นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 721

สรุปบท ตอนที่ 721 งานเลี้ยงเอิกเกริก: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอน ตอนที่ 721 งานเลี้ยงเอิกเกริก จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 721 งานเลี้ยงเอิกเกริก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 721 งานเลี้ยงเอิกเกริก

ธนาคารซื่อทงสาขาเมืองว่อเฟิงเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเช่นเดียวกัน

ธนาคารซื่อทงสาขานี้เพิ่งก่อตั้งได้มินาน จึงทำให้จำนวนหุ้นที่ประกาศขายมีทั้งสิ้น 6 หุ้นเท่านั้น และสองในหกหุ้นก็ขายโดยหน่วยงานราชการ แต่ทว่ามิได้มีผลต่อความสนใจของผู้คนเลย

เพราะมิว่าจะเป็นชาวเมืองว่อเฟิงที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมหรือเป็นชาวหยูที่อพยพเข้ามาจากแต่ละพื้นที่ พวกเขาล้วนมิเคยรู้จักสิ่งนี้มาก่อน

และแน่นอนว่าในเวลานี้จังเหวินฮุยและพรรคพวกก็ได้มาเยือนธนาคารซื่อทงแล้วเช่นกัน

เหตุผลแรกเพื่อมาดูว่าราคาหุ้นของบริษัทเป็นเยี่ยงไรบ้างในตลาดหลักทรัพย์ และเหตุผลที่สองเพื่อมาดูให้เห็นกับตาว่าธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นเยี่ยงไรกันแน่

พรรคพวกของจังชีเยวี่ย หวังฉาวเฟิง และซือหม่าเทาก็ได้มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่แล้วเช่นกัน ทั้งหมดจ้องมองไปยังผนังของห้องธุรกรรม ซึ่งปรากฏพนักงานของธนาคารกำลังแก้ไขราคาล่าสุดของหุ้นอยู่

“ไอหยา…หุ้นของหอเสียงไท่ราคาพุ่งสุดยอดไปเลยนี่ ยังมิถึง 1 ชั่วยามเลยด้วยซ้ำก็ได้มีการตกลงซื้อขายไปแล้วกว่า 5,600 หุ้น และราคาก็ได้ทะยานไปสู่ 4 ตำลึงต่อ 1 หุ้นเข้าไปแล้ว ! ”

“หุ้นของร้านจิ่นซิ่วก็ใช่ย่อยเพราะตอนนั้นข้าซื้อทั้งสิ้น 1,200 หุ้น มาตอนนี้ราคาสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า ”

“แต่หุ้นที่ราคาสูงที่สุดก็เห็นจะเป็นหุ้นที่ปล่อยขายโดยบริษัทเต้าเฉียว น่าเสียดายยิ่งที่ตอนนั้นข้าซื้อน้อยไปหน่อย”

บรรดาคนหนุ่มสาวเช่นหวางซุนอู๋หยากำลังจ้องมองด้วยอารามตกตะลึง เขาหันขวับไปเอ่ยกับซือหม่าเทาว่า “มิรู้เลยว่าสถานการณ์ซื้อขายหุ้นที่ธนาคารซื่อทงสาขาใหญ่จะเป็นเช่นไรบ้าง เพราะตอนนั้นพวกเราซื้อหุ้นไว้หลายหุ้นเลยทีเดียว”

“ขนาดที่นี่ยังราคาพุ่งขึ้นสูงอย่างบ้าคลั่ง คงมิต้องเอ่ยถึงเมืองจินหลิงหรอก แน่นอนว่าราคาต้องพุ่งขึ้นสูงกว่าที่นี่เป็นแน่ ! ”

เสียงแห่งความบ้าคลั่งของฝูงชนดังกระหึ่มมากขึ้น หลังจากมีการแก้ไขข้อมูลราคาหุ้นในแต่ละครา

แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาเพียงแค่รู้สึกว่าของสิ่งนี้แปลกใหม่ก็เท่านั้น จึงพากันซื้อคนละสิบหรือร้อยหุ้นเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงเอาเสียเลยว่ามันจะให้ผลตอบแทนมหาศาลถึงเพียงนี้

