ตอนที่ 1326 วันที่แปด เดือนหนึ่ง
เทศกาลปีใหม่ได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
ราษฎรเมืองฉางอันเฉลิมฉลองเทศกาลกันอย่างมีความสุข หลังจากนั้นก็กลับมายุ่งเป็นพัลวันกับการงานอีกครา
ตลอดแปดวันที่ผ่านมา ในเมืองฉางอันเต็มไปด้วยความสงบสุขดั่งที่เป็นมา แต่ราษฎรมิทราบเลยว่าตลอดระยะเวลาแปดวันที่ผ่านมานี้ได้เกิดเรื่องที่ชวนตกตะลึงมากมาย หรือแม้แต่ขุนนางในราชสำนักก็มีเพียงมิกี่คนเท่านั้น ที่ทราบว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเร็ว ๆ นี้
จัวเปี๋ยหลีเสนาบดีกรมยุทธการได้ลงชื่อในหนังสือคำสั่งลับ โดยที่มิมีพระปรมาภิไธยของฝ่าบาท ทว่ามีตราประทับของเสนาบดีทั้งสามฝ่าย ซึ่งฟู่เสี่ยวกวนได้ส่งผ่านจดหมายเพื่อมอบอำนาจให้แก่เยี่ยนซีเหวินเมื่อคราที่เขายังอยู่ในแผ่นดินใหญ่ลีอาห์
คำสั่งลับ :
เฝิงซีผู้บัญชาการกองทัพบกที่สองและเว่ยอู๋ปิ้งผู้บัญชาการกองทัพบกที่สามได้อ่านคำสั่งนี้แล้ว คำสั่งคือให้พวกเขากรีฑาทัพไปยังเขตปกครองตนเองซีเซี่ย !
จับเป็นท่าป๋าวั่งมาให้ได้ หากมีผู้ใดขัดขืน…ให้สังหารอย่างไร้ปรานี !
นอกจากนี้ยังมีหนังสือโยกย้ายที่ออกมาจากกรมขุนนาง ซึ่งมีตราประทับของเสนาบดีทั้งสามคนเช่นกัน…
ให้ย้ายจัวตงหลายไปที่เขตปกครองตนเองซีเซี่ยเพื่อเข้ารับตำแหน่งจ่งตู !
ในขณะเดียวกันฮั่วหวยจิ่นผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์เมืองฉางอันถูกเชิญเข้าไปที่จวนตระกูลเยี่ยน เขาอยู่ที่นั่นถึงสามชั่วยามเต็ม ๆ จากนั้นถึงเดินทางกลับไป ทหารรักษาการณ์จำนวนหนึ่งหมื่นนายได้แปลงกายเป็นปุถุชนแล้วเข้าไปประจำการอยู่ที่สี่ทางเข้าออกของเมือง
อู๋เทียนซื่อมิทราบอันใดเกี่ยวกับเรื่องนี้
รัชสมัยต้าเซี่ยปีที่หก เดือนหนึ่ง วันที่แปด งานประชุมราชสำนักคราแรกของปีนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในยามเช้าตรู่ของวัน
ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิมนั้น ในงานประชุมราชสำนักคราแรกของปี จักรพรรดิจะต้องประกาศสรุปนโยบายของรัชสมัยใหม่ ซึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของราษฎรมิว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เป็นการประชุมที่ราษฎรต้าเซี่ย คณะทูตจากต่างแดน รวมถึงหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ต้าเซี่ยให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ท้องพระโรงฉี่หมิงคราคร่ำไปด้วยผู้คน
อู๋เทียนซื่อยืนอยู่ใจกลางของพระราชวัง มือทั้งสองข้างของเขาค้ำยันโต๊ะเอาไว้แล้วกวาดสายตามองเหล่าขุนนางที่กำลังตั้งหน้าตั้งตารอฟังเขา เมื่อท้องพระโรงเงียบสงัด เขาจึงตรัสออกมาว่า
“รัชสมัยต้าเซี่ยปีที่หก นี่เป็นปีที่สามที่เจิ้นขึ้นครองบัลลังก์”
“ในปีนี้ เจิ้นมีหลายอย่างที่ต้องจัดการเช่นกัน เรื่องเหล่านี้ล้วนแต่กระทบต่อความเป็นอยู่ของราษฎร ซึ่งเป็นการเสริมและแก้ไขมาจากแผนพัฒนาระยะห้าปีของต้าเซี่ย”
“ประการแรก เรื่องนโยบายการการค้าตอบแทนการเกษตรนั้นจำต้องขยายให้ใหญ่ขึ้น ขณะที่พวกเรากำลังควบคุมราคาของข้าว ในเวลาเดียวกันนั้น…พวกเราก็จำต้องเพิ่มความอยากเข้ามามีส่วนร่วมของชาวนา สร้างรายได้ให้พวกเขามากขึ้น ให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าเดิม”
“ส่วนประการที่สอง ในด้านการค้า…”
อู๋เทียนซื่อกวาดสายตามองเหล่าขุนนางอีกครา “ด้านการค้ามิอาจทำอันใดได้อิสระจนเกินไป ! ”
“เจิ้นคิดว่า โครงการใหญ่ของประเทศหรือทรัพยากรที่สำคัญเหล่านั้น จำต้องอยู่ในความดูแลของชาติบ้านเมือง ! ยกตัวอย่างเช่น การค้าเกลือ เหล็ก สินแร่ ข้าวและการขนส่งทางเรือเป็นต้น ! ”
“พวกมันล้วนเป็นทรัพย์สินหรือลู่ทางที่สำคัญของชาติ เมื่อภาคการค้าคิดจะแสวงหาผลกำไรจากตรงนี้ ถือเป็นการนำความสูญเสียมาให้แก่ชาติบ้านเมือง และด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีธุรกิจจำนวนมากที่ถูกยึดมาเป็นสมบัติของชาติ หรืออาจจะใช้วิธีประกอบกิจการร่วมกัน โดยมีราชสำนักเป็นผู้บริหารจัดการ เพื่อเป็นการรับประกันผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ! ”
นโยบายของเขาทำให้พวกเยี่ยนซีเหวินต้องหันมามองหน้ากัน เรื่องสำคัญถึงเพียงนี้ ฝ่าบาทมิได้ปรึกษาหนึ่งในพวกเขาเลย !
นี่มันขัดกับนโยบายการค้าอิสระที่ฟู่เสี่ยวกวนได้ตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้ นี่มันเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายมากเหลือเกิน !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)