ตอน ตอนที่ 573 เสือที่ออกมากลางแจ้ง จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 573 เสือที่ออกมากลางแจ้ง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 573 เสือที่ออกมากลางแจ้ง
ชายหนุ่มที่โศกเศร้าอย่างมิทราบสาเหตุเมื่อครู่ ขณะนี้กำลังชื่นชมผลงานชิ้นเอกของตนเองด้วยใบหน้าสงบนิ่ง
เขานำไม้ไผ่ 3 อันสอดเข้าไปในปลายนิ้วของเฉินซีหยุนซึ่งมันเจ็บเสียจนใบหน้าของนางบิดเบี้ยว แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่งราวกับกำลังทำงานศิลปะอยู่
เผิงยวี๋เยี่ยนสูดหายใจเข้าลึก ๆ สวี่ซินเหยียนอ้าปากค้างด้วยอารามตื่นตกใจ รู้สึกว่าชายผู้นี้กลายเป็นคนละคนในทันที
ฟู่เสี่ยวกวนหยิบไม้ไผ่อันที่สี่มาเทียบกับนิ้วเหี่ยวย่นของเฉินซีหยุน “เป็นคนชั่ว ก็ต้องมีจิตสำนึกของคนชั่ว ชนกับประตูทิศใต้ก็อย่าได้หันหัวกลับ…”
“อ๊าก… ! ” ไม้ไผ่ถูกสอดเข้าไปในนิ้วของเฉินซีหยุนอีกครา
“เจ้าลองดูสารรูปของตน เป็นสตรี ต้องเรียนรู้ความสง่างาม ! สิ่งที่เรียกว่าความสง่างาม แท้จริงแล้วยิ่งสูงวัยก็ยิ่งต้องสะท้อนออกมามากกว่าเดิม เจ้ามิมีความสง่างามเลยแม้แต่น้อย แต่ข้ามิโทษเจ้าหรอก เจ้ามิเคยอาบแสงแดด มิเคยเห็นมวลหมู่ดอกไม้ เป็นหนูตัวหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในมุมอับแสง อืม… หนูเฒ่า”
“อ๊าก… ! ”
เพียงฟู่เสี่ยวกวนตบลงไปบนไม้ไผ่มันก็สอดลึกเข้าไปอีก 3 ชุ่น
“เจ้า เจ้า… เจ้าต้องการอันใดกันแน่ ? ”
ใบหน้าของเฉินซีหยุนซีดเผือด เหงื่อแตกราวกับห่าฝน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางจดจ้องไปที่ฟู่เสี่ยวกวนราวกับเห็นปิศาจที่โผล่มาจากขุมนรกก็มิปาน
“มิได้ต้องการอันใด…” ฟู่เสี่ยวกวนเบ้ปาก “เจ้ายังถามแบบนี้ออกมาได้ แสดงว่ายังเจ็บมิถึงแก่นวิญญาณ”
เขาหยิบไม้ไผ่เล่มที่ห้าขึ้นมา แล้วหัวเราะน้อย ๆ “ข้าเคยไปเยือนอารามซุ่ยเยว่คราหนึ่ง แท้ที่จริงแล้วองค์ชายสี่ก็เคยไป ข้าคิดว่าเขากำลังหาอันใดบางอย่างอยู่”
“ของสิ่งนั้นซ่อนอยู่ที่ใด ? ”
เฉินซีหยุนปิดปาก บัดนี้ร่างของนางกำลังชักอยู่กับพื้น
“เจ้าดูเอาเถิด เจ้าอายุมากแล้ว ข้าจึงกังวลว่าเจ้าจะลืม กระตุ้นกันถึงเพียงนี้แล้ว แต่เจ้ากลับยังมิกล่าวอันใดออกมาอีก…”
เขาจับมือซ้ายของเฉินซีหยุนขึ้นมา ไม้ไผ่เล่มนี้ถูกสอดจากปลายนิ้วกลาง เฉินซีหยุนหวีดร้องเสียงดัง ร่างกายคุดคู้อยู่บนพื้นไม่ต่างจากกุ้ง
“แต่ก็น่าสนใจดี… เมื่อสังหารเซวี๋ยติ้งชานแล้ว เจวี๋ยเยจะไปยังภูเขาหมินด้วยตนเองสักครา เพราะมีคนสมควรตายอยู่ที่นั่นถึง 4 คน…”
เขาหยิบไม้ไผ่เล่มที่หกขึ้นแล้วยังกล่าวอีกว่า “นักบุญสาวผู้นั้นของพวกเจ้า หยูเวิ่นชู แล้วก็บุตรีของพวกเขา หยูอี้ซี สามคนหนึ่งครอบครัว ต้องตกตายไปทั้งหมด นอกจากนั้นก็ยังมีคนสมควรตายอีก 1 คน ก็คือน้องชายของนักบุญสาว ข้ามิทราบว่าเขาชื่ออันใดแต่นั่นก็มิเป็นไร เพราะเยี่ยงไรเสียข้าก็ต้องสังหารคนของลัทธิจันทราทั้งหมดอยู่แล้ว”
