สายตาลู่ฝานลุกโชน กวาดตามองของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามอย่างไม่หยุด
สายตาของเขาไม่สามารถจ้องไปที่ต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์นานเกินไป เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นออกว่าเขาต้องการต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์
แม้ดูเหมือนผู้อาวุโสทั้งห้าคนไม่ได้หวาดระแวงเขา อีกทั้งต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์ยังอยู่ใกล้ตรงหน้า
แต่ลู่ฝานรู้เป็นอย่างดี อย่ามองแค่ว่าห่างแค่ไม่กี่ก้าว
ถ้าเขาหาวิธีก้าวไปไม่ได้ งั้นต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์กับเขาคงไร้วาสนาต่อกัน ลู่ฝานลองยื่นมือไปด้านหน้า
จู่ๆ เขารู้สึกว่าวิถีรอบๆ เริ่มกดทับตัวเขา นี่ไม่ใช่พลังฟ้าดิน สามารถใช้ปราณชี่ขับไล่ออกไปได้ นี่คือวิถีดั้งเดิมของฟ้าดิน
แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งห้าคนก็คงไม่กล้าเข้าใกล้ของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างนี้
แม้พวกเขามีพลังฟ้าดิน รู้วิถีอย่างแจ่มแจ้ง ลู่ฝานเดาว่าอย่างมากพวกเขาก็เดินมาข้างหน้าได้แค่ 2-3 ก้าว
ยังมีระยะห่างอีกตั้งช่วงหนึ่งกว่าจะสัมผัสของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามอย่างได้
ผู้อาวุโสหั่วยู่เฉินยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นไง ตกตะลึงกับสมบัติของประเทศตันเซิ่งหรือเปล่า ประมุขประเทศตันเซิ่งเคยพูดว่าแค่ของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างนี้ยังอยู่ที่สวรรค์ชั้นแปด ประเทศตันเซิ่งก็จะคงอยู่ตลอดไป!”
ลู่ฝานพูดด้วยใบหน้ามีรอยยิ้ม “เป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ ผู้อาวุโส ฉันลองจับดูได้ไหม”
ผู้อาวุโสห้าคนหัวเราะพร้อมกัน
ผู้อาวุโสจินอี้พูดว่า “ประมุขประเทศตันเซิ่งบอกว่าใครเข้าใกล้ได้ก็จับได้ตามสบาย แค่อย่าเอาไปก็พอ!”
ผู้อาวุโสมู่หยู่ซิงพูดว่า “กลัวว่านายยังไม่ทันได้เข้าใกล้ จะโดนวิถีแห่งฟ้าดินทำลายเสียก่อนน่ะสิ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพยักหน้า นัยน์ตามีประกายประหลาด
ในเมื่อไม่ขัดขวางให้เขาเข้าไปใกล้ งั้นก็ง่ายขึ้นหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า