นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 129

ถ้าถ่านดีเยี่ยงนี้มีแค่ที่ร้านเขาที่เดียว เช่นนั้นการค้าของคนอื่นก็ไม่มีทางดีเท่าเขา!

เถ้าแก่พยายามระงับจิตใจตนเอง และทำนิ่ง ถึงถามต่อว่า “ถ่านทั้งหมดที่พวกเจ้าเผาล้วนเป็นระดับนี้กระมัง?”

โจวกุ้ยหลานหันมองสวีฉางหลิน นางไม่รู้เรื่องนี้

พอรับรู้ถึงสายตาภรรยาตน สวีฉางหลินถึงหันบอกเถ้าแก่ว่า “ใช่”

พอได้รับคำตอบแน่ชัด หัวใจเถ้าแก่เต้นเร็วไม่เป็นส่ำ จากนั้นบอกอย่างร้อนใจว่า “เช่นนั้นท่านจะขายข้าเท่าไหร่?”

“เถ้าแก่ เรื่องนี้ท่านพูดดูจะเหมาะสมกว่านะ” โจวกุ้ยหลานดึงเรื่องกลับมาอย่างเหมาะสม เถ้าแก่พยายามระงับจิตใจตนเอง ในใจครุ่นคิด ถ้าซื้อมาทั้งหมด ก็จะยกราคาขึ้นไปดอีก ถึงเวลาต้องมีคนมาซื้อแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะมีคนมากน้อยแค่ไหนยอมจ่ายเงิน

เขามองสำรวจเสื้อผ้าที่สองคนตรงหน้าสวมใส่ ของผู้ชายยังดีหน่อย มีรอยปะชุนแค่สองที่ แต่ของสตรีผู้นี้ ปะชุนแทบหมดทั้งตัวแล้ว คงร้อนเงินอย่างหนัก และที่บ้านจนมาก น่าจะหลอกได้ง่าย

พอคิดอย่างนี้ เขาแสร้งทำหน้าลำบากใจ และยื่นนิ้วออกมาห้านิ้ว “ข้าให้ท่านหนึ่งจินห้าอีแปะ”

“ราคาต่ำเกินไป” โจวกุ้ยหลานส่ายหัว

“ราคาไม่ต่ำแล้ว ถ่านปกติของข้าซื้อมาในราคาสองสามอีแปะ “ เถ้าแก่ร้อนใจรีบอธิบาย

ห้าอีแปะ สำหรับคนยากจนถือว่าไม่เลวแล้ว

“เถ้าแก่ ระดับของถ่านนี่เป็นอย่างไรท่านรู้ดีแก่ใจ กลับเอาราคาของถ่านระดับต่ำสุดมาต่อรองกับถ่านนี้ มิได้ดอก ถ่านนี้ของเราเผายุ่งยากกว่าถ่านธรรมดา ถ้าเถ้าแก่ให้ราคาเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราจะดูที่อื่นล่ะ”

โจวกุ้ยหลานไม่ได้พึ่งทำการค้าครั้งแรก ร้านนี้ไม่รับ ในเมืองยังมีร้านอื่นอีกนี่นา? นางไม่เชื่อหรอกว่า ร้านอื่นก็จะไม่เอาเหมือนกัน

“ถึงจะดีกว่าหน่อย แต่ห้าอีแปะก็ไม่น้อยแล้วนะ” เถ้าแก่ขมวดคิ้ว แต่ยังพยายาม

เห็นเขายังพยายาม โจวกุ้ยหลานกลับไม่อยากเสียเวลาแล้ว “ในเมื่อเถ้าแก่พูดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นครั้งนี้พวกเราคงตกลงกันไม่ได้ ครั้งหน้าค่อยร่วมมือกันแล้วกัน”

พูดเสร็จ ดึงสวีฉางหลินเป็นเชิงให้เขาออกไป

คุยตกลงการค้า จะคุยได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายจริงใจต่อกัน ถ้าเขาไม่ยอม นางก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองน้ำลายคุยต่อแล้ว

“เฮ้อ พวกท่านอย่ารีบร้อนไปสิ การค้าต้องเจรจานี่นา ไม่ได้ ข้าให้หกอีแปะเป็นอย่างไร?”

เถ้าแก่นั่นตะโกนเรียกโจวกุ้ยหลานไล่ตามหลัง “นี่เป็นราคาที่สูงที่สุดที่ข้าให้ได้แล้วนะ!”

“เถ้าแก่ ครั้งหน้ามีโอกาสค่อยคุยกันนะ” โจวกุ้ยหลานหันมาบอกเถ้าแก่นั่นหนึ่งคำ และเดินออกไปอย่างไม่ลังเล นางขึ้นรถเทียมวัว บอกเหล่าหม่าโถวว่า อยากไปร้านอื่น

เถ้าแก่ในร้านขมวดคิ้วมุ่น เห็นพวกเขาไปกันหมดเลย เริ่มร้อนใจขึ้นมาจริงๆ เขาอ้อมผ่านโต๊ะจ่ายเงิน รีบเดินออกมา และเห็นรถเริ่มขยับแล้ว

“เดี๋ยวก่อน! พวกเราคุยกันก่อน!”

ระหว่างพูด เขาก็พุ่งออกมาแล้ว

โจวกุ้ยหลานให้เหล่าหม่าโถวหยุดรถก่อน และกระโดดลงมาจากรถ เดินหลายก้าวมายืนหน้าเถ้าแก่ บอกเขาว่า “เถ้าแก่ หากท่านให้ข้าหนึ่งจินสิบอีแปะได้ พวกเราค่อยคุยกันต่อ”

สำหรับเถ้าแก่คนนี้ โจวกุ้ยหลานไม่ค่อยชอบนัก

เมื่อครู่นางเห็นสายตาเถ้าแก่คนนี้ที่มองสำรวจนางกับสวีฉางหลิน มันมีแววดูถูกอยู่ในนั้น

นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้นางไม่อยากคุยต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา