นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 348

ตอนที่ 348 มิพบกันเสียจะดีกว่า

ด้านซ้ายสุดของวังหลังในเขตพระราชวัง มีตำหนักที่ทรุดโทรมยิ่งตั้งอยู่ ตำหนักนั้นมีชื่อเรียกว่าตำหนักเย็น

มันเป็นสถานที่ที่อับชื้น และได้ส่งกลิ่นที่มิน่าพิสมัยออกมา

ที่ตำหนักเก่าโทรมเช่นนี้ กลับมีกลอนประตูหนาใหม่เอี่ยมล็อกเอาไว้ ทหารยามทั้งสองยืนอยู่อย่างเบื่อหน่าย

เมื่อขันทีผู้หนึ่งนำพาฟู่เสี่ยวกวนเดินมายังสถานที่แห่งนี้ พวกเขาทั้งสองคนจึงอดมิได้ที่จะชายตาไปมองแล้วยกมือขึ้นลูบจมูก

ผนังของตำหนักที่ทรุดโทรมนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเครือเถาวัลย์ สีของกระเบื้องเคลือบบนหลังคาดูซีดจางลงตามกาลเวลา และดูเหมือนว่าบางจุดมิมีกระเบื้องมุงเอาไว้

ประตูนั้นก็มีรอยด่างเสียจนมองมิเห็นสีเดิม

“คุณชายขอรับ ที่แห่งนี้เป็นสถานที่คุมขังเซียวเฉียงขอรับ”

ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า เขานึกถึงคำร้องของซูซู ขุนนางถูกโยกย้ายเหี่ยวเฉา เศรษฐีเงินทองผลาญสิ้น ราวกับนกถูกโยนเข้าป่า เมื่อขากระทบพื้นดินอันกว้างใหญ่…ช่างสะอาดตา !

“ท่านขันทีช่วยเปิดประตูให้ข้าเถิด”

ขันทีผู้นั้นเดินนำหน้าเขาไปและได้หยิบกุญแจมาจากทหารยาม เมื่อประตูนั้นถูกเปิดออก ก็พบกับแสงสว่างเหลืองนวลของตะเกียงน้ำมันอยู่ด้านใน

ฟู่เสี่ยวกวนก้าวเท้าเข้าไป พบว่าเซียวเฉียงกำลังนั่งหันหลังให้เขาอยู่ที่เก้าอี้เก่า ๆ ตัวหนึ่ง ตะเกียงนั้นตั้งอยู่บนโต๊ะ ราวกับว่านางกำลังอ่านบางสิ่งอยู่

เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก นางก็มิได้แม้แต่จะหันหลังไปมอง

เมื่อฟู่เสี่ยวกวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังนาง นางเพียงเผยอปากยิ้มขึ้นแล้วกล่าวว่า “ข้าคิดไว้แล้วว่าคนที่มาดูข้าคนที่สองต้องเป็นเจ้า ! ”

“เดิมทีข้าประสงค์จะมาเป็นคนแรก แต่ทว่าองค์จักรพรรดิทรงอนุญาตช้าไปเสียหน่อย”

จักรพรรดินีเซียวปิดหนังสือที่อยู่ในมือนางลง จากนั้นก็หันหลังกลับมามองดูฟู่เสี่ยวกวนด้วยท่าทีจริงจัง “บัดนี้ได้สงบลงเสียที ข้าจึงได้มีเวลาอ่านความฝันในหอแดงของเจ้า และได้เรียนรู้บางอย่างจากในนั้น”

“ขอบอกท่านตามตรงว่า เมื่อคราที่ข้าเขียน ก็มีความรู้สึกนั้นเช่นกัน”

จักรพรรดิเซียวยกยิ้มขึ้น “เด็กคนนี้ เจ้าช่างเก่งกาจอย่างแท้จริง หากมิใช่เพราะตัวตนของเจ้า ข้าคงจะชื่นชมเจ้ามากเสียทีเดียว”

ฟู่เสี่ยวกวนลากเก้าอี้ที่วางอยู่ตรงมุมของตำหนักเข้ามา จากนั้นก็นั่งลงตรงข้ามกับจักรพรรดินีเซียว

“หนังสือความฝันในหอแดงของข้านั้น ข้าจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเนื้อหาในบทที่ห้า มีคำกล่าวที่ว่า แผนการฉลาดล้ำเกินคิด แต่กลับถึงชีวิต ท่านเป็นพระมารดาของหลิงเอ๋อร์ อีกทั้งยังเป็นถึงจักรพรรดินี เหตุใดต้องทำเยี่ยงนี้ด้วยเล่า?”

จักรพรรดินีเซียวเลิกคิ้วขึ้น “แต่ข้าเองก็จำได้ว่า มีข้อความเช่นนี้ในหนังสือความฝันในหอแดงของเจ้า ผู้ที่โดดเด่นเกินคน มักทำให้ผู้อื่นอิจฉา ใครให้เจ้าเป็นบุตรนอกสมรสของฝ่าบาทกัน อีกทั้งยังมีความสามารถถึงเพียงนี้ ? ”

ฟู่เสี่ยวกวนนำมือขึ้นลูบจมูก “แต่ท้ายที่สุด ความปรารถนาต่าง ๆ กลับถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นและความสกปรก”

จักรพรรดินีเซียวลุกขึ้นยืน จากนั้นมองไปยังด้านนอกหน้าต่าง เครือเถาวัลย์ที่ผนังด้านนอกประตูมีดอกไม้เล็ก ๆ กำลังเบ่งบาน

เถาวัลย์ไร้ชื่อ ดอกไม้ก็เช่นกัน

“ในค่ำคืนนั้น ข้าได้เดินทางไปยังตำหนักของหลิงเอ๋อร์ ได้พบกับกวีที่เจ้าเขียนขึ้น ณ เรือนชิงเสียน ข้าขอเอ่ยถามเจ้าสักหน่อยว่า เจ้านั้นไร้ซึ่งปรารถนาจริง ๆ เยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“หากข้าบอกว่า ข้านั้นต้องการเป็นเพียงพ่อค้าที่ดินแห่งหลินเจียงเท่านั้น ท่านจะเชื่อหรือไม่ ? ”

คิ้วของจักรพรรดินีเซียวเลิกขึ้นแล้วหัวเราะออกมา “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“เช่นนั้น นี่มิใช่เรื่องสำคัญใด ที่สำคัญคือ ข้าต้องการถามท่านว่า ข้าเป็นใครกันแน่ ? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)