สวีฉางหลินที่ยืนอยู่ตรงกลางอัดอั้นตันใจยิ่งกว่า ประชันยื้อยุดระหว่างอารมณ์และความคิดอยู่นาน สุดท้ายยังคงเก็บขาแล้วกลับไปนอนบนเตียงเตาฝั่งของตัวเอง
โจวกุ้ยหลานปลุกปลอกเจ้าก้อนน้อยพักหนึ่งแล้วจึงดีขึ้น ไม่นานก็หลับปุ๋ยไปอีกครั้ง
โจวกุ้ยหลานวางเขานอนอยู่ตรงกลางดีๆ เขาพลิกตัวแล้วเอามือไปวางอยู่บนตัวสวีฉางหลิน
สวีฉางหลินขมวดคิ้วมุ่น นับวันก็ยิ่งรังเกียจบุตรชายคนนี้
เขาตะแคงตัว แล้วยื่นมือข้ามเจ้าก้อนน้อยมาจับมือภรรยาตัวน้อยอีกครั้ง
“พรุ่งนี้ส่งเขาไปนอนกับท่านแม่เถอะ?” สวีฉางหลินปรึกษาหารือกับโจวกุ้ยหลานเบาๆ
“อย่างนั้นเขาไม่เสียใจแย่หรือ?” โจวกุ้ยหลานกล่าวไม่เห็นด้วย
อีกอย่าง นางยังไม่กระจ่างในสถานภาพของสวีฉางหลิน ยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่
ที่แท้ผู้หญิงคนนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แล้วต่อไปจะกลับมาอีกหรือไม่?
สวีฉางหลินเล่นนิ้วของโจวกุ้ยหลาน อึดอัดใจ สุดท้ายจึงได้แต่นอนดีๆ หลับตานอน
เมื่อเห็นอย่างนี้ โจวกุ้ยหลานก็รู้สึกผิดเล็กๆ
ระยะนี้นางคิดฟุ้งซ่าน ไม่สบายใจ อีกอย่างนางก็ร่วมชีวิตกับสวีฉางหลินแล้ว แต่กลับไม่มีความสุข นางกลั้นอารมณ์อยู่เต็มอก ตอนนี้จึงฉวยโอกาสพลิกมือจับมือของสวีฉางหลิน
“แม่ของเจ้าก้อนน้อยยังมีชีวิตอยู่หรือไม่” โจวกุ้ยหลานหักห้ามอารมณ์ของตัวเองเอ่ยถาม
“ไม่รู้” น้ำเสียงของสวีฉางหลินมีความหนักใจ
ฟังแล้วยังเหมือนปวดใจเล็กน้อย
ทันใดนั้นโจวกุ้ยหลานก็รู้สึกขุ่นเคือง ตาคนนี้ดีจริง ตบแต่งกับนาง ดีกับนาง แล้วยังคิดถึงผู้หญิงคนอื่นอีก!
หากเป็นเช่นนี้ นางก็ไม่อยากอดกลั้นอีกต่อไปแล้ว!
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห นางสะบัดมือของสวีฉางหลินออก ผุดลุกขึ้นนั่ง “พูดอย่างนี้ ตัวเจ้าเองก็ยังไม่แน่ใจละสิ?”
สวีฉางหลินพลันรู้ว่าภรรยาตัวน้อยของตัวเองโกรธแล้ว จึงรีบลุกขึ้นนั่งทันที
“เจ้าโกรธหรือ?” ขณะถามเขายังระวังอยู่นิดๆ
“โกรธ? เรื่องนี้แค่โกรธก็แก้ไขได้แล้วหรือ?” โจวกุ้ยหลานตะบึงตะบอนตอบไปประโยคหนึ่ง เหลือบตามองเจ้าก้อนน้อยที่อยู่บนเตียง กดเสียงเบาลงหลายส่วน กลัวจะทำเจ้าก้อนน้อยตื่น
“เจ้าไม่พอใจอะไรข้า?” สวีฉางหลินเอ่ยปากถามอีกครั้ง
ไม่พอใจอะไร? ไม่มีสักหน่อย เขาออกจะดี แล้วยังออกตัวทำงานเอาใจนางอีก อยู่ข้างนอกก็ปกป้องนาง หน้าตาดี ไม่หว่านเสน่ห์ไปทั่ว...
แน่นอนว่าโจวชิวเซียงทึกทักเอาเอง เรื่องนี้จะโทษเขาไม่ได้
แต่เพราะอย่างนี้ เขาถึงน่าโมโหไหม?
นางตระหนักว่าตัวเองมีความรู้สึกกับเขามากขึ้นทุกที แต่เขาเล่า? กลับยังมีผู้หญิงคนอื่นอยู่ในใจ!
“ในเมื่อแม่ของเสี่ยวเทียนยังไม่ตาย แล้วเจ้ามาแต่งกับข้าทำไม?” โจวกุ้ยหลานอดกลั้นความปวดร้าว กดเสียงต่ำถาม
สวีฉางหลินอึ้ง “แม่ของเขาคือแม่ของเขา เจ้าคือเจ้า”
โจวกุ้ยหลานโมโหโกรธากับคำพูดของเขามาก นี่นางจะโมโหตายอยู่แล้ว
อะไรเรียกว่าแม่ของเขาคือแม่ของเขา นางคือนาง?
นี่เรียกว่าเมียน้อยตัวสำรองไหม?
ถึงจะเป็นยุคปัจจุบัน ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเมียน้อย แต่นางก็ร่วมใช้ผู้ชายคนเดียวกับผู้หญิงอื่นอยู่?
คิดแล้วก็รู้สึกขยะแขยง!
“อย่างไร เจ้ายังอยากมีภรรยาอีกสองคน? ต่อไปมีเงินแล้วยังอยากแต่งภรรยาอีกใช่ไหม?” โจวกุ้ยหลานค้อนถามตอบ
ถึงจะเป็นเรื่องปกติในยุคสมัยนี้ แต่นางเป็นคนยุคใหม่ รับไม่ได้!
ไม่ได้ ความรู้สึกไม่บริสุทธิ์อย่างนี้ นางไม่เอาเสียจะดีกว่า!
“เปล่า ข้ามีเจ้าเป็นภรรยาเพียงคนเดียว ต่อไปก็จะมีแต่เจ้าเท่านั้น”
สวีฉางหลินรับประกันทันที
นี่นางเป็นอะไรไป? เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย ทำไมจู่ๆ ก็โกรธล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...