นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1035

ตอนที่ 1035 กลับไปเยือนจินหลิงอีกครา

รัชสมัยต้าเซี่ยที่หนึ่ง วันที่สาม เดือนห้า

คณะเดินทางของฟู่เสี่ยวกวนนั่งเรือจากซีซานเพื่อไปยังจินหลิง

เขามิได้แวะพักที่หลินเจียงแต่อย่างใด มีเพียงชายอ้วนคนเดียวเท่านั้นที่กลับไปหาพระสนมทั้งหกคนของเขา

คณะเดินทางของฟู่เสี่ยวกวนกำลังขึ้นฝั่งที่เมืองจินหลิง โดยมีเยี่ยนซือเต้าและต่งคังผิงมายืนต้อนรับ

เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มิได้พบกันมา 4 ปีแล้ว เยี่ยนซือเต้าดูใจเย็นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนต่งคังผิงดูชราลงเล็กน้อย

พวกเขาทั้งสองคนอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว ในอดีตพวกเขาเคยอุทิศตนให้กับราชวงศ์หยู ส่วนปัจจุบันนี้ก็ยังอุทิศตนให้กับต้าเซี่ยอีก สามารถเอ่ยได้อย่างเต็มปากเลยว่า…พวกเขาได้อุทิศตนให้กับหน้าที่การงานมาทั้งชีวิต

“สวัสดีท่านจ่งตูเยี่ยน สวัสดีท่านพ่อตา ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนเดินเข้าไปทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ลำบากพวกท่านแล้ว ! ”

น้ำตาของเยี่ยนซือเต้าเอ่อคลอ ลำบากเยี่ยงนั้นหรือ ?

แท้ที่จริงก็ลำบากอยู่หรอก ทว่าเมื่อได้ยินฝ่าบาทตรัสเช่นนั้น ความลำบากทั้งหมดนี้ถือว่าคุ้มค่ามากยิ่งนัก

“ลำบากฝ่าบาทเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอบังอาจทูลถามฝ่าบาท…ฝ่าบาทเสด็จมาเมืองหลวงรองครานี้มิทราบว่าจะกลับมาประทับที่พระราชวัง…หรือประทับที่จวนเซิ่งกั๋วกงกันพ่ะย่ะค่ะ ? ”

“ไปที่จวนเซิ่งกั๋วกงเถิด” เอ่ยจบเขาก็หันไปทางต่งคังผิง จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า “ท่านพ่อตา วันนี้ให้ข้าไปกินข้าวที่จวนท่านได้หรือไม่ ? ให้ท่านแม่ยายทำหัวปลาตุ๋นน้ำแดงด้วยได้หรือไม่ ? ”

ต่งคังผิงส่งยิ้มตอบรับ ลูกเขยผู้นี้ยังคงเหมือนเดิมมิได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด

“ได้สิ ! ประเดี๋ยวข้ากลับไปแล้วจะบอกแม่ยายของเจ้าเตรียมไว้ให้ก็แล้วกัน”

“ท่านจ่งตูเยี่ยน จงนำข้อความของข้าไปบอกกับท่านพ่อของท่านว่า…ข้าจะไปเยี่ยมที่จวนเยี่ยนในวันพรุ่งนี้”

เยี่ยนซือเต้าพยักหน้ารับ จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “วันพรุ่งนี้จะมิเข้าไปพระราชวังสักหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”

“ครานี้ข้ามาเที่ยวจริง ๆ ธุระในพระราชวังก็มีพวกท่านคอยดูแลอยู่แล้วนี่ จะให้ข้าเข้าไปทำอันใดอีกเล่า ? ”

“เอ่อ…คือเหล่าขุนนางของเมืองหลวงรองรู้กันหมดแล้วว่าฝ่าบาทจะเสด็จประพาสจินหลิง หากมิไปพบปะสักหน่อยก็คงมิดีพ่ะย่ะค่ะ”

