นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1044

ตอนที่ 1044 ความขัดแย้งภายใน

ณ กระโจมแม่ทัพกองทัพราชวงศ์เหลียวนอกด่านภูเขาเม่าซาน

เยลู่ฮั่วจ้องมองแม่ทัพสามคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เขาเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมาพลางเอ่ยว่า

“เป็นอันใดไปเล่า ? พวกเจ้ากลัวกองทัพของฟู่เสี่ยวกวนถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? ”

เมื่อสิ้นเสียง ใบหน้าของเขาก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมา น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวฟังดูน่ากลัว “พวกเขาเก่งกาจเหนือมนุษย์มนาหรือเยี่ยงไร ? พวกเขามีร่างกายอยู่ยงคงกระพันหรือเยี่ยงไร ? ข้าเดินทางมาถึงที่นี่ได้ห้าวันแล้ว ! เสบียงอาหารและอาวุธที่ต้องการ ข้าก็ส่งมาให้พวกเจ้าทั้งหมดแล้ว ! ”

“พวกเจ้ายังต้องการสิ่งใดอีกกัน ? คำเอ่ยของข้ามันไร้ความหมายเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

แม่ทัพทั้งสามคมก้มหน้ามองพื้น เมื่อเยลู่ฮัวบันดาลโทสะออกมาจนหมดแล้ว แม่ทัพฝั่งซ้ายนามว่าต้งเวยถึงได้เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “องค์ชาย… ฝ่าบาท…ฝ่าบาทยังมิมีพระบัญชาออกมาพ่ะย่ะค่ะ”

“อ่อ…พวกเจ้ากำลังรอพระบัญชาของเสด็จพ่ออยู่นี่เอง” เยลู่ฮัวจ้องมองต้งเวยเขม็ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา

“ทูลองค์ชาย ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ”

“ได้ ! ” เขาเอามือไขว้หลังพลางก้าวไปเบื้องหน้าสองก้าว ผ่านไปราวสิบอึดใจเขาถึงได้โพล่งออกมาว่า “เยลู่หาน ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นแม่ทัพทัพซ้าย ส่วนต้งเวย…พระราชโองการที่เจ้ารอคอยเกรงว่าจะมามิถึงเสียแล้วสิ มอบอำนาจของเจ้ามาเสียดี ๆ แล้วข้าจะยอมไว้ชีวิตเจ้า ! ”

ต้งเวยตื่นตกใจจนสุดขีด เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาและทันใดนั้นก็มีองค์รักษ์เดินถือดาบเข้ามาราวสิบกว่าคน องค์รักษ์ทั้งสิบคนนี้ได้ยืนอยู่ข้างกายของเขาทั้งสองข้าง มือของพวกเขากำดาบเอาไว้แน่น

“ฝ่าบาท…หากพระองค์มีพระประสงค์ที่จะให้กระหม่อมมอบอำนาจทางทหารให้ผู้อื่นก็จำต้องรอพระราชโองการจากฝ่าบาทเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ ! ”

เยลู่ฮัวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจ้องมองสีหน้าดื้อดึงของต้งเวยพลางฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง จากนั้นก็สั่งการด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ตัดศีรษะมันเสีย ! ”

“ชริ้ง…ฉึก ! ”

ศีรษะของต้งเวยร่วงหล่นลงสู่พื้นธรณี

เยลู่ฮัวหันไปมองทางแม่ทัพสองคนที่เหลือ “บัดนี้คำเอ่ยของข้ายังไร้ความหมายอยู่อีกหรือไม่ ? ”

แม่ทัพทั้งฝ่ายกลางและฝ่ายขวาตื่นตกใจจนหน้าซีดเผือด ทั้งสองรีบประคองมือขึ้นมาคารวะ “กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาขององค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ! ”

“ก็แค่นี้แหละ…ต่อไปนี้ข้าคือผู้ออกคำสั่ง ! ”

