นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 239

ตอนที่ 239 แผนการ

ฟู่เสี่ยวกวนตัดสินใจจะเลิกงานในช่วงบ่าย

เทียบกับการต้องมาอ่านสาสน์ที่น่าเบื่อในเสมียนกลางแล้ว เขามีเรื่องสำคัญยิ่งกว่านั้นที่ต้องไปจัดการ

เนื่องจากเยี่ยนเป่ยซีได้กล่าวเอาไว้เช่นนั้นแล้ว เยี่ยงนั้นก็ไร้หนทางที่จะคัดค้านการไปทางเหนือได้ ดูเหมือนว่าระยะเวลาในการเดินทางไปงานชุมนุมวรรณกรรมราชวงศ์อู๋ยังเหลืออีกห้าถึงหกเดือน แต่เวลานั้นกลับหายไปในพริบตา !

มื้ออาหารกลางวันได้ถูกลำเลียงวางบนโต๊ะในหลีเฉินซวนแล้ว บัดนี้ต่งชูหลานกำลังต้มชาให้พ่อสามีของนางในอนาคต

ในตอนนั้นเองฟู่เสี่ยวกวนจึงได้กล่าวกับฟู่ต้ากวน “ตามสถานการณ์ในตอนนี้ เรื่องการหมั้นหมายอย่างน้อยก็คงต้องรอไปอีกเป็นเดือน…” เขาหันหน้าไปหาต่งชูหลาน และรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “ชูหลาน เจ้าทราบดีว่าข้านั้นรีบร้อนอยากจะแต่งกับพวกเจ้าเข้าเรือนถึงเพียงไหน แต่คาดมิถึงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมาแบบกะทันหันเยี่ยงนี้…”

ต่งชูหลานแย้มยิ้ม ในใจของนางย่อมเสียใจเป็นอย่างมาก แต่นางก็เข้าใจว่านี่คือมิใช่เรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนจะตัดสินได้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหยูเวิ่นหวิน เยี่ยงนั้นก็ทำได้เพียงแค่เปลี่ยนวัน

“เจ้ามิต้องคิดสิ่งใดให้มากความ ก็เหมือนดังกับ ‘นางฟ้าสะพานนกกางเขน’ ที่เจ้าเป็นผู้เขียน ข้าสามารถรอเจ้าได้”

ประโยคที่กล่าวว่าความรักทั้งสองจะยืนยาวได้ ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เพราะฟู่ต้ากวนอยู่ที่นี่ ต่งชูหลานย่อมอายที่จะกล่าวออกไป นางคิดว่าฟู่เสี่ยวกวนจะต้องเข้าใจได้เป็นแน่

“วันนี้ที่สำนักงาน อัครมหาเสนาบดีเยี่ยนเป่ยซีได้มอบหมายงานให้ข้า ข้าจะเล่าเรื่องนี้ให้พวกท่านลองฟังดู”

ฟู่เสี่ยวกวนกล่าวคำพูดเหล่านั้นของเยี่ยนเป่ยซีออกมาอย่างจริงจัง ต่งชูหลานเงยหน้าขึ้นมามองฟู่เสี่ยวกวนทันที ในแววตามีความกังวลพาดผ่าน แต่เพราะมีฟู่ต้ากวนอยู่ด้วย นางจึงยังมิได้กล่าวอะไรออกไป

แต่ฟู่ต้ากวนที่ได้ยินเยี่ยงนั้น กลับคิ้วขมวด

“ในอดีตเคยได้ยินพ่อค้ากล่าวกันถึงหย่งหนิงโจว ความกันดารของสถานที่นั้นเลวร้ายยิ่งกว่าซีหรง เหมียวเจียง เชียงไจ้เสียอีก ท่านอัครมหาเสนาบดีเยี่ยนผู้นี้ต้องการให้เจ้าไปตรวจการณ์สถานที่ทรุดโทรมเยี่ยงนั้นด้วยเหตุใด ที่นั่นนอกจากเนินดินสูงที่ไร้ที่สิ้นสุดและข้าวฟ่างสีแดงที่อ่อนแอแล้ว นอกจากนั้นก็มิมีสิ่งอื่นใดอีก ใช่…ตอนนี้สถานที่แห่งนั้นยังมีหัวหน้าโจรกงเซินจ่างแห่งแม่น้ำหวงเหออยู่ อย่าไป อย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนั้นเป็นอันขาด เจ้าไปมิได้ ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนก็มิได้อยากไป แต่เขามีหนทางให้เลือกด้วยเยี่ยงนั้นรึ ?

