ระหว่างนั้นผู้ใหญ่บ้านยังมาปรึกษาบางเรื่องกับโจวกุ้ยหลาน โจวกุ้ยหลานหารือตัดสินใจกับเขาทีละเรื่อง จากนั้นก็มอบเงินสี่สิบอีแปะให้เขาทันที บอกว่าเป็นค่าแรงสำหรับสองวัน
หวังโหยวเกินโบกไม้โบกมือ “จะได้อย่างไร? นี่ยังไม่ได้เริ่มงานเลย เจ้าเก็บไว้ก่อนเถอะ!”
“ท่านอา สองวันนี้ท่านก็ช่วยข้ามากมาย จะให้ท่านเหนื่อยเปล่าได้อย่างไร เงินนี่ท่านรับไว้เถอะ ถือว่าเป็นค่าแรงสองวันนี้ของท่าน ท่านอย่าว่าน้อยนะ” โจวกุ้ยหลานเอ่ย ทั้งยังยัดเงินใส่มือเขา
สองวันนี้เขาก็ไม่ได้อยู่เฉย ยุ่งเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอตอนนี้โจวกุ้ยหลานให้เงิน เขาจึงรู้สึกสุขใจเป็นอย่างยิ่ง บอกปัดนิดหน่อยก็รับไว้แล้ว
“พรุ่งนี้พวกเขาจะมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง พวกเราจะเริ่มสร้างบ้านหลังนี้แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้ามีเงินพอหรือไม่?”
หวังโหยวเกินถาม
อย่างไรเสียเมื่อวานนางก็จ่ายไปตั้งห้าตำลึง เมื่อคืนมีคนนอนไม่หลับมาถามที่บ้านเขาด้วย
“ตอนนี้ยังพอ ท่านอาไม่ต้องเป็นห่วง” โจวกุ้ยหลานมอบความอุ่นใจให้หวังโหยวเกิน
หวังโหยวเกินโล่งอก พลันรับปากว่าพรุ่งนี้เช้าทุกคนจะมาช่วยงาน
สวีฉางหลินกับโจวต้าไห่ส่งเขาออกบ้าน จากนั้น ทุกคนก็กินข้าว จัดการตัวเองให้เรียบร้อย แต่ขณะกำลังจะเข้านอนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังมา
ไม่นานก็ได้ยินว่ามีคนคุยกัน มีคนร้องไห้ โจวกุ้ยหลานออกห้องตัวเองมาดู เห็นไป๋เย่จื่อกับโจวต้าไห่ยืนอยู่ปากประตู ไป๋เย่จื่อร้องไห้ทุบอบโจวต้าไห่ จากนั้นก็ร้องไห้แล้ววิ่งไป
เห็นภาพนี้แล้ว โจวกุ้ยหลานก็ส่ายหน้า
ชายมั่นรัก หญิงไร้คู่...
นางดึงสายตากลับ ขณะคิดจะปิดประตูห้องตัวเองก็เห็นสองศีรษะโผล่ออกมาจากประตูห้องเหล่าไท่ไท่ นางสะดุ้งในใจ ครั้นมองดูอีกทีถึงเห็นชัดว่าเป็นเหล่าไท่ไท่กับหลิวเซียงแอบดูทางนี้อยู่ในห้อง
คนหลอกคน คนตกใจหมดเลย!
โจวกุ้ยหลานตบๆ หัวใจดวงน้อยๆ ที่กำลังระส่ำระสาย ปิดประตู แต่พอหันมาก็เกือบชนเข้าอ้อมอกของสวีฉางหลินอีก
นางรีบตบหัวใจดวงน้อยของตัวเองอีกครั้ง “ไอ้หยา จะตกใจตายแล้ว!”
สองครั้งแล้ว แค่แพล็บเดียวนางก็ตกใจสองครั้งแล้ว
“ถูกใครทำให้ตกใจหรือ?” สวีฉางหลินถาม แล้วเอื้อมมือไปประคองบ่าของโจวกุ้ยหลาน
โจวกุ้ยหลานปัดมือไม่อยู่สุขที่เขายื่นมือ มองเขา “เจ้าไม่รู้จริงหรือ?”
“ไม่” สวีฉางหลินตอบ แล้วเอื้อมมือมาหาโจวกุ้ยหลานอีก
โจวกุ้ยหลานปัดมือเขาออกอีกครั้ง คลานขึ้นเตียง กอดเจ้าก้อนน้อยที่กำลังแย้มยิ้มกับนาง นอนอยู่ฝั่งใน
ต่อให้สวีฉางหลินเคืองใจอย่างไรก็ยังต้องนอนอยู่ข้างนอก และมีเจ้าก้อนน้อยคั่นอยู่ตรงกลาง
“เสน่ห์พี่ชายเราไร้ที่สิ้นสุดจริงๆ หนี้รักเนี่ย คงต้องชดใช้ตลอดชีวิตแล้ว” โจวกุ้ยหลานนึกถึงภาพที่เห็นเมื่อครู่ อดพูดขึ้นมาไม่ได้
อย่างนี้แล้ว มารดานางยังกลัวว่าพี่ชายนางจะแต่งสะใภ้ไม่ได้อีก?
“พี่ทำเจ้าตกใจหรือ?” สวีฉางหลินได้ยินถ้อยคำของภรรยาแล้วจึงไล่ถามต่อ
“นอนๆ พรุ่งนี้ยังต้องตื่นทำงานแต่เช้าอีก” โจวกุ้ยหลานไม่คิดสนทนากับเขา อยากนอนเร็วๆ เท่านั้น
สนทนาแบบนี้จะลำบากเกินไปแล้ว!
สวีฉางหลินกอดภรรยากับลูกไว้ในอกอย่างที่ทำเป็นประจำ เป่าลมกับตะเกียงน้ำมันก่อนจะนอนลงแล้วหลับใหล
หลับตื่นเดียวถึงสว่าง
โจวกุ้ยหลานตื่นมามองดู ท้องฟ้าจวนจะสว่างแล้ว นางรีบลุกขึ้นนั่ง เห็นตรงที่สวีฉางหลินนอนว่างเปล่า
“เกินไปแล้ว ไม่ปลุกข้า!” โจวกุ้ยหลานบ่นด้วยความโกรธ แล้วรีบเอาเสื้อผ้ามาใส่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...