นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 67

ตอนที่ 67 รับอนุสนองราชโองการ

“ราชโองการฟ้าจากองค์ฮ่องเต้ มีรับสั่งว่า ฟู่ต้ากวนแห่งหลินเจียง มีทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์กว่าหมื่นไร่ แต่มีบุตรเพียง 1 คน นั่นย่อมมิเป็นสุข ข้าตระหนักได้ว่า ฟู่ต้ากวนต้องเพิ่มจำนวนบุตรเพื่อใต้หล้า บุตรเพียงคนเดียวนั้นยากที่จะแบ่งปันความกลัดกลุ้ม ดังนั้น ฟู่ต้ากวนจึงต้องรับอนุ 5 นาง ขยายกิ่งก้านสาขาเพื่อให้คลอดบุตรให้ทันเวลา จนถึงเซวียนลี่ที่ 9 เดือนแปดวันที่สิบห้า อย่างน้อยต้องให้กำเนิดบุตร 5 คน หลิวจือต้งจือโจวแห่งหลินเจียงจะเป็นผู้ตรวจสอบ”

“รัชสมัยเซวียนลี่ที่ 8 เดือนแปดวันที่สิบหก”

“ข้าน้อยน้อมรับ ! ”

ฟู่ต้ากวนคุกเข่าลงกับพื้น ภายในใจตื่นตระหนกจนยากเกินจะบรรยาย

นี่… นี่มันหมายความว่าเยี่ยงไร?

ฝ่าบาทคุมฟ้าคุมดินแล้วยังต้องคุมการคลอดบุตรด้วยรึ ?

แต่ข้ามีบุตรคนเดียวก็เพียงพอแล้ว และฉีซื่อก็กำลังจะคลอด หากรับอนุเพิ่มอีก 5 นาง ทั้งยังต้องคลอดบุตร 5 คนภายในหนึ่งปี… นี่มันเหมือนกับฆ่ากันทางอ้อมชัด ๆ!

ทันใดนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็ยกยิ้มขึ้นมา นี่ต้องเป็นความต้องการของแม่นางหยูเวิ่นหวินผู้นั้นเป็นแน่ เจ้ามิได้กล่าวถึงเรื่องกตัญญูหรอกหรือ ? งั้นรอจนกระทั่งบิดาของเจ้ามีน้องชายและน้องสาวให้แก่เจ้า เจ้าก็คงมิมีข้ออ้างอีกแล้ว

กลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะ ยอดเยี่ยมนัก !

“ฟู่ต้ากวน รับราชโองการ” สีหน้าเคร่งเครียดของจางกงกงเริ่มจางลงไป และกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

จางกงกงก็มิเข้าใจว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงได้พระราชทานราชโองการนี้เพื่อให้ฟู่ต้ากวนรับอนุและมีบุตร คิดว่าฟู่ต้ากวนผู้นี้ย่อมกำลังทำสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่ ฝ่าบาทจึงเร่งรัดเขาเยี่ยงนี้

ฟู่ต้ากวนรับราชโองการมา ในใจยังคงสับสนงุนงง และเอ่ยถามเสียงเบา “กงกง นี่… ท่านเองก็เห็นว่าข้าน้อยอายุมากแล้ว ฝ่าบาท…”

“หัวหน้าตระกูลฟู่อย่าได้กล่าวตัดรอนเยี่ยงนั้น ตามสายตาของพวกข้า อาวุธที่หวงแหนของหัวหน้าตระกูลฟู่ยังมิแก่ เรื่องเล็กน้อยนี้ อย่าได้กล่าวให้ฝ่าบาทต้องกังวลพระทัยเพราะเจ้าอีกเลย”

“อ่า… คือ”

“ในช่วงเวลานี้เบื้องบนค่อนข้างเร่งรีบ พวกข้าคงมิขอทำให้หัวหน้าตระกูลฟู่ต้องเสียเวลาแล้ว ข้าขอลา”

ฟู่ต้ากวนนำเงินถุงใหญ่ที่เตรียมไว้ดีแล้วยัดเข้าไป “กงกงดื่มชาแล้วค่อยไปดีหรือไม่ ?”

“มิจำเป็น มิจำเป็น”

“เดินทางมาอย่างเมื่อยล้า กงกงโปรดรับไว้เถิด”

“นั่น… ด้วยความเคารพมิเท่าทำตามคำสั่ง”

จางกงกงก็ได้พาคนกลุ่มใหญ่เดินทางอีกครา เกี้ยวขนาดใหญ่ทั้งแปดคันก็ได้เดินออกไป จวนฟู่กลับมาเงียบสงบในที่สุด ทันใดนั้นฉีซื่อก็ร้องคร่ำครวญขึ้นมาทันพลัน

ฟู่เสี่ยวกวนเหลือบมองฉีซื่อ และกล่าวกับฟู่ต้ากวนอย่างมีความสุข “ท่านพ่อ ท่านดูสิ ข้ากล่าวกับท่านแล้วว่าให้ตบแต่งอนุเข้าเรือนมามาก ๆ มีเวลาเพียงหนึ่งปี ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้ท่านต้องรีบไปจัดการในทันที มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลาคงถูกต้องลงโทษฐานหลอกลวงองค์ฮ่องเต้ และพวกเราคงถูกตัดศีรษะกันเป็นแน่”

ฉีซื่อที่ได้ยินเช่นนั้น เสียงร้องไห้ก็หยุดลงในทันที ถึงได้เข้าใจขึ้นมาว่านี่คือพระราชโองการ มิสามารถปฏิเสธได้ ถึงแม้จะหมดหนทาง แต่นางก็ยังมิอยากตาย

“นายท่าน เสี่ยวกวนกล่าวได้ถูก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน”

ดังนั้นยามพลบค่ำในวันนี้ เรื่องที่ฟู่ต้ากวนรับอนุสนองราชโองการ ก็ได้ขยายไปทั่วหลินเจียง

“เจ้าว่าแท้จริงแล้วฟู่ต้ากวนทำเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจอันใด ถึงทำให้องค์ฮ่องเต้เคลื่อนไหวได้?”

“ข้าเองก็รู้สึกแปลก ๆ ฟู่ต้ากวนก็หาใช่วีรชน ที่ฝ่าบาทจะต้องมอบพระราชโองการให้เขารับอนุเพิ่มไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)