แม่ทัพทั้งสามคนยืนตัวตรงเพื่อแสดงความเคารพ “กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ! ”

“เยลู่หาน…เจ้าจงนำองค์รักษ์ของข้าไปรับช่วงต่อจากแม่ทัพฝ่ายซ้าย ผู้ใดมิยินยอม…ก็ตัดศีรษะมันเสียให้หมด ! ”

“ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งคืน เจ้าต้องรีบสานต่ออำนาจของแม่ทัพฝ่ายซ้ายให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้เมื่อฟ้าสาง กองทัพทั้งสามฝ่ายจะเข้าโจมตีด่านเม่าซาน…”

“พวกเราจะรบกับกองทัพของต้าเซี้ยะให้แพ้ชนะกันไปข้างหนึ่ง!”

แม่ทัพทั้งสามคนประคองมือขึ้นมาคารวะ “กระหม่อม…น้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ! ”

“พวกเจ้าไปเถิด… อ้อ ! เอาศพไปโยนให้สุนัขกินเสีย ! ”

ในกระโจมแม่ทัพได้เงียบสงบลงทันใด เยลู่ฮัวนั่งอยู่ในกระโจมเพียงลำพังจากนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา “กองทัพของต้าเซี่ยจะไร้เทียมทานถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ? ข้าชักอยากจะเห็นเร็ว ๆ แล้วสิ”

“เสด็จพ่อ…ท่านจวนจะ 70 ชันษาแล้ว ท่านชรามากแล้ว จะให้ดินแดนแห่งราชวงศ์เหลียวถูกฝังกลบไปพร้อมกับศพท่านได้เยี่ยงไรกัน ? ท่านคิดจะขายแคว้นเยี่ยงนั้นหรือ ? หากท่านขายแคว้นให้กับศัตรูไปแล้ว ข้าผู้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็เท่ากับว่าสูญเปล่าน่ะสิ”

“ค่ำคืนนี้ที่เมืองต้าติ้งคงจะคึกคักเป็นพิเศษ เสด็จพ่อ…ข้าจะมอบสิ่งที่ทำให้ท่านต้องประหลาดใจ ท่านอย่าได้ตื่นตกใจจนสิ้นพระชนม์ไปก่อนล่ะ ! ”

……

……

ความมืดมิดของราตรีกาลได้แผ่เข้ามาปกคลุมดินแดนราชวงศ์เหลียว

เฮ้อซานเตานำหน่วยรบนาวิกโยธิน 20,000 นายวิ่งอย่างเร่งรีบไปตลอดทาง เขาวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทาง จนไปถึงทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่

บัดนี้เขาได้เดินทางมาถึงเนินเขาเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองต้าติ้ง

เฮ้อซานเตาจ้องมองแสงไฟยามราตรี เขาเห็นเมืองต้าติ้งเด่นชัดมาแต่ไกล จึงเผยรอยยิ้มกว้างออกมา “ให้พี่น้องทั้งหลายปักหลักพักผ่อนและกินข้าวกันก่อนเถิด ลำบากลำบนมาหลายวันแล้ว คืนวันพรุ่งนี้พวกเราจะเข้าไปนอนในพระราชวังของราชวงศ์เหลียวกัน…”

“ข้าขอเอ่ยอันใดที่มิค่อยน่าฟังต่อหน้าพวกเจ้าสักหน่อย พรุ่งนี้หากพวกเราสามารถเข้าไปนอนในพระราชวังได้ พวกเจ้าห้ามแตะต้องสตรีนางใดเด็ดขาด แม้แต่ปลายขนก็มิได้ ข้ามิอยากเสียเวลาส่งพวกเจ้าไปรับโทษที่กรมกลาโหม หากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ข้าจะเอาดาบฟันศีรษะของพวกเจ้าให้ขาดสะบั้นไปเสีย ! ”

“นี่คือวินัยของกองทัพแห่งต้าเซี่ย จงจำใส่สมองของพวกเจ้าเอาไว้ให้ดี ! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)