นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 623

ตอนที่ 623 ฟู่เสี่ยวกวนกลับมาแต่งบทกวีอีกครา

ความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ฟู่เสี่ยวกวนเป็นคนเจรจาให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครา

แน่นอนว่าความคิดที่เฮ้อซานเตาอยากจะเอาขวดสุราตีศีรษะของหวางซุนอู๋หยาก็ต้องพับเก็บไป

ซือหม่าเช่อนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฟู่เสี่ยวกวน นางเงยหน้าแอบมองเขาเป็นระยะ ยิ่งมองเท่าใดจังหวะหัวใจของนางก็เต้นเร็วขึ้นมากเท่านั้น เพิ่งจะตระหนักได้ว่าที่นางมาจินหลิงเพื่อสอบเอินเคอ…นั่นมิใช่เจตนาที่แท้จริง

แล้วเจตนาที่แท้จริงคืออันใดเล่า ?

หรือว่าจะเป็นหนังสือเล่มนั้น ‘ความฝันในหอแดง’ !

หรือจะเป็นบทกวีเหล่านั้นกัน !

หรือเพราะเขาเป็นผู้มีความสามารถ !

หรือเป็นเพราะเรื่องเล่าเกี่ยวกับเขา !

หลังจากที่ฟู่เสี่ยวกวนได้ยินเฮ้อซานเตาเอ่ยว่าหวางซุนอู๋หยากล่าวว่าร้ายตนออกไป นางจึงเผลอคิดไปว่าด้วยฐานะและตำแหน่งของเขา เขาต้องไล่คุณชายรองหวางซุนผู้นี้ออกไปอย่างแน่นอน แต่คาดมิถึงว่าเขาจะยิ้มออกมา

รอยยิ้มนี้เปรียบเสมือนความอดทน ความใจกว้าง ความใจเย็น และมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ !

คนเช่นนี้เมื่อมองไปในราชวงศ์หยูจะมีสักกี่คนเชียว ยังมีผู้ใดที่ทำได้เหมือนเขาอยู่อีกหรือ ?

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสียงหัวใจของนางก็พลันเต้นถี่รัวขึ้นมา ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าใบหน้าของนางกำลังแดงปลั่งขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็คิดว่า…หรือว่าข้ากำลังมีความรักกัน ?

สายตาของฟู่เสี่ยวกวนก็กำลังจ้องมองไปที่ซือหม่าเช่อ ประการแรกคือใบหน้าบอบบางแสนงดงามของนางทำให้เขาต้องหันไปมอง ประการที่สอง…คือผ้าคาดผมบนศีรษะของนาง

ผ้าคาดผมผืนนั้นเหมือนจะเป็นผืนเดียวกันกับผ้าที่อยู่ในแขนเสื้อของเขา !

แน่นอนว่าเป็นเพียงแค่ความคิดที่ปรากฏเข้ามาชั่ววูบเท่านั้น ในฐานะเจ้าภาพของค่ำคืนนี้ เขาเหลือบมองทุกคนด้วยรอยยิ้มแล้วชูจอกสุราขึ้นมา เมื่อทุกคนเห็นดังนั้นจึงชูจอกสุราขึ้นมาเช่นกัน

“การพบกันในครานี้ข้าเกรงว่าพวกเรายังมิรู้จักกันดีพอ กล่าวคือพวกท่านมิต้องจดจำชื่อติ้งอันป๋อนั่นหรอก แต่ให้พวกท่านถือว่าข้าเป็นเพียงเศรษฐีที่ดินแห่งหลินเจียงก็พอ”

ทันทีที่คำเอ่ยนี้ถูกเอ่ยออกมา ทุกคนจึงหัวเราะและหันไปมองที่หวางซุนอู๋หยา ซึ่งบัดนี้มีใบหน้าซีดเซียวและบวมแดงขึ้นมา

ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะอีกครา “ข้ามิได้ล้อเลียนคุณชายหวางซุนอู๋หยาจริง ๆ เพราะมันคือความจริงจากข้า วันนี้ที่เชิญทุกท่านมาก็มิได้จะสนทนาเรื่องสำคัญอันใดหรอก เพียงแค่อยากทำความรู้จักกับตระกูลการค้าใหญ่ทั้งห้าเอาไว้ก็เท่านั้น”

ที่เขากล่าวเช่นนี้ก็เพื่อจะทำให้สถานะของตนจับต้องได้ ทุกคนจึงคิดว่าบุคคลผู้นี้เป็นถึงติ้งอันป๋อแต่กลับกล่าวว่าต้องการพบปะกับตระกูลพ่อค้าจึงนับว่าให้เกียรติพวกเขามากยิ่งนัก พวกเขามองฟู่เสี่ยวกวนอีกครา ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าท่านเจวี๋ยเยผู้นี้มิได้ทำตัวสูงส่งอย่างที่คิดเอาไว้เลย

“นอกจากท่านลุงซือหม่า พวกเราที่เหลือก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งนั้น ในเมื่อทุกตระกูลส่งตัวแทนเยี่ยงพวกท่านมายังเมืองหลวง ข้าจึงคิดว่าตำแหน่งของพวกท่านในตระกูลคงสำคัญมิน้อย ดังนั้น… สุราจอกนี้ก็ถือว่าแทนการพบปะกันคราแรกเถิด ! ”

“ขอบพระคุณติ้งอันป๋อ ! ”

“หมดจอก ! ”

หลังจากดื่มสุราเข้าไปหนึ่งจอกบรรยากาศในห้องจึงครื้นเครงขึ้นมา ซือหม่าอันในฐานะผู้อาวุโสสุดกำลังซาบซึ้งกับการที่ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยคำว่าท่านลุงออกมา ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นแล้วไปนั่งอยู่ข้าง ๆ ฟู่เสี่ยวกวนเพื่อรินสุราให้เขาหนึ่งจอก

“สุรานี้เป็นผลผลิตของติ้งอันป๋อ มันมีรสชาติดียิ่ง ในวันนี้ข้าขอยืมสุราของติ้งอันป๋อดื่มขอบคุณท่านสองประการ ประการแรกคือการบรรยายเมื่อช่วงเช้านี้ มันทำให้ข้าน้อยเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ประการที่สองคือ…ได้รู้จักกับวีรบุรุษรเยาวชนเยี่ยงติ้งอันป๋อถือเป็นความโชคดีของซือหม่าอันผู้นี้ยิ่ง เจวี๋ยเย ดื่มสามจอก ! ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า สุราที่ท่านลุงซือหม่ารินให้นั้น ข้าต้องดื่มอย่างแน่นอน มา สามจอก ! ”

หลังจากที่คนสองคนดื่มสุราเข้าไปสามจอก บรรยากาศก็พลันอบอุ่นขึ้นมาทันตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)