นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 284

ภายในลานเงียบสงบลง แล้วอู่หลิงก็ได้เดินนำกลุ่มคนราว 10 คนเดินเข้ามา

เมื่อเหล่าปัญญาชนจากสามแคว้นได้พบเห็นคนที่ติดตามมาข้างกายของอู่หลิงนั้น

ชายหนุ่มผู้นั้นช่างดูอ่อนแอและเปราะบางยิ่งนัก เขาสวมใส่ชุดสีเขียวแกมน้ำเงินที่ดูแสนธรรมดา หน้าตาดูเป็นมิตรและดูเยาว์วัยยิ่งนัก เขาผู้นั้นคือใครกัน ?

คนหนุ่มที่ทำให้องค์หญิงไท่ผิงต้องเสด็จมาต้อนรับด้วยตัวพระนางเอง เขาผู้นั้นเป็นใครกัน ?

เหล่าปัญญาชนส่วนใหญ่นั้นแสดงสีหน้าฉงนยิ่ง เว้นเสียแต่ฝานซีหนิงเท่านั้นที่แววตาดุจประกายขึ้นมา ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั่นยิ่งยิ้มกว้างขึ้นมาอีก

องค์หญิงไท่ผิงได้นำขบวนของฟู่เสี่ยวกวนนั้นเข้ามาในห้องโถงใหญ่ แล้วจึงได้เชิญพวกเขานั่งลงแล้วหันไปตรัสแก่เหล่าปัญญาชนเหล่านั้นว่า “ท่านผู้นี่คือฟู่เสี่ยวกวน ! ”

และมิทรงตรัสอื่นใดเพิ่มอีก แค่เพียงเอ่ยนามออกมาสั้น ๆ เพียงเท่านั้น

ปัญญาชนเหล่านั้นต่างตกตะลึงยิ่ง เขาน่ะหรือคือฟู่เสี่ยวกวน !

จริงเสียอย่างที่กล่าวกันว่าคนดังแค่เอ่ยนามก็ผวาแล้ว อู่หลิงนั้นแอบหัวเราะเยาะอยู่ภายในใจ แค่เพียงเอ่ยชื่อเท่านั้นก็ทำเอาคนพวกนี้ตกใจเสียจนหน้าถอดสี

นี่คงสมคำร่ำลือที่ว่าเขาคือวีรบุรุษหนุ่ม !

ฟู่เสี่ยวกวนนั้นกวาดสายตามองไปยังเหล่าปัญญาชนโดยรอบ แต่เขายังคงนั่งอยู่หาได้ยืนขึ้นโค้งคำนับไม่ แม้คำกล่าวทักทายสักคำก็ไม่มี จากนั้นจึงหันสายตากลับมาแล้วเอ่ยกับอู่หลิงว่า “โปรดสั่งการเตรียมอาหารเถิด ทุกคนต่างอ่อนล้ามามากแล้ว รีบกินแล้วจะได้รีบไปพักผ่อนกันเสีย”

“รับทราบ อาหารที่หอต้อนรับนั้นมิอร่อย ให้ข้าสั่งอาหารมาสักชุดให้คนบนโต๊ะนี้จากหอป้านเย่แล้วกินแกล้มกับเหล้าหมักซีซานของท่านดีหรือไม่ ? ”

นี่มันอะไรกัน ?

เหตุใดองค์หญิงไท่ผิงทรงถ่อมตนต่อหน้าฟู่เสี่ยวกวนยิ่งนัก ?

พระนางมิเพียงแต่มิได้ตัดหัวฟู่เสี่ยวกวนทิ้งเสียเท่านั้น แต่ยังเสด็จไปต้อนรับด้วยตนเอง อีกทั้งมิได้ทำการกักขังฟู่เสี่ยวกวน แต่กลับให้ความเคารพเสียยิ่งกว่าแขกคนสำคัญ !

หรือนี่คือท่าทีที่ราชวงศ์อู๋ที่มีต่อราชวงศ์หยู ?

