ตอนที่ 576 เริ่มจู่โจม
ท้องนภาสว่างสดใส ดวงดาราทอแสงสุกสกาว
เสียงเพลงนอกประตูเมืองเจี้ยนเหมินดังขึ้นมาอีกครา
ภายในกระโจมหลังใหม่ที่ตั้งอยู่ข้างกระโจมของแม่ทัพเฟ่ยอัน ฟู่เสี่ยวกวน ซูเจวี๋ย ซูม่อ และสวี่ซินเหยียน นั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กตัวหนึ่ง ด้านหลังของพวกเขามีเตียงหนึ่งหลัง บนเตียงมีศพของเฉินซีหยุนนอนอยู่
บัดนี้ ข้างกายฟู่เสี่ยวกวนมีชายชุดดำคนหนึ่ง ในมือของเขาถือรายงานอยู่ 3 ฉบับ
ชายชุดดำผู้นี้ คือหน่วยสอดแนมจากสายลับนั่นเอง และจดหมายสามฉบับนี้ก็มาจากสถานที่สามแห่ง
ฉบับที่หนึ่ง ส่งมาจากเมืองจินหลิง
“เดือนสอง วันที่ยี่สิบหก ฮ่องเต้ได้ให้ศาลจินหลิงจับกุมตัวบรรดาญาติของตระกูลเซวี๋ยและตระกูลสีทั้งหมด นอกจากเสนาบดีสีฉวินเหมยแล้ว ญาติคนอื่น ๆ จากทั้งสองตระกูลได้พากันหนีตายไปแล้วทั้งหมด
จากการตรวจสอบพบว่า สีฉางเกอ ผู้บัญชาการทหารม้าเบาชายแดนตะวันตก ได้ลักลอบเข้ามาในเมืองจินหลิง เมื่อวันที่หนึ่ง เดือนหนึ่ง ทั้งสองตระกูลถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่มจากนั้นจึงลักลอบเดินทางออกจากเมืองหลวง มุ่งหน้าไปทางแคว้นฝาน นับจากวันเวลาแล้ว เกรงว่าบัดนี้พวกเขาคงจะเดินทางถึงแคว้นฝานพอดี
เซวี๋ยปิงชิง พระสนมซึ่งเป็นพระมารดาของหยูเวิ่นชูถูกขังเอาไว้ในตำหนักเย็น ส่วนสีฉวินเหมยถูกยึดตำแหน่งขุนนางและถูกส่งตัวมอบให้กับศาลต้าหลี่ตัดสิน”
“ค่ำคืนของเดือนสอง วันที่ยี่สิบแปด ศาลต้าหลี่เข้าตรวจสอบตระกูลฉิน ฉินฮุ่ยจือถูกพาตัวไปยังศาลต้าหลี่ บิดาของเขา ฉินหยูเหิง ตัดสินใจกัดลิ้นตายในคืนนั้น ฉินฮุ่ยจือให้การปฏิเสธเรื่องการติดต่อกับหยูเวิ่นชู เจ้าหน้าที่จากศาลต้าหลี่มิได้ค้นพบหลักฐานในจวนฉิน ดังนั้นฝ่าบาทจึงเพียงยึดตำแหน่งรองเสนาบดีแห่งสำนักเสนาบดี และส่งตัวให้ศาลต้าหลี่ดำเนินการต่อไป”
“อีกเรื่องหนึ่ง ฟู่เจวี๋ยเยขอรับ บัดนี้ฮูหยินต่งและฮูหยินเยี่ยนได้ตั้งครรภ์แล้ว สายลับได้กล่าวว่า ขอให้ฟู่เจวี๋ยเยโปรดวางใจ ทางสายลับได้ส่งผู้มีฝีมือไปคอยปกป้องฮูหยินทั้งสามแล้ว”
ชูหลานและเสี่ยวโหลวตั้งครรภ์แล้วเยี่ยงนั้นหรือ ?
ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะเสียงดัง นี่มิใช่เรื่องง่ายเลยนี่ !
มิได้การแล้ว ข้าต้องรีบกลับไป รอจัดการกับเซวี๋ยติ้งชานได้เสียก่อนเถอะ ส่วนเรื่องของลัทธิจันทราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของซูม่อก็พอ
เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาจึงหยิบจดหมายฉบับที่สองขึ้นมาอ่าน
จดหมายฉบับนี้มาจากฟู่ต้ากวน จักรพรรดิแห่งราชวงศ์อู๋องค์ปัจจุบัน
“ลูกชายข้า…ได้ยินว่าเจ้าเดินทางไปออกศึกเยี่ยงนั้นหรือ พ่อรู้สึกกระวนกระวายใจมากยิ่งนัก
มนุษย์เรามิใช่เทพเจ้า จะให้เพียบพร้อมเสียทุกด้าน คาดว่าคงมิได้ การทำสงครามมิใช่สิ่งที่เจ้าถนัด พ่อคิดว่าการที่เจ้าอยู่ในเมืองจินหลิงและประพันธ์บทกวีดูจะเหมาะสมมากยิ่งกว่า อย่าลืมว่าเจ้ายังมีฮูหยินอยู่ถึง 4 คน และมีบุตรชายอีก 1 คนที่แคว้นอู๋ !
