นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 352 สงสัย
เมื่อเห็นว่าโจวกุ้ยหลานทำท่าจะออกไป เขาก็รีบเรียกนางให้หยุดแล้วถามว่า “เจ้าอยากกลับไปพักผ่อนหรือไม่ ? วันนี้คงจะไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไหร่หรอก”
โจวกุ้ยหลานกวาดตามองไปทั่วร้านที่ว่างเปล่าไร้เงาลูกค้า จากนั้นก็ส่ายหน้าตอบปฏิเสธ
กลับไปก็นอนไม่หลับ อยู่ที่นี่ยังพอจะช่วยดูแลหยิบจับอะไรได้บ้าง
ไป๋ยี่เซวียนฝืนสะกดกลั้นความหงุดหงิดในใจลงไป คิดจะเกลี้ยกล่อมโจวกุ้ยหลาน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร สุดท้ายจึงบังคับให้นางไปที่ห้องว่างห้องหนึ่งที่อยู่ในส่วนลานหลังร้าน แล้วหาพวกเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม ที่สะอาด ๆ ออกมาให้นาง
“เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ สีหน้าของเจ้าแย่มาก อาจจะล้มป่วยได้นะ”
โจวกุ้ยหลานนั่งพิงขอบเตียง ร่างกายกลับรู้สึกสบายขึ้นมาไม่น้อย นางลูบไล้ผ้าปูที่นอนบนเตียง เนื้อสัมผัสนุ่มนวลสบายมือดีมาก
“ทำไมเจ้าถึงซื้อผ้าปูที่นอนใหม่แล้วเอามาเก็บไว้ล่ะ?”
“ข้าเกรงว่าจะมีแขกมาแบบกะทันหัน พอถึงเวลานั้น จะอย่างไรก็ไม่ควรแสดงท่าทางวุ่นวายมือเท้าสับสนให้ลูกค้าเห็น” ไป๋ยี่เซวียนพูดพลางถอยหลังออกมา แล้วกลับออกไปทันที
โจวกุ้ยหลานหลับตาลง ในสมองผุดเรื่องราวมากมายที่นางได้ทำร่วมกันกับสวีฉางหลิน จนสุดท้าย ก็สะดุดลงที่สายตาอันเย็นเยียบเฉยชา ไม่ยินดียินร้ายแววนั้นของเขา
นางลืมตาขึ้น ยกยิ้มอย่างขมขื่น: “โหดร้ายสิ้นดี! นี่ใจคอเจ้าจะไม่ยอมให้ข้าหลับลงเลยสินะ”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก ที่มีโอกาสได้ชอบสามีคนนี้ในชีวิตนี้ แถมในใจสามีของนางก็มีความรู้สึกรักใคร่ลึกซึ้งต่อนางไม่ต่างกัน ทั้งยังมีเสี่ยวเทียนน้อยที่แสนน่ารักคนนั้น คอยอยู่เคียงข้างช่วยให้นางผ่านพ้นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะไม่ควรที่สุดในช่วงแรก ๆ ที่นางมาถึงโลกใบนี้ได้
แต่มาตอนนี้ นางกลับเริ่มสับสนขึ้นมาแล้วว่า ความทรงจำของนางมีตรงไหนที่เกิดผิดเพี้ยนไปหรือไม่? ความจริงแล้วสวีฉางหลินไม่ได้ดีกับนางมากขนาดนั้น แต่เป็นความทรงจำของนาง ที่ปรับให้ทุกอย่างมันงดงามไปเองโดยอัตโนมัติ
ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมทั้งที่เขากลับมาเมืองหลวงแล้วถึงไม่ยอมบอกนาง? รวมถึงแผนการของเขาแท้จริงแล้วเป็นยังไงกันแน่ก็ยังไม่บอก? กระทั่งลูกสองคนนี้ เขาก็ยังไม่เคยพบหน้าอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง…..
ประตูถูกผลักเปิดออกจนส่งเสียงดัง “แอ๊ด” นางเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นเงาร่างของชายคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาจากด้านนอก เงานั้นย้อนแสง จนทำให้นางมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
นางหรี่ตาลง พยายามมองให้ละเอียด แต่ชายคนนั้นพลันหันหลังกลับไป แล้วปิดประตูเรียบร้อย
จากนั้นก็หมุนตัวกลับแล้วเดินเข้ามา อาศัยแสงไฟภายในห้อง นางจึงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า แท้จริงแล้วนั่นคือไป๋ยี่เซวียน
“ข้าไปเติมน้ำร้อนที่ห้องครัวมาให้เจ้ากาหนึ่ง ดื่มน้ำให้ร่างกายอบอุ่นสักหน่อยนะ” ไป๋ยี่เซวียนพูดพลางวางถาดใบเล็ก ๆ ใบนั้นลงบนโต๊ะ รวดเทน้ำแก้วเล็ก ๆ แก้วหนึ่ง แล้วเดินมาหยุดตรงหน้าโจวกุ้ยหลาน ก่อนจะยื่นไปให้นาง
โจวกุ้ยหลานยื่นมือออกไปรับมา “ขอบคุณ”
ไป๋ยี่เซวียนถอยหลังไปสองสามก้าว นั่งลงบนเก้าอี้ตัวก่อนหน้า ดูนางจิบน้ำร้อน จากนั้นก็ลดมือลง แล้วนั่งต่อไปเงียบ ๆ ด้วยท่าทางใจลอย
เขาเม้มปากก่อนจะพูดว่า “เมื่อคืนวานพวกเราไปหาเสี่ยวอวี๋ เขาใช้เวลานานมากกว่าจะกลับมาเองได้ เขาบอกว่าตัวเองถูกใครบางคนใช้ไม้ฟาดจนสลบ นอนหมดสติอยู่ในซอยนานหลายชั่วยามกว่าจะฟื้น ดูแล้วเหมือนว่าจะมีคนไม่อยากให้เขาไปเชิญหมอคนอื่น”
“มีคนต้องการสูตรโค้กของพวกเรา” โจวกุ้ยหลานฝืนยกเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น แล้วมองไปที่ไป๋ยี่เซวียน
“แล้วเจ้าตัดสินว่าอย่างไรรึ?”
โจวกุ้ยหลานส่ายหน้า ยืดตัวขึ้นนั่งตัวตรง “เจ้าไม่รู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันแปลกมากหรอกหรือ? ผู้ชายคนนั้น ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับลูกชายของเขาสักหยดเลยนะ แต่ผู้หญิงคนนั้น กลับร้องไห้จนเป็นลมไปตั้งหลายครั้ง ผู้ชายคนนั้น…..”
นางครุ่นคิดอยู่นาน พยายามอย่างหนักที่จะหาคำคุณศัพท์ที่เหมาะสมมาบรรยาย แต่เหมือนสมองของนางถูกผูกจนเป็นปมแน่น คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
ไป๋ยี่เซวียนที่อยู่ข้าง ๆ ลองพูดหยั่งเชิงอย่างไม่แน่ใจ “สงบนิ่งเกินไปรึ?”
“อื้ม สงบนิ่งเกินไป เรียกว่าไม่ได้รับอิทธิพลจากอารมณ์โศกเศร้าเลย ทั้งยังถึงขั้นเป็นคนชี้นำเรื่องราวต่าง ๆ ได้อีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...