ดังนั้นจึงมีหลายคนทุบอกกระทืบเท้าตึงตังแล้วถอนหายใจด้วยความเศร้าหมอง “พี่หลี่ ข้ารู้สึกเสียดายมากยิ่งนักที่มิเชื่อฟังท่านตั้งแต่แรก หากข้าซื้อหุ้นบริษัทเต้าเฉียวสัก 10,000 หุ้น นี่ก็เพิ่งผ่านไปมิถึงสองสามเดือนถ้าขายออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ข้าจะได้กำไรมากถึง 40,000 ตำลึงเชียว ! ”

“ฮ่าฮ่า น้องเฉิน ผืนปฐพีนี้ไร้ยารักษาความเสียดาย ข้าได้ซื้อหุ้นของบริษัทเต้าเฉียว 20,000 หุ้น อีกทั้งยังซื้อหุ้นของเพียวเซียงหยวนอีก 5,000 หุ้น มิเลวเลยนี่ ! หากราคาถึงที่คาดหวังเมื่อใดข้าค่อยขาย พอขายได้แล้วก็ใคร่เชิญน้องเฉินมาร่วมรับประทานอาหารรสเลิศที่หอซื่อฟางสาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวด้วยกัน ! ”

เฉินชิงอีผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของธนาคารซื่อทงสาขานี้กำลังเฝ้ามองการเติบโตของหุ้นทุกตัวด้วยความระมัดระวัง เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ของพรรค์นี้เติบโตได้เร็ว และในขณะเดียวกันก็ยิ่งรู้สึกวิตกกังวลว่ากระดานหุ้นจะล้ม

เพราะถ้าหากนี่เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่ววูบ…เช่นนั้นผลที่ตามมาคงมิอาจจะจินตนาการถึงได้

จวบจนยามอู่ ราคาหุ้นทั้งหกตัวถึงได้เริ่มผ่อนลง แต่ทว่ามิมีแม้แต่หุ้นเดียวที่ราคาตกฮวบฮาบ

การซื้อขายหุ้นดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในช่วงหนึ่งชั่วยามแรก หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วยามถัดไปก็ได้มีการซื้อขายลดลงเกือบครึ่ง จนกระทั่งหมดยามอู่ก็แทบจะมิมีผู้ขายหุ้นหลงเหลืออยู่เลย

ต้องรักษาระดับ ต้องรักษาราคานี้เอาไว้ให้คงที่ ในยามเว่ยการซื้อขายหุ้นมิได้มีอันใดเปลี่ยนแปลงมากนัก จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าผู้คนได้ยอมรับราคาของหุ้นอีกทั้งยังยินยอมที่จะถือหุ้นในระยะยาวอีกด้วย

ในขณะนั้นเองก็ได้เกิดความอลเวงขึ้นในห้องโถงใหญ่ เฉินชิงอีรู้สึกประหม่าในทันใด เขาละสายตาจากงานแล้วจ้องมองออกไปด้านนอก จากนั้นก็หัวเราะร่าออกมา

ติ้งอันป๋อมาเยือน !

ผู้คนในห้องธุรกรรมเกิดความอลหม่านชุลมุนขึ้นมาในทันใด จากนั้นพวกเขาก็ได้แยกเป็นสองฝั่งโดยอัตโนมัติและเว้นทางเดินไว้หนึ่งสาย

ฟู่เสี่ยวกวนเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มภายใต้การคุ้มภัยของหนิงซือเหยียนและจางเพ่ยเอ๋อร์

เขาเดินเข้ามาพลางคารวะผู้คนทั้งสองฟากฝั่งไปด้วย “ทุกท่าน ! ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกท่านจะสามารถกอบโกยผลกำไรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ทว่าข้าขอบอกกล่าวกับทุกท่านสักหนึ่งประโยค…”

