นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1073

ตอนที่ 1073 สามัญชน

สภาพอากาศร้อนอบอ้าว

หลิวอีเกินจากหมู่บ้านฮวงหลินยืนอยู่ที่คันนาพลางขมวดมุ่นภายใต้แสงสุริยาที่ร้อนอบอ้าว ข้าวที่แตกรวงออกมากำลังเหี่ยวแห้งและอาจจะตายในอีกมิช้านี้

รวงที่แตกออกมาเหี่ยวเฉามิมีชีวิตชีวาทั้งยังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วด้วย ไอหยาสวรรค์…หลิวอีเกินเงยหน้าขึ้นมองท้องนภาสีครามเจิดจ้า พลางครุ่นคิดว่าบรรยากาศเช่นนี้ดูเหมือนจะมิมีฝนตกลงมาเลยแม้แต่น้อย

“เช่นนี้จะใช้ชีวิตต่อไปเยี่ยงไร ! ”

หลี่ซิ่วไฉจากหมู่บ้านเดียวกันสวมหมวกฟางพลางแบกจอบเสียมเดินเข้ามา “พี่หลิว บาดแผลของบุตรชายท่านหายดีแล้วหรือยัง ? ”

หลิวอีเกินจุดยาสูบแล้วสูบเข้าไปหนึ่งที “ดีขึ้นแล้วล่ะ เขาย่อมอายุยืนอยู่แล้ว บาดแผลมิได้ลึกมาก อีกสองสามวันก็ลงจากเตียงเดินได้แล้ว”

หลี่ซิ่วไฉเดินมายืนหยุดอยู่เบื้องหน้าหลิวอีเกิน จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบยาสูบจากมือของหลิวอีเกินมาสูบหนึ่งคราพลางเอ่ยขึ้นมาว่า “ได้ข่าวว่าขุนนางคนใหม่ที่เดินทางมาที่นี่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้”

“เป็นขุนนางจะแตกต่างกันตรงที่ใดเล่า ? พวกเขาล้วนเป็นเหมือนกันทั้งหมด ! ”

“ลุงหลิว ท่านอย่าใช้สายตาที่แก่ชรานั้นมองยุคสมัยใหม่นี้เลย ข้าจะบอกอันใดบางอย่างให้ท่านได้รู้ เมื่อวานข้าไปที่ตลาดแล้วบังเอิญพบกับอดีตสหายร่วมสำนัก เขาเอ่ยว่าขุนนางคนใหม่ออกนโยบายยกเว้นภาษีเกษตรกรของพวกเราทั้งหมด… ท่านมิเชื่อเยี่ยงนั้นหรือ ? หากมิเชื่อก็รอดูเถิด ข้าคาดว่านโยบายนี้จะแพร่กระจายมาถึงที่นี่ในอีกมิช้า ! ”

หลิวอีเกินจ้องมองหลี่ซิ่วไฉด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “น่าเสียดายที่เจ้าเคยเล่าเรียนมาก่อน ประวัติศาสตร์หลายพันปีที่ผ่านมานี้มียุคสมัยใดบ้างที่ขุนนางมิเรียกเก็บภาษีจากเกษตรกรเยี่ยงพวกเรา ? ที่พวกเขามีเงินอยู่ดีกินดี ทั้งยังมีเงินเหลือไปแต่งอนุนั้นมิใช่มาจากการเรียกเก็บภาษีจากพวกเราหรอกหรือ ? ”

หลิวอีเกินสูบยาสูบเข้าไปอีกคราแล้วพ่นควันสีขาวลอยโขมงออกมา จากนั้นก็ถอนหายใจเสียงดัง “เฮ้อ…ถึงจะเปลี่ยนจักรพรรดิผู้ปกครองชาติบ้านเมืองทว่าก็มิได้แตกต่างไปจากเดิมหรอก เจ้าดูสภาพอากาศในปีนี้สิ เดิมทีข้าคิดว่าปีนี้แกะจะเอาการเอางานแล้วคลอดลูกแกะออกมาสัก 4 ตัว ข้าจะได้นำไปหมั้นหมายให้กับบุตรชายของข้า… บัดนี้ยังจะแต่งอันใดได้อีกกัน ข้าจำต้องขายมันเพื่อจ่ายภาษี”

“ข้าวที่ปลูกในที่นาผืนนี้คงจะมุ่งหวังมิได้แล้ว หากอีกสามวันฝนยังมิตกอีกล่ะก็ หมู่บ้านฮวงหลินของพวกเราก็จะมิได้เก็บเกี่ยว…หากเป็นเช่นนั้นข้าคงต้องปล่อยให้ผืนนานี้รกร้างว่างเปล่าเสียแล้ว”