อีกฝ่ายเป็นถึงอัครมหาเสนาบดีของราชวงศ์ เขาที่เป็นเพียงขุนนางขั้นสี่ตัวน้อย ๆ ลำแขนอย่างเขาจะไปสู้ต้นขาได้เยี่ยงไร ดังนั้น เขาจึงกล่าวได้เพียงว่า “ท่านพ่อมิต้องกังวลใจกับเรื่องนี้ ข้ารู้สึกว่าไปดูไว้ก็พอ”

“มิใช่ บุตรของข้า เจ้าได้ไปรังแกเยี่ยนเสี่ยวโหลวหลานสาวของเขาหรือไม่ ชายชราผู้นั้นกำลังแก้แค้นเจ้าอยู่ใช่หรือไม่ ? ” ทันใดนั้นฟู่ต้ากวนก็นึกถึงเรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนกล่าวกับเขาว่ามีเยี่ยนเสี่ยวโหลวเป็นลูกสะใภ้อีกหนึ่งคน คิดไปแล้วว่าเยี่ยนซือเต้าผู้นั้นมิสามารถคว้าหัวใจของหยุนชิงได้ ในตอนนี้บุตรชายของหยุนชิงกลับต้องมาตบแต่งกับบุตรีของตระกูลเยี่ยน สองพ่อลูกนี่คิดจะร่วมมือกันเล่นงานฟู่เสี่ยวกวนเยี่ยงนั้นรึ ?

ฟู่เสี่ยวกวนยิ้มอย่างขัดเขิน “ท่านพ่ออย่าได้คิดไปไกลเยี่ยงนั้น มันมิมีเรื่องอันใด”

ฟู่เสี่ยวกวนนิ่งเงียบไปอีกอึดใจ และเขาก็กล่าวออกมาอีกว่า “ข้าคิดไว้ว่า ท่านพ่อต้องกลับไปยังหลินเจียง ให้ผู้รับผิดชอบโรงงานต่าง ๆ รอการเรียกตัวมาเมืองหลวงจากข้า จำไว้ว่าต้องเรียกเฝิ๋งหล่าวซื่อ ทั้งยังให้เฝิ๋งหล่าวซื่อพาช่างเหล็กที่เข้าใจลักษณะของภูเขามาด้วยสองสามคน นอกจากนั้นก็ให้จัดเตรียมพ่อบ้านมาด้วย พวกเขาจะพักประจำที่ผิงหลิงและชวีอี้ ให้พวกเขานั่งรถม้าของขนส่งของซีซานมายังเมืองหลวง ผู้รับผิดชอบขนส่งซีซานก็ต้องตามมาด้วยเช่นกัน คร่าว ๆ ก็เป็นประมาณนี้”

ฟู่ต้ากวนเบิกตากว้าง “เจ้าคิดจะทำอันใดอีกกัน ? ”

“ข้าอยากจะเปิดโรงงานในที่สองแห่งนั้น”

ดวงตาของต่งชูหลานเป็นประกาย ทันใดนั้นนางก็ได้คิดว่าโรงงานชุดชั้นในของตนนั้นจะสามารถขยายออกไปได้หรือไม่ ?

ตามคำกล่าวของฟู่เสี่ยวกวน ต้องคิดขยายกิจการ ต้องดำเนินการไปทั่วทั้งแว่นแคว้น หากสามารถสร้างโรงงานที่สองแห่งนั้นได้ ก็จะสามารถสร้างตลาดทางเหนือได้ เรื่องนี้ต้องกล่าวกับเขาในภายภาคหน้า เยี่ยงนั้นนางเองก็ต้องตามเขาไปด้วยเช่นกัน

ฟู่เสี่ยวกวนนึกถึงมารดาทั้งหกของตน ก็กล่าวขึ้นมาว่า “หลังจากที่ท่านพ่อกลับไปที่หลินเจียงก็ลองกล่าวกับแม่ทั้งหกดู บอกว่าสองสถานที่นั้นจะลดและละเว้นภาษี ลองดูว่าตระกูลพวกนางจะยินยอมที่จะไปดูหรือไม่ หากเห็นด้วย ก็ต้องให้พวกเขาตามมา”

ที่สำคัญคือแม่ห้า แม่หกและแม่เจ็ด ตระกูลของแม่ห้าคือกิจการค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ หากสามารถเปิดเหมืองแร่ที่ผิงหลิงและชวีอี้ได้ พวกเขาสามารถสร้างโรงงานขึ้นที่นั่นได้