เขาเดินมาหยุดอยู่ที่จุดศูนย์กลางของห้องโถงใหญ่ “ตลาดหุ้นนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องพึงระวังเอาไว้เสมอ มิมีหุ้นใดที่จะสามารถเติบโตได้ตลอด วันนี้พุ่งทะยานขึ้นสู่สวรรค์ แต่พรุ่งนี้อาจจะดิ่งลงขุมนรกก็ย่อมเป็นไปได้ทั้งสิ้น ดังนั้น…ข้าใคร่ขอให้ทุกท่านจงขายเสียเมื่อราคาถึงจุดที่น่าพึงพอใจ และเก็บเงินนี้เข้ากระเป๋าเสียยังจะดีกว่า ! ”

เฉินชิงอีรู้สึกประหลาดใจในทันใด ติ้งอันป๋อเจตนามาสร้างความวุ่นวายให้บ้านของเขาเยี่ยงนั้นหรือนี่ ?

จึงเป็นเหตุให้หุ้นนี้มิสามารถประมาณการณ์ได้เลย หากถือหุ้นของบริษัทขนส่งทางเรือชิงโจวไว้ในมือ ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าจะคืนกำไรในอีกแปดถึงสิบปีให้หลัง

ช่างมิคุ้มค่าเอาเสียเลย !

แต่ทว่าวันนี้ติ้งอันป๋อกลับซื้อไปมากกว่า 1 ล้านหุ้น…เหมือนว่าเขาจะซื้อหุ้นของบริษัทเต้าเฉียวด้วยอีก 200,000 หุ้น หรือเขาเล็งเห็นว่าบริษัทขนส่งทางเรือชิงโจวจะมีผลตอบแทนดีกว่าเยี่ยงนั้นหรือ ?

ฝูงชนพากันครุ่นคิด หรือว่าพวกตนเข้าใจบางอย่างผิดไปกัน ?

สินค้าทั้งหมดในว่อเฟิงเต้าล้วนต้องนำไปรวมกันที่ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าที่อำเภอหลานหลิง ได้ยินมาว่าที่หลานหลิงกำลังก่อสร้างโกดังสินค้าขนาดใหญ่มหึมาขึ้นมา

สินค้าเหล่านี้จะกระจายไปยังที่ต่าง ๆ ของราชอาณาจักรหยู การขนส่งทางน้ำย่อมประหยัดเวลาได้มากกว่าครึ่ง

เมื่อถึงตอนที่แม่น้ำสำหรับขนส่งสายนี้เชื่อมกับแม่น้ำแยงซีสำเร็จเมื่อใด การค้าขายทางเรือจะมิเนืองแน่นเป็นทวีคูณหรอกหรือ ?

เรือแต่ละลำมีมูลค่ามหาศาล ดังนั้นค่าผ่านทางของถนนว่อเฟิงเต้าย่อมมิสามารถเทียบเคียงได้อย่างแน่นอน

ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่ !

ติ้งอันป๋อมีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่างแท้จริง !

ในเมื่อติ้งอันป๋อเล็งเห็นว่าบริษัทขนส่งทางเรือชิงโจวจะให้ผลตอบแทนมหาศาล เช่นนั้นก็ต้องซื้อตามเขา และมิอาจพลาดโอกาสทองนี้ได้ !

ดังนั้นการเทขายหุ้นมิได้เกิดขึ้นอย่างที่เฉินชิงอีวิตกกังวล เพราะฝูงชนกลุ่มนี้ได้กระโจนเข้ามาที่โต๊ะธุรกรรม จากนั้นก็ได้แย่งกันซื้อหุ้นของบริษัทขนส่งทางเรือชิงโจวเป็นกลุ่มแรก ๆ

ส่งผลให้เฉินชิงอีถึงกับรู้สึกงงงวย…

หลังจากนั้นเพียงสามวันหุ้นของบริษัทขนส่งทางเรือชิงโจวทั้ง 30 ล้านหุ้นในเมืองว่อเฟิงก็ถูกซื้อไปจนหมดเกลี้ยง !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)