“อ๊าก… ! ”
ไม้ไผ่เล่มที่หกถูกสอดเข้าจากปลายนิ้ว ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะร่า “น่าเสียดายที่เจ้าจะมองมิเห็นอีกต่อไปแล้ว เพราะต่อจากนี้ ข้าจะแทงดวงตาน่าเกลียดของเจ้าเสีย ! ”
เฉินซีหยุนพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ ริมฝีปากแห้งผากสั่นสะท้าน “ไม่ อย่า อย่านะ…ข้า ข้าจะบอก…”
“ถูกต้องแล้ว ข้ามิเข้าใจอย่างแท้จริง ว่าเหตุใดต้องยอมจ่ายราคาสูงถึงเพียงนี้ กว่าจะยอมแลกเปลี่ยนด้วยกัน” ฟู่เสี่ยวกวนปัดมือของตนเอง จ้องเฉินซีหยุนอย่างกดดันด้วยท่าทีเรียบเฉย “บอกมา”
“อาราม ซุ่ยเยว่ ต้นไม้…”
แต่แล้วก็มีใบไผ่บินมาจากในป่า
เผิงยวี๋เยี่ยนปล่อยพลังออกไปทันพลัน หนึ่งดาบเฉือนใส่ใบไผ่นั้น
สวี่ซินเหยียนพุ่งราวกับแม่เสือเข้าใส่ฟู่เสี่ยวกวนจนล้มลงกับพื้น
……
……
ท่ามกลางสายฝนและสายลมที่หนาวเย็น ความรุ่งโรจน์ราวกับฝัน
ต่อให้ทัพ 400,000 นายของเฟ่ยอันไร้แม่ทัพ ก็ยังสามารถสร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงให้แก่เซวี๋ยติ้งชานได้
ตัวการที่ก่อให้เกิดหายนะนี้คือผู้ใด ?
ดวงตาของเขาค่อย ๆ หรี่ลงอย่างช้า ๆ เม้มริมฝีปากจนแน่นจนไร้สีเลือด ราวกับมีดอันแหลมคมก็มิปาน… ฟู่เสี่ยวกวน !
ชีวิตของข้าในตอนนี้ ล้วนเป็นฟู่เสี่ยวกวนที่มอบให้ทั้งสิ้น !
ดังนั้น ต่อให้ร่างจะแหลกสลาย ก็ต้องดึงชีวิตสุนัขของเจ้าลงไปฝังให้จงได้ !
“ปึก… ! ”
ทันใดนั้น ความเจ็บที่หน้าผากก็พลันแล่นขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นทันพลัน จากนั้นจึงเห็นใบหน้าดุร้ายของฝ่ายตรงข้าม…
“ตาของเจ้ามัวแต่มองสุนัขตัวใดอยู่เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เป็นชายฉกรรจ์ใบหน้าอวบอิ่มคนหนึ่ง ในมือของเขากุมไม้เท้าเอาไว้ ด้านหลังมีเกี้ยวขนาดแปดคนหามตามมาติด ๆ
มือขวาของเขากุมไม้เท้า และเคาะมันลงกับมือซ้าย “ยังนิ่งค้างอันใดอยู่อีกกัน รีบไสหัวไปให้พ้น หากมิใช่ว่าวันนี้คุณชายต้องไปไหว้พระที่วัดเฉิงหวง ข้าจะเอาไม้เท้าตีเจ้าให้ตาย ! ”
หยูเวิ่นชูลูบหน้าผากของตนเอง สัมผัสของเหนียวหนืดที่ปลายนิ้ว จากนั้นก็ก้มลงมองที่นิ้วของตนเอง จึงได้เห็นเป็นรอยเลือดสีแดงสด
เขาก้มหน้าหลบอีกครา สองมือสอดไว้ในแขนเสื้อ และเดินเลียบไปอยู่ข้างทาง
“เป็นคราซวยเสียจริง ต้องมาเจอกับขอทานนี่แต่เช้าตรู่ หากเป็นลางร้ายของคุณชาย ต่อให้เจ้าถูกสังหารไปพันดาบก็ยังมิน่าเสียดายหรอกนะ ! ”
เขายังคงก้มหน้านิ่ง ยืนรอให้เกี้ยวผ่านไปอย่างเงียบ ๆ
มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกำเข้าหากันจนแน่น เล็บจิกเข้าที่กลางฝ่ามือจนโลหิตเปื้อนไปทั่วทั้งมือ !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)