นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 486

ตอนที่ 486 ความวุ่นวายในสำนักอัครมหาเสนาบดี
ตอนที่ 486 ความวุ่นวายในสำนักอัครมหาเสนาบดี

“ท่านฟู่ ! ”

ขันทีเจี่ยรีบโค้งคำนับเขาทันที ใบหน้าที่เหี่ยวย่นยกยิ้มขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงรับสั่งให้ท่านไปยังสำนักอัครมหาเสนาบดี”

ฟู่เสี่ยวกวนสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันพลัน ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทจะทรงให้เขาไปพบที่ห้องทรงพระอักษร แต่เหตุใดวันนี้จึงเปลี่ยนไปที่สำนักอัครมหาเสนาบดีได้กัน ?

สำนักอัครมหาเสนาบดีเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดในราชวงศ์หยู โดยมีกรมทั้งหกอยู่ในความดูแล อีกทั้งในปัจจุบันนี้ยังมีกรมการค้าอีก 1 กรมที่เพิ่มเข้ามา

ตามหลักแล้ว ขุนนางสูงสุดของสำนักอัครมหาเสนาบดี ผู้มีอำนาจสูงสุดควรจะเป็นขุนนางระดับสองเป็นต้นไป แต่ราชวงศ์หยูมิใช่เช่นนั้น

ฟู่เสี่ยวกวนเข้าใจแล้วว่า ในสำนักอัครมหาเสนาบดีผู้มีอำนาจสูงสุดก็คือท่านอัครมหาเสนาบดี เนื่องจากราชวงศ์หยูและราชวงศ์อู๋มิเหมือนกัน ที่ราชวงศ์อู๋นั้นมีอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาเท่าเทียมกัน แต่ราชวงศ์หยูมีเพียงคนเดียวเท่านั้น

ดังนั้นกว่าสามสิบปีหลังจากการก่อตั้งราชวงศ์หยู เพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของอัครมหาเสนาบดี จึงได้มีสำนักอัครมหาเสนาบดีกำเนิดขึ้นมา

ในตอนนั้นสำนักอัครมหาเสนาบดีมีทั้งสิ้น 6 กรม และพวกเขาได้ลดอำนาจของอัครมหาเสนาบดีลงเสียจนสิ้น ทำให้อำนาจของสำนักอัครมหาเสนาบดียิ่งใหญ่ขึ้น หลังจากต่อสู้กันไปมาอยู่ 50 ปี จึงได้กลายมาเป็นเช่นปัจจุบันนี้

อัครมหาเสนาบดีจะดูแลสำนักอัครมหาเสนาบดีและคณะองคมนตรี ส่วนรองเสนาบดีกรมเมืองและคณะองคมนตรีมีสิทธิ์ขัดแย้งความคิดเห็นของอัครมหาเสนาบดี แต่ในขณะเดียวกัน ผู้มีส่วนร่วมในสำนักอัครมหาเสนาบดีที่อยู่นอกเหนือกรมทั้งหก จะถูกเรียกว่าฝ่ายลงทัณฑ์

ฝ่ายลงทัณฑ์นี้ค่อนข้างจะพิเศษ เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มผู้เยาวน์ และแต่ละคนจะมีการศึกษาที่สูงส่ง จุดประสงค์เดิมในการก่อตั้งนั้นเพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหาร หากมีผู้กระทำมิถูกต้องหรือมีขุนนางต้องการก่อกบฏ ก็จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์และรายงานต่อรองเสนาบดีกรมเมืองทันที รองเสนาบดีกรมเมืองมีสิทธิ์นำคำฟ้องร้องเหล่านี้ยื่นเสนอแก่ฮ่องเต้เพื่อตัดสินคดีความของขุนนางผู้นั้น

ดังนั้นสมาชิกฝ่ายลงทัณฑ์จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของกรมเมืองอยู่มากโข เพียงแต่พวกเขาจะมิออกความคิดเห็นในเรื่องของกรมเมือง พวกเขาจะจัดการเฉพาะบุคคลเท่านั้น

จึงมีข้อกำหนดให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้มีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ มิเอาแต่พรรคพวกเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว พวกเขาจึงค่อนข้างยากจน ฝ่ายลงทัณฑ์นี้จึงถูกผู้คนขนานนามว่าเป็นชิงเฟิงถัง

