานการณ์แบบนี้ แม้ว่าเขาจะมีความผิดแต่ก็ชี้แจงได้ไม่ชัดเจนอ่า
มู่เซิ่งรีบวิ่งออกไป ในใจตะโกนว่าผิดมารยาทห้ามแอบดู แต่ในความจริงแล้วก็ยังคงร้อนรุ่มอยู่บ้าง
แต่ความเด็ดเดี่ยวของมู่เซิ่งนั้นถือว่าพอใช้ได้ เมื่อมาถึงห้องแล้วก็รีบหยิบน้ำออกมา แล้วก็ดื่มเอื๊อกลงไปทันที เพื่อสงบจิตใจของตนเองให้เย็นลง
“ไม่ได้ ฉันเป็นสุภาพบุรุษ ห้ามกระทำเรื่องแบบนี้โดยเด็ดขาด! ”
“นอกจากนี้การที่ชายและหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องนั้น มันก็ยากที่จะอธิบายอยู่แล้ว ช่างเถอะ ฉันกลับออกไปดีกว่า ไม่อย่างนั้นก็จะพูดอธิบายได้ไม่ชัดเจนแล้ว! ”
ขณะที่มู่เซิ่งพูด ก็คิดที่จะออกไปจากที่นี่
แต่เมื่อเขาก้าวออกไปหนึ่งก้าวนั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้น
“ไม่ได้ เธอดื่มมากเกินไปแล้ว หากว่าไม่มีคนคอยดูแลก็คงจะไม่ได้ เพราะเธอกินเหล้าด้วยกันกับฉัน หากฉันไม่สนใจ......ก็คงจะไม่ได้เหมือนกัน! ”
มู่เซิ่งคิดไม่ตกในทันที ในหัวสมองมีคนสองคนเริ่มจะทะเลาะกัน คนหนึ่งบอกให้เขาจากไป อีกคนหนึ่งบอกให้เขาอยู่ต่อ มู่เซิ่งเองก็กลุ้มใจ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีแล้ว!
มู่เซิ่งสูดหายใจลึก แล้วก็หยิบน้ำออกมา ดื่มเอื๊อกลงไปอีก
สำหรับมู่เซิ่งแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่มีพลังวังชาอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งเป็นปกติหากจะมีความต้องการทางด้านนี้ เพียงแต่ว่าเขาก็ยังคงตั้งสติยับยั้งชั่งใจเอาไว้ได้ ไม่อยากที่จะล้ำเส้นเกินเลยไป
ในขณะนั้นเอง ก็เกิดเสียงดัง “ฟุบ” มู่เซิ่งจึงรีบวิ่งเข้าไปดูทันที
ไม่นึกว่าจะพบเห็นซูอีเข่อล้มลงอยู่ที่ด้านข้างของกระถางดอกไม้ โดยไม่ขยับเขยื้อน ส่วนต้นกล้าของต้นสนที่อยู่ใต้แสงจันทร์นั้น ใบไม้เขียวของมันกำลังส่องแสงระยิบระยับ
“ซูอีเข่อ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? ”
มู่เซิ่งรีบเข้ามาสอบถาม
กางเกงของซูอีเข่อก็ยังไม่ได้ดึงขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อย เหมือนว่าเมื่อครู่ที่เธอไปเข้าห้องน้ำนั้นก็เผลอหลับไป มู่เซิ่งใช้แรงเขย่าที่ไหล่ของซูอีเข่อสองครั้ง ทางซูอีเข่อเพียงแค่ส่งเสียงฮึ โดยที่ยังคงหลับลึกอยู่
นี่หลับลึกขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เขย่าตัวสองครั้งแล้วก็ยังไม่ตื่น มู่เซิ่งจึงอยากที่จะเดินจากไปแล้ว
แต่หากไม่สนใจซูอีเข่อที่อยู่บนพื้น ช่วงหน้าร้อนแบบนี้หากนอนทั้งคืนอยู่บนพื้นที่มันวาวนี้ รับรองว่าจะต้องเป็นไข้อย่างแน่นอน ดังนั้นมู่เซิ่งจึงเงยหน้าและหลับตาแล้วก็ดึงกางเกงของซูอีเข่อขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อย
หากจะบอกว่ามองไม่เห็นนั้น มันก็เป็นการโกหก คุณว่าสายตาของมู่เซิ่งหลังจากที่ขึ้นชั้นเป็นนักเสวียนแล้วนั้นเป็นเพียงสิ่งตกแต่งหรอกเหรอ? แต่หากบอกว่าเห็นอย่างชัดเจนแล้ว มู่เซิ่งก็รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมอย่างมาก
สวมใส่ชุดกระโปรงอยู่ แล้วจะมองเห็นอย่างชัดเจนได้อย่างไรกัน
“ซูอีเข่อ ตื่นได้แล้วซูอีเข่อ”
“มู่......มู่เซิ่ง ดื่มสิ วันนี้ฉันจะมอมเหล้านายจนเมาแล้วพาตัวนายกลับมาที่บ้านให้จงได้......” ขณะที่พูดนั้น ซูอีเข่อก็ยื่นมือไปโน้มที่ลำคอของมู่เซิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...