ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้นางคิดไม่ถึงเลยว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาเขาจะทำเรื่องราวมากมายเหล่านี้ ถึงว่าทำไมเขาถึงอยู่แต่ในภูเขาทั้งวันไม่ยอมออกมา
โจวกุ้ยหลานเองก็ไม่แน่ใจมากนักเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเอง ได้แต่คิดว่า เรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ตรงหน้า มันทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยพอใจ ตัวนางช่างดูต่ำต้อยเหลือเกิน
“ทำไมเจ้าทำเรื่องพวกนี้โดยไม่บอกข้าเลย ? ทำไมถึงต้องจากข้าไป ? ก่อนจะจากไป ทำไมถึงต้องเก็บข้าไว้ด้วย ?” โจวกุ้ยหลานถามต่อ
“ขอโทษด้วย ข้า..... นายพลหลงเคยช่วยชีวิตข้าไว้ แล้วก็ ข้ามิอาจปล่อยให้ประชาชนเหลียงกั๋วต้องโดดเดี่ยวบนเส้นทางที่แสนยากลำบากอย่างนี้ได้”
นี่เป็นครั้งแรกที่สวีฉางหลินพูดอย่างนี้
โจวกุ้ยหลานกัดริมฝีปาก เวลาผ่านไปเนิ่นนาน นางทำได้เพียงถอนหายใจออกมา เดินเข้าไปหาเขาด้านหน้า จากนั้นกอดเขาไว้
“จะไปเมื่อไหร่ ?”
“พรุ่งนี้”
“ห้ามตายนะ ข้าจะไม่เป็นม่าย จะรับหาผู้ชายแต่งงานทันที” โจวกุ้ยหลานซบอกเขา ค่อย ๆ พูดออกมา
สวีฉางหลินไม่พอใจกับคำพูดของนาง “ห้ามคิดถึงชายอื่น”
โจวกุ้ยหลาน หัวเราะเยาะ “ถ้าเจ้าตายไปแล้ว จะมาบังคับข้าไม่ให้แต่งงานกับชายอื่นได้อีกหรือ ?”
“ข้าจะไม่ตายเด็ดขาด !” สวีฉางหลินบอกด้วยความโมโห
เพียงแค่คิดว่าน้องนางของตนอาจจะถูกชายคนอื่นสวมกอดแบบนี้ ร่างกายของเขาก็รู้สึกอึดอัด อากจะฆ่าชายคนนั้นเสีย
โจวกุ้ยหลานคิดไม่ถึงว่าจะถูกเขาหยอกล้อใส่ “สวีฉางหลิน นี่เจ้าเป็นคนพูดเองนะ ถ้าหากเจ้าตายไป ข้าจะไม่มีทางเป็นม่ายเพราะเจ้าแน่ เจ้าต้องคอยเขียนจดหมายบอกข้าว่าเจ้าปลอดภัย ไม่อย่างนั้นถ้าข้าไม่ได้รับจดหมายภายในครึ่งปี ข้าจะเอาเมล็ดข้าวพันธุ์ที่เจ้าให้ข้ามาพวกนี้ไปแต่งงานกับชายอื่น แล้วมีลูก......”
โดยที่ไม่พูดอะไร สวีฉางหลินก็ดูดริมฝีปากของนาง เก็บคำพูดของนางทั้งหมดไว้ในปาก
ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน ! จะให้พูดไม่ได้ ! แม้แต่คำเดียวก็พูดไม่ได้ !
ตลอดทั้งคืน โจวกุ้ยหลานและสวีฉางหลินต่างก็ไม่ได้นอน ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันบนเตียง มองหิมะที่อยู่ด้านนอกอย่างเงียบเชียบ
เตียงใส่ฝืนจนรู้สึกอบอุ่น สวีฉางหลินนำผ้าห่มมาคลุมโจกุ้ยหลานเอาไว้แน่น นำชุดเสื้อผ้าหนังที่เตรียมไว้ออกมาให้โจวกุ้ยหลาน
“หลังจากนี้เจ้าก็สวมตัวนี่เถอะ” สวีฉางหลินพูดเสร็จ ก็พับเสื้อผ้าเก็บใส่ไว้ในตู้
โจวกุ้ยหลานมองการกระทำของเขาโดยที่ไม่พูดอะไร
ชุดนี้เหมือนกับที่โจวชิวเซียงใส่กลับมาในตอนนั้น ช่างเป็นผู้ชายที่น่ารำคาญจริง ๆ
“เจ้าต้องไปร่วมกองกำลังรบงั้นหรือ ?” โจวกุ้ยหลานถาม
แม้จะบอกว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นทหาร แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่แล้ว
สวีฉางหลินนั่งลง ค่อย ๆ ใช้ศีรษะซบลงบนไหล่ของนาง “ข้าจะไปหานายพลหลง”
จากนั้น เขาก็พูดต่อว่า “อาจจะไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ เหลียงกั๋วในตอนนี้ กำลังป่วยระยะสุดท้ายแล้ว”
หมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลนี้ ทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข นอกจากราชสำนักจะมีการเกณฑ์ทหารเข้าไปและเพิ่มภาษี ก็ไม่มีร่องรอยของการสู้รบอยู่เลย
โจวกุ้ยหลานยื่นมือไปโอบกอดสวีฉางหลิน ใช้มือลูบผมของเขา “เจ้าต้องกลับมา”
“อือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...