ตอนที่ 433 ข้าเป็นผู้รักความสงบ
“…เกรงว่าเก่งกว่าที่ผู้ใดจะจินตนาการออกมาได้ ! ”
คำกล่าวของฮั่วหวยจิ่นทำให้ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกแปลกใจ
ตัวเขาเองคิดว่ากองทัพชายแดนทั้งสี่ของราชวงศ์หยู กองทัพชายแดนเหนือที่นำโดยเผิงเฉิงอู่นั้นแข็งแกร่งที่สุด ถึงแม้กองทัพชายแดนเหนือจะพ่ายแพ้ที่ภูเขาผิงหลิงอย่างน่าอนาถ ในสายตาของฟู่เสี่ยวกวน มิสามารถกล่าวได้ว่ากองทัพชายแดนเหนือนั้นอ่อนแออย่างแท้จริง
กองทัพชายแดนส่วนใหญ่จะเป็นการทำสงครามบนพื้นที่ราบ มองไกลออกไปทั่วทั้งใต้หล้านี้ กองทัพที่มีความชำนาญการรบบนภูเขาอย่างแท้จริงนั้นมีอยู่น้อยมากยิ่งนัก
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกันกับรูปแบบการต่อสู้ของโลกใบนี้ โดยพื้นฐานแล้วทหารทั้งสองฝ่ายจะรุกโต้เข้าหากัน เพื่อล้อมเมืองยึดดินแดน
ตัวอย่างเช่นสงครามทางชายแดนตะวันออก กองทัพชายแดนตะวันออกและกองทัพของแคว้นอี๋แทบจะเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ต่อให้มีการหยิบยกกลยุทธ์ขึ้นมาใช้ แต่ก็มิมีอะไรมากไปกว่าวิธีการที่เห็นได้ทั่วไปอย่างการรุกหน้าและการล่อศัตรูให้มาติดกับ
ทางตะวันตกมิได้เกิดสงครามมาเนิ่นนานแล้ว ดังนั้นประสิทธิภาพในการรบที่แท้จริงของกองทัพชายแดนตะวันตกเป็นเยี่ยงไร ก็ยังมิอาจตรวจสอบได้
เดิมทีฟู่เสี่ยวกวนเพียงแค่ถามออกไปส่งเดชเท่านั้น ที่เขากังวลก็คือองค์ชายสี่หยูเวิ่นชูได้ไปยังซีฮวงแล้ว โดยพื้นฐานจะทำให้สูญเสียโอกาสในการแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาท
แต่เซวี๋ยติ้งชานมีศักดิ์เป็นน้าชายของหยูเวิ่นชู หากหยูเวิ่นชูยังมิปล่อยวาง ยังคงจับจ้องจะเอาตำแหน่งองค์รัชทายาท ไพ่ที่ใหญ่ที่สุดของเขาน่าจะเป็นกองทัพชายแดนตะวันตกแล้ว
สำหรับหยูเวิ่นชู เขาเคยพบเจอเพียงแค่สองถึงสามคราเท่านั้น ส่วนที่ได้สนทนาอย่างจริงจังนั้นกลับมีเพียงแค่คราเดียวเท่านั้น
นั่นก็คือตอนที่เขาต้องออกเดินทางไปยังราชวงศ์อู๋ หยูเวิ่นชูมาเยี่ยมเยียนเขาถึงหน้าประตูจวน จากการสนทนาในครานั้น ฟู่เสี่ยวกวนคิดว่าหยูเวิ่นชูมิใช่คนที่จะพึงพอใจกับสภาพในปัจจุบัน
เขาย่อมมีหมากกระดานอยู่เป็นแน่ เพียงแค่ฟู่เสี่ยวกวนเพิ่งกลับมายังเมืองหลวง ทั้งยังขาดข้อมูลอีกมากมาย จึงยังไร้หนทางจะเข้าใจได้ว่าหยูเวิ่นชูจะไปลงหมาก ณ ที่ใด
“เจ้ากำลังกังวลกับองค์ชายสี่เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เป็นหยูเวิ่นเต้าที่เอ่ยถามขึ้นมา ฟู่เสี่ยวกวนฉีกยิ้ม “คงเป็นไปมิได้ที่จะกล่าวว่ามิได้กังวลใจ เขาและองค์ชายใหญ่นั้นมิเหมือนกัน องค์ชายใหญ่เกิดมาเพื่อเป็นนักรบ กระทำการอันใดก็เถรตรงและเรียบง่าย แต่ข้ากลับมององค์ชายสี่มิค่อยเข้าใจนัก ดังนั้นจึงเอ่ยปากถามขึ้นมาก็เพียงเท่านั้น พวกเจ้าอย่าได้นำไปใส่ใจเลย”
