ตอนที่ 1165 โชคชะตา
หวงจินเย่คาดมิถึงว่าการบุกรุกแคว้นซูเฟิงจะราบรื่นถึงเพียงนี้
คนพวกนี้เป็นอันใดกันไปหมด ?
ข้ายกทัพมาตีพวกเจ้านะโว้ย !
เหตุใดเมื่อเดินทางไปถึงแต่ละเมือง มิเพียงแต่จะมิมีการต่อต้านเท่านั้น ทว่าขุนนางที่คอยดูแลเมืองยังออกมาแสดงความห่วงหาอาทรอีกต่างหาก !
แม้จะเอ่ยกันคนละภาษา ต่างฝ่ายต่างมิเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังเอ่ยว่าเยี่ยงไร ทว่ารอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขามิใช่ของปลอมอย่างแน่นอน เนื้อแกะเนื้อวัวที่พวกเขามอบให้ก็มิใช่ของปลอมเช่นกัน
สมองของชาวซูเฟิงยังปกติดีอยู่หรือไม่ ?
ข้าอยากจะรบกับแคว้นซูเฟิงให้ยับกันไปข้างหนึ่ง ท่านแม่ทัพนำทหาร 3,000 นายไปสังหารทหารเทียนเย่าตั้ง 100,000 นาย ! ช่างน่าเกรงขามมากยิ่งนัก กลับกันเมื่อข้าเดินทางมาถึงเมืองซูเฟิง สิ่งที่พวกเขาส่งมาต้อนรับนั้นมิใช่ทหาร แต่กลับเป็น…กลับเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย !
แบบนี้จะรบได้เยี่ยงไรเล่า ?
ทว่าพวกหญิงสาวเหล่านั้น…ข้าก็มิกล้าเข้าไปแตะต้องพวกนางอยู่ดี !
กองทัพต้าเซี่ยยึดถือกฎกติกาอย่างเคร่งครัด หวงจินเย่มิได้ใจกล้าบ้าบิ่นเฉกเช่นเฮ้อซานเตา แม้กระทั่งเฮ้อซานเตาเองก็คงจะมิกล้าทำผิดกฎระเบียบของทหาร เพราะกฎเหล่านี้ถูกร่างขึ้นมาโดยฝ่าบาทนั่นเอง
ศึกครานี้ดูท่าจะมิได้รบเสียแล้ว ทหารกองพลที่สองรู้สึกสบายใจขึ้นมากโข พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าตนมิได้มาเพื่อรบ แต่มาเพื่อท่องเที่ยวต่างหาก
แคว้นซูเฟิงแห่งนี้ดูเหมือนจะมิมีของสวย ๆ งาม ๆ เลย หรือต่อให้สวยงามก็สู้ทัศนียภาพของต้าเซี่ยมิได้
พวกเขาเข้าประชิดเมืองซูเฟิงได้อย่างราบรื่น
ทางด้านฟู่เสี่ยวกวนได้นำทหาร 4,000 นายเดินทางไปอย่างยิ่งใหญ่ เขาได้เดินทางเข้าเมืองเทียนเย่าอย่างเกรียงไกร
ชาวเมืองเทียนเย่าเมื่อเห็นดังนั้นก็พลันหดหู่ใจ พวกทหารชุดเกราะสีเงินอีกแล้วหรือ !
พวกทหารชุดเกราะสีน้ำเงินกลุ่มที่แล้วยึดครองเมืองเทียนเย่าได้สำเร็จ ทุกวันนี้จักรพรรดิของตนยังอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา นี่มาอีกหนึ่งกลุ่ม…พวกเขาต้องการรับช่วงต่อหรือเยี่ยงไรกัน ?
แม้ฟู่เสี่ยวกวนจะมิถูกต้อนรับอย่างอบอุ่น เมื่อยามที่เขาข้ามผ่านแต่ละเมือง แต่เขาก็มิได้ถูกทหารกลุ่มใดขัดขวาง
ทัพของเขาเดินทางมาถึงเมืองเทียนเย่าอย่างราบรื่นไร้สิ่งกีดขวาง อาจมีการจับตามองอย่างเงียบ ๆ จากที่ไกล ๆ ของเหล่าขุนนางประจำเมืองบ้างเป็นครั้งครา ชาวเทียนเย่าคิดว่าแคว้นเทียนเย่าได้ล่มสลายแล้ว
พวกเขามิรู้ว่าโชคชะตาหลังจากนี้จะเป็นเยี่ยงไรต่อไป
พวกเขาคิดว่าปิศาจต้าเซี่ยจะเข้ามาบริหารแทน จับพวกเขาไปเป็นทาส และนำหายนะและความตายมาให้พวกเขา
“ไปดูสักหน่อยเถิด”
“ผ่านไปหลายวันแล้วยังมิได้ยินข่าวคราวปฏิรูปอันใดจากเมืองเทียนเย่าเลย”
“ได้ยินมาว่าพวกเขาพาจักรพรรดิไปที่ภูเขาทองอคันย่า…พวกเขาอาจจะบุกรุกเข้ามาเพื่อภูเขาทองคำก็เป็นได้”
นี่เป็นสิ่งที่เสนาบดีแคว้นเทียนเย่าคิดเช่นกัน เพราะผ่านไปแล้วสิบกว่าวัน พวกเขาก็ยังมิได้รับการตัดสินโทษใด ๆ จากพวกต้าเซี่ย
ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกสนอกสนใจผืนปฐพีนี้มิน้อย ทว่าเขารู้ดีว่าต้าเซี่ยมิอาจเข้ามาบริหารผืนปฐพีนี้ได้โดยตรง
ทุกวันนี้ต้าเซี่ยมีประชาการเพียงแค่ 400 ล้านคนเท่านั้น ทั้งสี่ร้อยล้านคนนี้ยังมิเพียงพอต่อความต้องการของต้าเซี่ยเลยด้วยซ้ำ แล้วจะเอาประชากรจากที่ใดอพยพมาที่นี่
“บนแผ่นดินใหญ่ลีอาห์แห่งนี้ พวกเราจะยังใช้นโยบายเดิมซึ่งนั่นก็คือให้ชาวลีอาห์ปกครองชาวลีอาห์ด้วยกันเอง พวกเราต้องแสดงให้เห็นว่าต้าเซี่ยอยู่ในตำแหน่งสูงสุดเหนือแผ่นดินใหญ่ลีอาห์ ดังนั้นทั้งสามแคว้นจะต้องมีทหารคอยประจำการ….ส่วนค่าใช้จ่ายในการส่งทหารมาประจำการทั้งหมดก็ให้พวกเขารับผิดชอบ เพราะเยี่ยงไรเสียพวกเราก็คือผู้ที่เข้ามาพิทักษ์และรักษาสันติภาพให้แก่พวกเขา”
“เจ้าดูสถานที่แห่งนี้สิ ! มีโอกาสที่จะพัฒนาไปได้ดีเลยทีเดียว ! มิว่าจะเป็นเรื่องการสร้างโรงงานหรือการตัดถนนหนทาง หากชาวต้าเซี่ยมาค้าขายที่นี่ ก็คงจะทำกำไรได้มากโขเลยทีเดียว ! ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยกับหยุนซีเหยียนในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนราชรถมังกร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)