เจ้าเองก็เป็นพ่อคนแล้ว เหตุใดยังชื่นชอบการเสี่ยงอันตรายอยู่เรื่อยกัน ? เจ้าเคยกล่าวกับพ่อว่าจะเลี้ยงดูพ่อยามอายุ 70 ปีมิใช่หรือ พ่อมิอยากให้คนผมขาวส่งศพคนผมดำหรอกนะ ดังนั้น… เมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว จงรีบไสหัวกลับเมืองจินหลิงไปเสีย !
จริงสิ ! พ่อและจัวเปี๋ยหลีอีกทั้งโจวถงถงได้ร่วมดื่มสุรากันที่กวนหยุนถาย และพิสูจน์ได้แล้วว่าอู๋หลิงเอ๋อร์คือบุตรสาวของจัวเปี๋ยหลี แต่เรื่องนี้มิอาจแพร่งพรายออกไปได้ เนื่องจากน้องชายของพ่อมิได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของราชวงศ์ เมื่อพ่อลองทบทวนดูแล้ว อู๋หลิงเอ๋อร์ต้องตายแล้วแลกด้วยชีวิตใหม่ เช่นเดียวกับสวี่ซินเหยียน”
ฟู่เสี่ยวกวนตกตะลึงขึ้นมาทันใด เรื่องนี้เขาเองก็รู้เยี่ยงนั้นหรือ ?
แต่พอคิดดูก็เข้าใจ เนื่องจากเจี่ยหนานซิงคงนำเรื่องนี้ไปบอกกับโจวถงถง ดังนั้นบิดาอ้วนของเขาก็อยากใช้ไม้นี้ด้วยเยี่ยงนั้นหรือ ?
การที่อู๋หลิงเอ๋อร์มิใช่น้องสาวร่วมสายเลือดของตน ทำให้ความวุ่นวายในใจลดลงไปได้มิน้อย เมื่อนึกถึงใบหน้าของสตรีที่กล้ารักกล้าเกลียดผู้นั้น สีหน้าของเขาก็พลันปรากฏรอยยิ้มขึ้น จากนั้นก็ก้มหน้าลงอ่านจดหมายต่อ
“รอให้หลานอายุได้ 1 ขวบ อู๋หลิงเอ๋อร์จะต้องตาย เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะส่งตัวนางไปยังเมืองจินหลิง สวี่ซินเหยียนเชี่ยวชาญด้านการแปลงโฉม จงให้นางช่วยอู๋หลิงเอ๋อร์แปลงโฉมเสีย แต่หลานข้า นางมิอาจจะนำไปด้วยได้ จะต้องอยู่ในราชวงศ์อู๋ เห้อ… กว่าจะเลี้ยงพ่อของเขาให้เติบใหญ่ขึ้นมาได้ แต่บัดนี้กลับต้องมาเลี้ยงหลานให้เติบใหญ่อีก เจ้านี่มันจอมหาเรื่องอย่างแท้จริง !
ช่างต่อเรือ 100 คนที่เจ้าต้องการ ได้ออกเดินทางไปยังเขตเหยาเมื่อวันที่หนึ่ง เดือนสอง… เจ้าจะเอาช่างต่อเรือมากมายถึงเพียงนี้ไปทำอันใดกัน ? ทำการขนส่งทางน้ำเยี่ยงนั้นหรือ ? ที่ดินของเราโดยมากอยู่ที่หลินเจียง นำธัญพืชขายให้กับพ่อค้ามิง่ายกว่าหรอกหรือ ?
ว่าแต่การสร้างเรือที่เขตเหยาก็เป็นเรื่องดี พ่อกำลังจัดการที่ดินในราชวงศ์อู๋อยู่ อาจจะต้องวางแผนการอีกสักเล็กน้อย นับจากนี้ธุรกิจที่ดินของพวกเราจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มิใช่แค่ในหลินเจียงเท่านั้น หากมีขนส่งทางเรือก็จะสามารถประหยัดเงินได้มิน้อย ลูกข้าช่างคิดการณ์ไกลยิ่ง
เอาเถิด พ่อมิกล่าวอันใดให้มากความแล้ว ใกล้ถึงเวลาประชุมอีกแล้ว !
ปัญหานี้ช่างน่าปวดหัวเสียจริง ! เจ้ารีบกลับไปจินหลิงตามคำสั่งของข้าประเดี๋ยวนี้ ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)