ตอนที่ 118 จดหมายถึงบ้าน
สุดท้ายผลการแข่งขันที่พวกเขาทั้งสามคนรอคอยก็มาถึง ชืออีหมิงจอหงวน สีส่วงปั๋งเหยี่ยนและฟางเหวินซิงเป็นทั่นฮวา
เดิมทีชืออีหมิงคิดว่าตนนั้นจะดีใจยิ่ง แต่เมื่อขันทีเจี่ยประกาศผลการแข่งขันออกมาแล้ว เขาพบว่าแท้จริงในใจเขากลับมิได้ดีใจเลย……ทั้งสิ้นนี้เป็นเพราะฟู่เสี่ยวกวน !
ดูเจ้านั่นสิ ยืนดูพระราชโองการขององค์ฮ่องเต้อยู่ได้ !
เอาไปชื่นชมที่บ้านไม่ได้หรือไร ?
ชืออีหมิงรู้สึกว่าเขาตั้งใจทำเช่นนั้นเพื่อให้ตนโกรธ หมายความว่าการที่ตนได้รับตำแหน่งจอหงวนนั้นมิมีสิ่งใดน่ายกย่อง ? เขาได้รับตำแหน่งขุนนางขั้นที่ห้า ส่วนอีกสามคนยังจะต้องรอต่อไปซึ่งหาได้มีใครรู้ไม่ว่าเมื่อใด !
ดังนั้นชืออีหมิงจึงไม่มีกระจิตกะใจใด ๆ ในใจเขาคิดเพียงว่าจะจัดการฟู่เสี่ยวกวนอย่างไรดี
สีส่วงมิได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา แม้เขาจะได้รับตำแหน่งปั้งเหยี่ยนซึ่งได้เป็นเพียงที่สาม เดิมทีเขาตั้งใจจะได้ที่หนึ่ง เพราะผู้คนมักจดจำแต่ที่หนึ่งเท่านั้น !
เห้อ ไม่สิ เกรงว่าผู้ได้รับที่หนึ่งในปีนี้คาดว่าอาจไม่มีใครจำได้ เพราะทุกคนล้วนมัวแต่จดจำฟู่เสี่ยวกวน
เขามองไปทางฟู่เสี่ยวกวนอีกครั้งหนึ่ง และพบว่าฟู่เสี่ยวกวนกำลังม้วนเก็บพระราชโองการอยู่ด้วยความระมัดระวัง สีหน้าอันภาคภูมิใจนั้น เห็นได้ชัดว่าเขามิเห็นทั้งสามอยู่ในสายตา
หึ ! ก็แค่เด็กน้อยไร้เดียงสา ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะเย่อหยิ่งได้สักเพียงใด !
มีเพียงฟางเหวินซิงเท่านั้นที่ชื่นชมยินดี เนื่องจากเดิมทีเขามิได้ติดอันดับสิบคนแรก อีกทั้งไม่อาจคิดมาก่อนว่าจะได้รับคัดเลือกเป็นสามอันดับแรก เขาคาดว่าตนจะได้อันดับทั่นฮวา และก็เป็นไปตามนั้นซึ่งทำให้เขายินดียิ่งนัก
ส่วนฟู่เสี่ยวกวน เขามิได้มีจิตใจริษยาแต่อย่างใด กลับกันเนื่องจากกวีคลื่นลมทรายนั่นทำให้เขาชื่นชมฟู่เสี่ยวกวนเสียมากกว่า
แม้ฟู่เสี่ยวกวนจะแย่งความสำคัญในวันนี้ของพวกเขาไป แต่ฟู่เสี่ยวกวนก็เป็นคนที่มีความสามารถจริง ๆ !
เหมือนคราที่หลานถิงจี๋ เขาผู้นี้ก็ทำให้เยี่ยนซีเหวินยอมถอยไปได้ และยังชื่นชมเป็นสหายกับเยี่ยนซีเหวินเสียด้วยซ้ำ ทำให้เยี่ยนซีเหวินเกิดความเคารพยกย่องเขาอย่างน่ายินดี ต่อจากนั้นเมื่อเยี่ยนซีเหวินเอ่ยถึงเขาก็มักกล่าวด้วยความชื่นชม
นี่ก็คือความสามารถเฉพาะตัวของเขา ฟางเหวินซิงรู้ดีว่าฟู่เสี่ยวกวนมีวิธีการหลากหลาย ดังนั้นการที่ฝ่าบาททรงประทานตำแหน่งให้แก่เขา ฟางเหวินซิงมิได้ประหลาดใจแต่ประการใด ซ้ำยังคาดว่าสมควรแล้วอีกด้วย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ฟู่เสี่ยวกวนก็เตรียมตัวที่จะจากไป เขาพูดคุยกับชางกวนเหวินซิ่วอยู่สองสามคำ จากนั้นได้เอ่ยปากรับคำว่าจะเดินทางไปคารวะเขาที่กั๋วจื่อเจี้ยนด้วยตนเอง
เมื่อทั้งสองอำลากันเรียบร้อย คนอื่น ๆ ก็ได้เดินทางจากไปแล้ว ฟู่เสี่ยวกวนจึงเดินทางออกจากที่นั่นเพียงลำพัง เขาเรียกรถม้าคันหนึ่งมาและกล่าวถึงสถานที่ที่จะไป พร้อมทั้งหยิบพระราชราชโองการขึ้นมาหัวเราะอย่างมีความสุข
ในที่สุดก็ได้ตำแหน่งขุนนางเล็ก ๆ มาสักที !
ถือว่ามารดาของเขาตั้งชื่อได้เหมาะสมนัก
เขานำพระราชราชโองการเก็บไว้ในแขนเสื้อและหลับตาลง นึกถึงคัมภีร์พระสูตรเก้าหยาง
เมื่อกลับถึงที่พัก เขาได้อาบน้ำชำระร่างกายและนำพระราชราชโองการมาวางไว้บนโต๊ะ คุยโวโอ้อวดกับชุนซิ่วและซูม่อ
“บัดนี้ คุณชายของพวกเจ้าก็มีตำแหน่งทางราชการเสียที อีกทั้งมิใช่เพียงซิ่วไฉ แต่เป็นจิ้นซื่อ เป็นอย่างไรข้าเก่งหรือไม่ ? ”
ชุนซิ่วได้ยินดังนั้นก็แววตาเป็นประกาย โอ้ เรื่องจริงเยี่ยงนั้นหรือนี่ คุณชายได้รับตำแหน่งแล้ว !
คุณชายมีความสามารถจริง ๆ ด้วย !
ว่าแต่ฉาวซ่านต้าฟูคือตำแหน่งอะไรงั้นหรือ ?
“เป็นตำแหน่งขุนนางขั้นที่ห้า ท่านขุนนางระดับสูงจือโจวแห่งหลินเจียงก็แค่ขุนนางขั้นที่สี่เท่านั้น หากข้าขยันสักหน่อยก็สามารถได้ขั้นที่สามมามิยากนัก”
ชุนซิ่วเบิกตากว้างด้วยความเคารพชื่นชม !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)