นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1000

ตอนที่ 1000 รายงานลับ

รัชสมัยเทียนเต๋อปีที่สามได้ผ่านพ้นไปและรัชสมัยต้าเซี่ยปีที่หนึ่งก็ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

ตั้งแต่ฟู่เสี่ยวกวนตัดสินใจกลับวังหลวงในคืนวันที่ยี่สิบเก้าเดือนสิบสองของรัชสมัยเทียนเต๋อปีที่สาม เขาก็มิเคยออกไปที่ใดอีกเลย

ในช่วงวันหยุดราชการนี้ เขามักจะไปสนทนาอยู่กับเจี่ยหนานซิงที่ตำหนักกว่างหมิงและมักจะปั้นตุ๊กตาหิมะพร้อมเล่นปาหิมะกับพวกเด็ก ๆ นอกจากนี้เวลาส่วนใหญ่เขามักจะไปเล่นไพ่นกกระจอกกับสวี่หยุนชิง

แพ้ไปหลายตาเลยทีเดียว

ทว่าการแพ้…ทำให้เขามีความสุขมากยิ่งนัก

เขาดำรงชีวิตเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหยุดราชการสิ้นสุดลง วันที่แปด เดือนหนึ่งชองรัชสมัยต้าเซี่ยปีที่หนึ่งก็ถึงเวลากลับไปทำงานอีกครา

มีการประชุมใหญ่ประจำราชสำนักเกิดขึ้นเพื่อปลุกขวัญกำลังใจเหล่าขุนนาง โดยให้เสนาบดีชั้นผู้ใหญ่ทั้งสามดูแลการประชุมต่อไป จากนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็ได้พาหลิวจิ่นไปยังกวนหยุนถาย

แม้จะมีแสงสุริยาเจิดจ้าส่องลงมา แต่อุณหภูมิยังคงหนาวเหน็บ หลิวจิ่นจึงสั่งให้ขันทีน้อยย้ายเตาผิงสามเตาเข้ามาในนี้ เดิมทีคิดว่าฝ่าบาทประสงค์จะทอดพระเนตรทะเลหมอกอยู่ที่นี่ แต่คาดมิถึงว่าเมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ก็มีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามา…เขาผู้นั้นคือจี้หยุนกุยหัวหน้าหอเทียนจี !

“ทูลฝ่าบาท นี่คือสถานการณ์ในภูเขาต้าเซียนเปย เชิญฝ่าบาททอดพระเนตรพ่ะย่ะค่ะ”

“นั่งลงเถิด”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

ฟู่เสี่ยวกวนรับรายงานมาอ่าน ทันใดนั้นนัยน์ตาดำของเขาหดเกร็งขึ้นมาทันพลัน…

‘ได้รับการยืนยันแล้วว่าในหุบเขาลึกของภูเขาต้าเซียนเปยมีค่ายทหารลับตั้งทอดยาวไปหลายสิบลี้ !

ภูเขาต้าเซียนเปยมีค่ายกลลับซ่อนอยู่มากมาย เพื่อคอยป้องกันผู้บุกรุกไว้อย่างมิดชิด ส่งผลให้ฝูงมด 30 นายที่กระจายตัวเข้าไปยังทิศทางต่าง ๆ ของภูเขาต้าเซียนเปยถูกสังหารไปแล้ว 26 นาย เหลือเพียง 4 นายเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมา

หลังจากเข้าไปได้แล้ว…พบว่ามีทหารอย่างน้อย 400,000 นายประจำการอยู่ในภูเขาต้าเซียนเปยและมิสามารถระบุสถิติตัวเลขที่แม่นยำได้

สายลับ 4 นายที่เหลือได้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาและรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากนี้จะรายงานในภายหลัง’

เมื่อเขาอ่านเสร็จก็ได้วางรายงานลับไว้บนโต๊ะ จากนั้นจี้หยุนกุยก็ยื่นแผนที่อีกหนึ่งแผ่นให้กับเขา “ทูลฝ่าบาท เรื่องลักษณะภูมิประเทศนั้นมิใช่ปัญหา ทว่าค่ายกลลับและแผนผังด้านในมิสามารถวาดออกมาได้อย่างครอบคลุมพ่ะย่ะค่ะ”

“อืม…แค่มีเจ้าสิ่งนี้ก็เพียงพอแล้ว”

ฟู่เสี่ยวกวนมองแผนที่และครุ่นคิดไปด้วย เขาคิดว่าภูเขาต้าเซียนเปยมีพื้นที่ทอดยาวราว 800 ลี้และกว้างราว 100 ลี้ มีหุบเขาลึกซ่อนอยู่ที่จุดกึ่งกลางเทือกเขาทอดยาวและมีค่ายกลลับซ่อนอยู่ในบริเวณโดยรอบทุก ๆ รัศมี 100 ลี้

หากต้องการไปยังภูเขานี้ ต้องเดินทางราว 600 ลี้จากทางเดินเหอซีมุ่งไปทางใต้ของซีเซี่ยเพื่อไปยังภูเขาต้าเซียนเปย

ดินแดนนี้เป็นพื้นที่แห้งแล้งไร้ซึ่งพืชผล ไร้ซึ่งถนนหนทางที่ดีและมิมีร่องรอยของมนุษย์อาศัยอยู่เลย

ฟู่เสี่ยวกวนจ้องมองแผนที่พลางใช้นิ้วชี้เคาะโต๊ะเป็นจังหวะ ผ่านไปราวครึ่งก้านธูปก็ได้หยุดเคาะ นิ้วที่ใช้เคาะโต๊ะเมื่อครู่ชี้ไปยังแผนที่แล้วเอ่ยถามว่า

“ราชวงศ์เหลียวและแคว้นซีเซี่ยยังทำสงครามกันอยู่หรือไม่ ? ”

“ทูลฝ่าบาท ยังต่อสู้กันเป็นระยะและดูเหมือนว่าราชวงศ์เหลียวยังมิสามารถเข้ายึดด่านเม่าซานได้พ่ะย่ะค่ะ”

จี้หยุนกุยหยุดเอ่ยชั่วครู่กลืนน้ำลายหนึ่งอึกแล้วเอ่ยต่อว่า “ดูจากสถานการณ์แล้ว ถ้าพวกเรามิเข้าร่วม เกรงว่าด่านเม่าซานมีโอกาสถูกทำลายสูงมากยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ เพราะแคว้นซีเซี่ยกำลังขาดแคลนเสบียงอาหารอย่างหนัก ในด้านสงครามก็ขาดแคลนอาวุธในการชี้ขาดสถานการณ์ บัดนี้ราชวงศ์เหลียวได้ตั้งมั่นอยู่นอกด่าน ดูเหมือนพวกเขามิได้วิตกกังวลอันใดราวกับรอเวลาให้ด่านเม่าซานพังทลายลงมาเองพ่ะย่ะค่ะ”

ฟู่เสี่ยวกวนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็แสดงความคิดเห็นออกมาว่า

“หากเดินทางออกจากภูเขาต้าเซียนเปย… เดินทางลงมาทางทิศใต้แล้วข้ามภูเขาเยี่ยนต้วน จากนั้นก็ข้ามแม่น้ำป๋ายโกว เจ้าดูสิ ! กองทัพใหญ่ก็จะเดินทางมาถึงที่นี่ เมืองเจินติ้งบนเส้นทางเหอเป่ยตะวันตกของเรา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)