ด้วยสถานะอันสูงส่งขององค์หญิงไท่ผิงแต่กลับทรงปฏิบัติต่อฟู่เสี่ยวกวนอย่างนอบน้อมยิ่ง หรือนี่จะเป็นสาสน์อย่างหนึ่งที่ต้องการจะสื่อถึงเหล่าปัญญาชนทั้งหลาย แท้จริงแล้วองค์จักรพรรดิเหวินตี้และฮ่องเต้หยูยิ่นทรงมีความสัมพันธ์ทีดีต่อกันเสมอมา

จักรพรรดิเหวินตี้นั้นทรงศึกษาจากตำหนักจี้เซี้ยะและฮ่องเต้หยูยิ่นนั้นก็ทรงศึกษาในตำหนักเดียวกัน ด้วยเหตุนี้แล้วเรื่องที่องค์หญิงทรงเสด็จมาต้อนรับด้วยตนเองเยี่ยงนี้แน่นอนว่าย่อมได้รับสั่งจากจักรพรรดิเหวินตี้ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่แคว้นอี๋กำลังล่วงล้ำอาณาเขตของแคว้นหยูนั้นพระองค์จะทรงส่งทัพมาเกื้อหนุนหรือไม่ ?

เหยียนหานยู่เกิดอาการผวาในใจ เขาขมวดคิ้วเสียจนคิ้วพันกันยุ่ง ข่าวครานี้ต้องแจ้งทางแคว้นให้ทราบแต่โดยเร็ว และตัวเขาเองนั้นก็จะต้องหาทางทำลายล้างพันธมิตรนี้ไปเสียให้สิ้น และเรื่องนี้ก็ยังต้องเกี่ยวพันกับฟู่เสี่ยวกวนอยู่ดี !

ทว่าเมื่อท่าป๋ายวนเห็นสถานการณ์ทั้งหมด แม้สีหน้าจะนิ่งดั่งสายน้ำขึ้นมา แต่ภายในใจกลับอาฆาตพยาบาทฟู่เสี่ยวกวนยิ่งนัก

และยังคงมีเพียงแค่ฝานเทียนหนิงเท่านั้นที่ยังคงนั่งมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างสนอกสนใจอยู่ตรงโต๊ะอีกตัวหนึ่ง

เวลานี้พวกเขายังมิได้รับประทานอาหารค่ำ ทว่าที่องค์หญิงทรงตรัสว่าจะสั่งอาหารมาให้คนบนโต๊ะนี้นั้นช่างเข้าใจได้ง่ายเสียจริง ๆ เพราะทั้งคณะของฟู่เสี่ยวกวนนั้นได้นั่งกันเต็มหนึ่งโต๊ะพอดีหาได้มีส่วนแบ่งให้ใครอื่นอีก

อู่หลิงเดินกลับเข้ามาอีกครา ครานี้นางได้นั่งลงตรงกันข้ามกับฟู่เสี่ยวกวน บ่าวรับใช้ได้นำน้ำชามาถวาย นางแทบจะลืมสิ้นว่ามีปัญญาชนอีกสามแคว้นได้ร่วมห้องอยู่ด้วย นางรับกาน้ำชามาแล้วรินใส่ให้หยูเวิ่นเหวินก่อนใครเพื่อน

“องค์หญิงเก้าทรงเสด็จมาไกลเพื่อมาเยือนถิ่นของข้า ได้โปรดให้อภัยด้วยเถิดที่มิได้ไปรับเสด็จด้วยตนเอง ข้าขอรินชาถ้วยนี้ให้องค์หญิงเก้าเพื่อเป็นการไถ่โทษ ! ”

“องค์หญิงไท่ผิงช่างถ่อมตนเสียจริง ๆ สุดท้ายกลับต้องลำบากให้องค์หญิงเสด็จมาด้วยตนเอง ข้าเกรงใจท่านยิ่งนัก”

องค์หญิงทั้งสองพระนางต่างกล่าวด้วยวาจาชิงไหวชิงพริบกันชุดใหญ่ หลังจากนั้นต่างก็รินน้ำชาใส่ถ้วยให้กัน และนี่ถือเป็นการรู้จักซึ่งกันและกันแล้ว

อู่หลิงรินน้ำชาให้ต่งชูหลานเช่นกัน แล้วคำนับนางด้วยความเคารพจนทำให้นางรู้สึกขัดเขิน ต่อมานางก็ได้เกิดความกังวลขึ้นภายในใจไม่น้อย

“ข้านั้นได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของท่านพี่ชูหลานมาช้านาน วันนี้ได้มีโอกาสพบเจอเสียที ท่านพี่ช่างงามดั่งอัปสรา ข้าขอเชิญท่านพี่ดื่มชาสักถ้วยเถิด หากเหล้ามาเมื่อใดข้านั่นจะขอไถ่โทษด้วยการดื่มเหล้าอีกครา ”

ต่งชูหลานเจียดยิ้มเล็กน้อย “หม่อมฉันมิคู่ควรที่จะได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนี้เลยเพคะองค์หญิง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)