อาหารมื้อกลางวันก็ทำเสร็จหมดแล้ว คนผู้นั้นยังไม่กลับมาสักที ประเดี๋ยวจะเย็นแล้ว
เจ้าก้อนน้อยเคี้ยวตุ้ยตุ่ยอยู่ในปาก ไม่ตอบ
โจวกุ้ยหลานอดบ่นขึ้นมาอีกไม่ได้ “คงไม่ใช่ว่าไปล่าสัตว์อีกนะ? แต่ไม่ถูก คันธนูกับลูกธนูเขาก็อยู่ในบ้านนี่...”
“ท่านแม่ กิน” เจ้าก้อนน้อยเคี้ยวที่อยู่ในปากหมดก็เอ่ยปากกับโจวกุ้ยหลาน
“เราต้องรอพ่อเจ้ากลับมาถึงจะเริ่มกินได้ รู้หรือไม่?”
โจวกุ้ยหลานจ้องโจวกุ้ยหลานอบรมอย่างจริงจัง
เจ้าก้อนน้อยพยักหน้า “ได้”
โจวกุ้ยหลานนั่งเป็นเพื่อนเจ้าก้อนน้อยครู่หนึ่ง มองไฟที่อยู่ในเตา รู้ว่าข้าวที่หุงอยู่ก็จวนจะสุกแล้ว นางจึงไม่สนใจอีก พาเจ้าก้อนน้อยเข้าบ้านแล้วเริ่มจัดการกับอาหารที่กองอยู่เต็มโต๊ะ
ธันยพืช?
นางหยิบไปที่ห้องครัว อาหารเอากลับห้องครัวด้วย สำหรับผ้าชิ้นและฝ้ายก็วางอยู่ในห้องโถงนั่นแหละ ไม่มีสถานที่กว้างพอที่จะวาง
ขนมที่ซื้อล่ะ? เขาวางอยู่ในเรือนไม้ไผ่
ส่วนของกระจุกกระจิกก็จัดแบ่งตามหมวดหมู่
เก็บอยู่อย่างนี้พักหนึ่ง แต่ก็ยังเก็บไม่หมด!
ขณะที่สองแม่ลูกกำลังขมีขมันหอบแฮก ในที่สุดสวีฉางหลินก็กลับมาจากข้างนอก ในมือยังหิ้วตะกร้าอยู่ใบหนึ่ง
“ท่านพ่อ กินข้าวแล้ว!” เจ้าก้อนน้อยรีบเรียก ก้าวขาสั้นๆ วิ่งไปทางสวีฉางหลิน
สวีฉางหลินวางตะกร้าอยู่กับพื้น แล้วยกมืออุ้มเจ้าก้อนน้อยขึ้นมา
“ท่านแม่ทำของอร่อยเยอะแยะเลยล่ะ!” เจ้าก้อนน้อยกล่าวด้วยเสียงเด็กน้อย เมื่อนึกถึงของอร่อยเหล่านั้นในห้องครัว เขาก็อดกลืนน้ำลายเป็นไม่ได้
สวีฉางหลิน “อื่ม” ทีหนึ่ง แล้วหันไปทางโจวกุ้ยหลาน เอ่ยเสียงใสเย็น “วันนี้กินอะไรหรือ?”
“ของดีที่เจ้าไม่เคยกิน!” โจวกุ้ยหลานก็ถูกอารมณ์ของเจ้าก้อนน้อยแผ่มาถึงด้วย ยิ้มตาหยีเอ่ย
ดังนั้นหนึ่งครอบครัวสามคนจึงไปที่ห้องครัว โจวกุ้ยหลานยื่นอาหารให้สวีฉางหลิน สวีฉางหลินจึงวางเจ้าก้อนน้อยลงกับพื้นแล้วรับอาหารจากนางก่อนจะเดินออกไปข้างนอก
โจวกุ้ยหลานสั่งกับเจ้าก้อนน้อยที่ยืนอยู่ “หยิบตะเกียบสามคู่แล้วไปที่โต๊ะข้างนอก”
“ได้” เจ้าก้อนน้อยขานรับเสียงหนึ่ง เขย่งเท้าหยิบตะเกียบสามคู่ แล้วก้าวขาสั้นๆ ออกไป
ทั้งสามเดินเข้าเดินออกพัลวัน เมื่อจัดอาหารไว้บนโต๊ะเสร็จแล้ว โจวกุ้ยหลานจึงยกข้าวสองถ้วยออกมานั่งตรงตำแหน่งของตัวเอง
เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ สวีฉางหลินก็ตะลึงงันเล็กน้อย “อาหารเยอะแยะปานนี้ ฉลองปีใหม่หรือ?”
นี่มีแต่เนื้ออยู่เต็มโต๊ะ นับจากมื้อที่กินในโรงเตี๊ยมเทียนเซียง พวกเขาก็ไม่เคยกินอาหารที่พรั่งพร้อมอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้อีก
“ไม่ใช่ฉลองปีใหม่ แต่ครอบครัวเราควรกินอาหารดีๆ สักมื้อนะ!” โจวกุ้ยหลานปลื้มปริ่มอย่างยิ่ง
ระยะก่อนพวกเขายุ่งแต่กับการจัดสวนผัก ทั้งวันหากไม่ใช่ไชเท้าก็คือผักกาดขาว นางรับประทานจนปากจืดไปหมดแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าก้อนน้อยที่กำลังเจริญเติบโต
แล้วยังสวีฉางหลินที่ลงแรงทั้งวันอีก ร่างกายนางก็ย่ำแย่มาก สมควรบำรุงดีๆ
“น่าจะเชิญท่านแม่ยายกับพี่ใหญ่ด้วยนะ” นัยน์ตาสวีฉางหลินลุ่มลึก
สวีฉางหลินกล่าวเช่นนี้ได้ เป็นเพราะเห็นเหล่าไท่ไท่เป็นมารดาของตนจริงๆ โจวกุ้ยหลานย่อมยินดีอยู่แล้ว
น้ำเสียงที่เอ่ยก็ดีกว่าเดิมหลายส่วน “วันนี้พี่ใหญ่ข้าไปดูตัว ส่วนท่านแม่ ตอนนี้นางคงกินแล้วล่ะ เดี๋ยวเรากินเสร็จ ค่อยเอาข้าวกับผักไปให้นาง”
ตอนนี้บ้านรกรุงรัง นางไม่กล้าให้มา มิเช่นนั้นอีกฝ่ายต้องคิดบัญชีกับนางแน่
เอาไว้ค่อยส่งไปให้เหล่าไท่ไท่เถอะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...