“ฝ่าบาทได้ส่งองค์ชายสี่ไปที่ซีหรงแล้ว อยู่ที่ซีหรงเขาคงยากที่จะกระทำการใด” ฮั่วหวยจิ่นได้กล่าวออกมาเยี่ยงนี้
“เจ้ามองเป็นเยี่ยงนั้นหรือ ? ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถามขึ้น
“เบื้องหน้าเขตซีหรงอาจจะอยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าตระกูลเผิง แต่อำนาจในเบื้องหลังของลัทธิจันทรานั้นกลับมีมากมายมหาศาล ตามที่ท่านพ่อได้วิเคราะห์เอาไว้ เจ้าของที่แท้จริงของเขตซีหรงเกรงว่าจะเป็นลัทธิจันทรา หากองค์ชายสี่อยากมีสิทธิ์อำนาจในเขตซีหรง เขาก็จำต้องโค่นลัทธิจันทรา… นั่นมิใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย”
ฟู่เสี่ยวกวนใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน หากองค์ชายสี่คิดโค่นลัทธิจันทราก็ต้องใช้กำลังสนับสนุนจากกองทัพชายแดนตะวันตก แต่หากมิมีตราคำสั่งของฝ่าบาท กองทัพชายแดนตะวันตกก็ยากที่จะเคลื่อนพลจำนวนมากออกจากฐานทัพ
ดังนั้นจึงไม่สามารถเดินไปบนเส้นทางนี้ได้ นอกเสียจาก…
ฟู่เสี่ยวกวนจมดิ่งอยู่ในภวังค์ความคิด มิมีความเป็นไปได้เลยที่องค์ชายสี่จะร่วมมือกันกับลัทธิจันทรา !
ลัทธิจันทราถูกสร้างขึ้นมาด้วยเศษที่เหลือจากราชวงศ์ก่อน สร้างขึ้นเพื่อทำลายราชวงศ์หยู ต่อให้องค์ชายสี่จะโหดเหี้ยมบ้าระห่ำถึงเพียงใด ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกันกับศัตรูเยี่ยงนี้
เยี่ยงไรเสียพวกเขาต่างก็มิได้รับรู้ว่า หนานป้าเทียนในอดีต เดิมทีแล้วเป็นนักบุญของลัทธิจันทรา
นางได้มาอยู่ข้างกายของหยูเวิ่นชูเนิ่นนานแล้ว อีกทั้งยังให้กำเนิดบุตรี 1 คนอีกด้วย
หยูเวิ่นชูอยากจะยืมพลังของลัทธิจันทราทำให้ราชวงศ์หยูเกิดความโกลาหล แต่ลัทธิจันทรากลับคิดอยากจะใช้ตัวตนของหยูเวิ่นชูมาควบคุมราชวงศ์หยูด้วยเช่นกัน
หมากกระดานนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพียงแต่ในตอนนี้นอกจากท่านผู้สังเกตแห่งสำนักเต๋าแล้ว คนที่รับรู้เรื่องนี้ก็มีอยู่น้อยนิด
ฟู่เสี่ยวกวนโยนเรื่องนี้ออกไป และกล่าวกับฮั่วหวยจิ่นยิ้ม ๆ “องค์หญิงสามใกล้จะกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว เรื่องของพวกเจ้าทั้งสองคนได้จัดการเรียบร้อยแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? อย่าให้กลางคืนที่ยาวนานนี้มีฝันร้ายมากจนเกินไปเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)