หลี่ซิ่วไฉมองขึ้นไปบนท้องนภา “ไปกันเถิด ดูไปก็มิมีประโยชน์อันใด พวกเราไปนั่งใต้ต้นไม้กันเถิด”

ทั้งสองเดินมาที่ใต้ต้นหยาง จากนั้นก็นั่งพักผ่อนโดยอาศัยร่มเงาของต้นหยางเก่าแก่

หลี่ซิ่วไฉถอดหมวกฟางของเขาออก จากนั้นก็พัดไปมาให้หายร้อน “ลุงหลิว…ข้าคิดว่าขุนนางจากต้าเซี่ยนั้นแตกต่างออกไป ท่านลองคิดดูสิว่าบุตรชายของท่านเป็นนักโทษของพวกเขา หากเป็นแต่ก่อนคงจะถูกประหารชีวิตไปแล้ว ทว่าพวกเขากลับปล่อยตัวคนเหล่านั้นกลับมาทั้งหมด ยกเว้นแต่แม่ทัพสองสามคนนั้น”

“เจ้าว่า…พวกเขามิกลัวว่าผู้คนเหล่านี้จะรวมตัวกันแล้วก่อกบฏเยี่ยงนั้นหรือ แต่สิ่งที่น่าแปลกคือเขตเหอเย่หรือแม้แต่เฟิงถังโจวข้ามิเคยได้ยินว่ามีเหตุจลาจลเกิดขึ้นเลย ได้ยินมาว่าทหารที่ถูกปล่อยตัวต่างก็กลับภูมิลำเนาเดิมของตนเองอย่างเชื่อฟัง นี่มันมิแปลกไปหน่อยหรือ ? ”

“เมื่อวานข้าไปตลาดมาได้ยินมาว่าได้ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีจากเกษตรกรทุกคน หากเขาโกหกท่านและข้าก็คงมิใช่คนแล้ว ! นี่คือสหายร่วมสำนักศึกษาเดียวกันกับข้า เขาเป็นถึงเจ้าหน้าที่สารบัญ เขาเอ่ยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ นายอำเภอซุนของพวกเราที่เขตเหอเย่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นี่เรียกว่ากำลังตื่นตระหนกอยู่ ! ”

“เจ้าสุนัขรับใช้ซุนขาดการรับสินบนไปมิน้อยเลยทีเดียว เขาก็เลยส่งลูกน้องไปยังเมืองต้าติ้งเพื่อหาคนหนุนหลัง และผลสุดท้ายก็คือลูกน้องของเขากลับมาพร้อมกับเงินที่มิได้เสียไปแม้แต่อีแปะเดียว”

“ลุงหลิว…นี่หมายความว่าเยี่ยงไรหรือ ? ”

หลี่ซิ่วไฉกระพริบตาปริบ ๆ พลางจ้องมองไปที่หลิวอีเกิน หลิวอีเกินสูบยาสูบแล้วพ่นควันออกมา “นี่หมายความว่าเยี่ยงไรน่ะหรือ ? ”

หลี่ซิ่วไฉรีบเอาหมวกฟางมาพัดควันออก จากนั้นก็เอ่ยอย่างลึกลับว่า “นี่แสดงว่าลมกรรโชกแรง ด้านบน…” เขาชี้ขึ้นไปยังท้องนภา “คาดว่าคนด้านบนมิกล้าที่จะรับประกัน ! ”

“จริงหรือ ? ”

“ข้าจะโกหกท่านไปเพื่ออันใดกัน ? สหายร่วมสำนักของข้ายังเอ่ยอีกว่า…” หลี่ซิ่วไฉมองไปรอบ ๆ อย่าว่าแต่คนเลยแม้แต่นกสักตัวก็มิมี “เขาเอ่ยว่าจ่งตูคนใหม่มีกองกำลังทหาร 10,000 นายอยู่ในมือ ! เขากำลังจะสังหารผู้คนมากมาย ! สังหารขุนนางที่เคยกดขี่ราษฎรเยี่ยงพวกเรา ! ”

หลิวอีเกินตื่นตกใจขึ้นมาทันใด จากนั้นก็จ้องมองไปที่หลี่ซิ่วไฉ “เจ้าล้อข้าเล่นใช่หรือไม่ ? ข้าเคยเป็นทหารมาก่อน เรื่องที่ว่าขุนนางย่อมปกป้องขุนนางด้วยกันเองข้าก็รู้ดีอยู่แล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)