“ก็ได้ ๆ เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้า ข้าจะไปพบปะทุกคนที่ท้องพระโรงเฉิงเทียน” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยพลางถอนหายใจ

จากนั้นคณะเดินทางก็ได้นั่งรถม้าเข้าไปในเมืองจินหลิง

ฟู่เสี่ยวกวนเชิญเยี่ยนซือเต้าและต่งคังผิงมานั่งในรถลากมังกรของเขา ต่งคังผิงจ้องมองไปยังใบหน้าของฟู่เสี่ยวกวนแล้วเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ราชโองการลับของเจ้า ข้าได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เสบียงถูกขนแยกเป็นสองเส้นทาง ทางที่หนึ่งจากฉางอันมุ่งหน้าไปยังชื่อเล่อชวน ส่วนอีกทางหนึ่งจากซินโจวมุ่งหน้าไปยังชื่อเล่อชวน… เจ้ากำลังเปิดศึกกับราชวงศ์เหลียวอยู่เห็น ๆ แล้วเหตุใดถึงได้มาเที่ยวเล่นชมนกชมไม้อยู่เช่นนี้เล่า ? ”

“ท่านพ่อตารออย่างสบายใจจนกว่าสงครามครานี้จะจบลงเถิด ! ”

ต่งคังผิงอดกังวลใจมิได้ เพราะคลังส่วนกลางได้ควักเงินหลายสิบล้านตำลึงเพื่อรวบรวมเสบียงส่งไปยังชื่อเล่อชวน !

นี่เป็นศึกคราใหญ่อย่างมิต้องสงสัย

เขามิได้กังวลว่าต้าเซี่ยจะพ่ายแพ้แต่อย่างใด แต่เขาคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ จักรพรรดิควรจะอยู่บัญชาการที่เมืองหลวงมากกว่า

ทว่าเจ้าหมอนี่กลับเดินทางออกมาท่องเที่ยวอย่างเอิกเกริก

ฟู่เสี่ยวกวนยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านพ่อตาเอ่ยได้ถูกต้องยิ่งนัก เดิมทีข้าควรจะออกมาในปีหน้า ไม่สิ ! ถึงปีหน้าจะเหมาะสม ทว่าทุกปีก็มีเรื่องสำคัญให้ต้องจัดการ ข้าได้รับปากกับเจี่ยหนานซิงเอาไว้แล้วว่าจะพาเขาออกมาท่องเที่ยวชมความงามของธรรมชาติในต้าเซี่ย”

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้าดูหม่นหมองลงไปเล็กน้อย “สุ่ยหยุนเจียนได้วินิจฉัยอาการของเจี่ยหนานซิงอยู่หลายคราและผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ…เขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้มิเกินปีหน้า”

“ซึ่งก็หมายความว่าถ้าหากข้ามิรีบพาเขาออกมาเที่ยวในตอนที่ยังพอมีเรี่ยวแรง ปีหน้า…ก็เกรงว่าเขาจะเดินมิไหวแล้ว”

“พวกท่านอย่าได้เป็นกังวลไปเลย ตอนนี้ต้าเซี่ยมีจ่งตูทั้งสิ้น 4 คนซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของสามสำนักหกกรม ทางด้านกระทรวงกลาโหม ก่อนข้าจะออกเดินทางมา ข้าได้ชี้แจงให้แก่พวกเขาแล้วว่า…ศึกครานี้ควรต่อสู้เยี่ยงไร ข้าจากเมืองกวนหยุนมาครานี้ย่อมจะมิเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน”

ฟู่เสี่ยวกวนมิได้บอกอีกหนึ่งสาเหตุที่เขาเดินทางออกมาจากเมืองกวนหยุน เขาอยากรู้ว่าหากมิมีเขาหรือมิมีจักรพรรดิ ประเทศต้าเซี่ยจะดำเนินต่อไปเยี่ยงไร สามสำนักรวมไปถึงกรมต่าง ๆ จะเกิดปัญหาใดขึ้นมาบ้างหรือไม่ ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)