และตระกูลของแม่หกคือช่างตัดเย็บ ทุกคนย่อมต้องใส่เสื้อผ้าอาภรณ์อยู่แล้ว

ตระกูลของแม่เจ็ดชวูหลิงหลงก็เป็นกิจการค้าผ้าพอดี คาดว่าพวกเขาก็คงสนใจตลาดของทางเหนือเช่นกัน

แต่ฟู่ต้ากวนกลับส่ายหน้า “ปัจจุบันสิ่งที่พ่อค้ากลัวมากที่สุดคือการค้าขายต่างถิ่น มังกรที่แข็งแกร่งยากที่จะชนะงูถิ่น พ่อค้าประจำถิ่นย่อมมีความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์กับราชสำนักมาเนิ่นนานมิใช่รึ พ่อค้าทางใต้อย่างพวกเราหนีไปทางเหนือ…ยังมิทันจะได้ดื่มซุป หม้อก็หายไปเสียแล้ว”

นี่คือสถานการณ์ค้าขายในปัจจุบัน

เพราะการจำกัดที่มีต่อพ่อค้าของทางราชสำนักมีมากขึ้น จนทำให้กิจการต่างถิ่นลำบากมากยิ่งขึ้น ช่องทางการส่งของถูกปิดกั้น แต่พ่อค้าก็ยังคงไล่ล่าเพื่อแสวงหาผลกำไร พวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สินค้าของตนเองได้ถูกส่งออกไป แต่ก็ไร้หนทางที่จะหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ทางการเงิน หรือร่วมมือกับพ่อค้าต่างถิ่นได้ เยี่ยงนั้นต้นทุนไร้รูปลักษณ์ที่ตามมาก็จะยิ่งมากขึ้น ราคาของสินค้ามีแต่จะสูงมิมีลง จึงเป็นผลให้ยอดขายยากที่จะเพิ่มพูนขึ้นได้

เปลืองแรงและไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นจึงมีพ่อค้าหลายรายเอนเอียงไปอีกข้าง จึงต้องขอเสบียงจากหนึ่งในสามหมู่ผืนนาของตนเอง การหมุนเวียนของสินค้าก็จะน้อยลงไปอีก เว้นแต่จะทำกำไรได้มาก หรือมีต้นไม้ใหญ่ให้หนุน มิเช่นนั้นพ่อค้าทั่วไปก็จะหนีออกมามิได้

ฟู่เสี่ยวกวนลอบถอนหายใจ แต่ยังคงโน้มน้าวบิดาของตนดังเก่า “ท่านพ่อ หากข้าขอหนังสือราชการจากตระกูลเยี่ยนได้…ความหมายของข้าคือให้ตระกูลเยี่ยนไปยังชวีอี้และผิงหลิงเพื่อทำหนังสือรับรองการลงทุนให้กับทุกท่าน เยี่ยงนี้ก็จะคลี่คลายความพะว้าพะวงของพวกเขาได้แล้วมิใช่รึ ท่านต้องบอกกับพวกเขาว่า โอกาสมีเพียงครั้งเดียว หากพลาดไปก็มิมีโอกาสอีกแล้วแล้ว หากต้องการเงินมากขึ้น หากต้องการให้รากฐานของวงศ์ตระกูลสูงยิ่งขึ้น ต้องใจกล้าเข้าไว้ มิเช่นนั้นหากรอจนกระทั่งปัจจัยพร้อมเพรียง เกรงว่าจะมิมีแม้แต่ซุปให้ดื่ม”

ฟู่ต้ากวนครุ่นคิดกับประโยคนี้อยู่เนิ่นนาน หลังจากนั้นจึงตัดสินใจที่จะออกจากเมืองหลวงเพื่อกลับไปยังหลินเจียงในช่วงบ่ายนี้

“ลูกชาย เจ้าต้องได้รับหนังสือการรับรองจากตระกูลเยี่ยนให้จงได้ มิเช่นนั้นหากเหล่าพ่อตาของข้าเชื่อคำที่ข้ากล่าวไปแล้ว และได้ร่วมกันไปลงทุนก้อนใหญ่ที่ผิงหลิงและชวีอี้ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโยนเงินลงน้ำแล้วมิได้รับอะไรกลับมาแม้แต่น้อย…พ่อคาดว่ามารดาทั้งหลายของเจ้าจะต้องฆ่าพ่อเป็นแน่ ! ”

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)