ในการประชุมราชวงศ์เช้านี้ ขุนนางตำแหน่งโย้วซ่านจี้ฉางไต้ท่านหวงจ้งของฝ่ายลงทัณฑ์ได้เป็นผู้ริเริ่มฟ้องร้องฟู่เสี่ยวกวน สมาชิกในฝ่ายลงทัณฑ์มีทั้งสิ้น 79 คน มีผู้ลงนามในการฟ้องร้องนี้ทั้งสิ้น 40 คน ดังนั้นจึงสามารถนำเรื่องนี้ยื่นเสนอให้แก่รองเสนาบดีกรมเมืองฉินฮุ่ยจือ และฉินฮุ่ยจือจึงได้นำรายงานนี้ยื่นให้แก่ฮ่องเต้ต่อไป

เนื้อหาในการฟ้องร้องก็คือ ฟู่เสี่ยวกวนมิเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้ากรมการค้า !

“กระหม่อมหวงจ้ง จิ้นซื่อในปีไท่เหอที่สามสิบหก ได้รับตำแหน่งขุนนางในปีไท่เหอที่สามสิบแปด และได้รับความเมตตากรุณาจากฝ่าบาท จึงได้เข้ามายังฝ่ายลงทัณฑ์

กระหม่อมได้รับเบี้ยหวัดจากฝ่าบาท ดังนั้นจึงควรจะช่วยแบ่งเบาภาระของฝ่าบาทด้วย บัดนี้ในราชวงศ์หยูมีเรื่องวุ่นวายเข้ามา โปรดทรงประทานอภัยให้กระหม่อมใช้อำนาจที่มีในมือมาเปิดโปงคนผู้นี้ด้วย ขอฝ่าบาททรงตรวจสอบเขาผู้นี้ด้วยความยุติธรรมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ !

เขาผู้นี้มีนามว่าฟู่เสี่ยวกวน ! ได้รับพระกรุณาของฝ่าบาทให้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้ากรมการค้าในวัยสิบเจ็ดปี ตำแหน่งขุนนางระดับสาม เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาททรงมีพระกรุณาต่อเขา !

แต่กระหม่อมได้จับตาดูเขาผู้นี้มาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว และตระหนักได้ว่าคุณธรรมของเขามิคู่ควรกับตำแหน่งนี้ กระหม่อมมีหลักฐานว่าเขาได้ทำการปิดบังหลอกลวงฝ่าบาท

นับตั้งแต่ที่เขาได้เข้ารับตำแหน่งก็มีความเกียจคร้านอยู่มากโข มิได้ทำงานตามเวลาที่กำหนด นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไปตามอำเภอใจ เห็นว่ากรมการค้าเป็นของตน มิเห็นกฎปฏิบัติของราชวงศ์ในสายตา มิเห็นความสำคัญของฝ่าบาท !

เขาผู้นี้ยึดถือแต่พรรคพวก คนในกรมการค้ามีทั้งสิ้น 34 คน ทุกคนล้วนมาจากการคัดเลือกของเขา ซึ่งมิได้มีการตรวจสอบจากราชวงศ์เสียก่อน กระหม่อมได้ทำการตรวจสอบดูแล้วน่ากังวลยิ่ง !

ใน 34 คนนี้ นอกเหนือจากหลี่ฉายที่เดิมทีอยู่ในกรมการคลังแล้ว อีก 33 คนล้วนมาจากสำนักศึกษาทั้งสิ้น !

และทั้งสามสิบคนนี้ มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ได้รับตำแหน่งจิ้นซื่อ ที่เหลืออีก 27 คนมิมีแม้แต่ตำแหน่งจิ้นซื่อ

ที่เกินไปกว่านั้นก็คือ มีอีก 3 คนที่มาจากครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทั่วไป !

หลังจากที่กระหม่อมได้ตรวจสอบต่อไป พบว่าทั้งสามคนนี้เป็นบุตรชายของพ่อค้าในจินหลิง ที่มีตำแหน่งเพียงซิ่วฉายเท่านั้น แต่กลับได้รับตำแหน่งระดับสูงในกรมการค้า !

กระหม่อมมิอาจข่มตาลงนอนได้อย่างสนิทใจมาเป็นเวลานาน

ฟู่เสี่ยวกวนมิเห็นกฎหมายของแคว้นอยู่ในสายตา กลับรวบรวมพรรคพวกเหล่านี้ของตนมาผลักดันนโยบายใหม่ที่เขาร่างขึ้น เพื่อเหตุอันใดกัน ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)