ตอนที่ 729 แผนการ ( จบ )
รัชสมัยเซวียนลี่ปีที่สิบ วันที่ยี่สิบห้า เดือนสิบ ฟู่เสี่ยวกวนเดินทางออกจากเมืองว่อเฟิงเพื่อไปตรวจการในว่อเฟิงเต้าเป็นคราแรก
ผู้ที่ร่วมเดินทางกับเขามีจัวตงหลาย หนิงซือเหยียน และสวี่ซินเหยียนองครักษ์ข้างกาย ส่วนจางเพ่ยเอ๋อร์พำนักอยู่ในเมืองว่อเฟิง
“การที่แคว้นใดแคว้นหนึ่งจะแข็งแกร่งได้ย่อมเป็นเพราะเศรษฐกิจ การเมือง และการทหาร”
“พื้นฐานของเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดโครงสร้างส่วนบน เช่นนั้นแล้วเศรษฐกิจจึงเป็นรากฐานแห่งความแข็งแกร่งของแคว้น”
“แต่ทว่าเศรษฐกิจย่อมมีความเกี่ยวเนื่องกับการเมือง หากมีระบบบริหารที่ต่างกัน ต่อให้พัฒนาเศรษฐกิจไปในทิศทางเดียวกัน ผลที่ออกมาย่อมแตกต่างกันเป็นอย่างมาก… และการผลิตอย่างเสรีนั้นจะมีความสามารถในการทลายข้อจำกัดทางการบริหารด้วยตัวของมันเอง”
“เฉกเช่นการปลดเปลื้องพันธนาการทางเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้ระบบบริหารอันไร้เสถียรภาพ มิโปร่งใสและมิยืดหยุ่นจนมิมีพ่อค้าคนใดกล้าลงทุน สุดท้ายก็จะมิมีผู้ใดจับจ่ายใช้สอย”
ในรถม้าคันนั้นฟู่เสี่ยวกวนและหนิงซือเหยียนนั่งหันหน้าเข้าหากัน ฟู่เสี่ยวกวนกำลังอธิบายเรื่องเศรษฐกิจอย่างฉะฉานและมีหลักการ
“การที่เจ้าของธุรกิจชาวหยูกล้าลงทุนสร้างโรงงานขนาดใหญ่ในว่อเฟิงเต้านั้นย่อมเป็นเพราะพวกเราได้สร้างความเชื่อมั่นในการปฏิรูปให้ฝังลึกลงไปในใจของพวกเขาแล้ว ขอเพียงแค่นโยบายมิแปรเปลี่ยน ราชวงศ์หยูย่อมก้าวสู่ยุคสมัยอันรุ่งเรืองได้ในเร็ววัน”
จัวตงหลายฟังอย่างตั้งใจ เนื่องจากการปฏิรูปครานี้ถูกผลักดันโดยองค์ชายและการที่พ่อค้าชาวหยูกล้าเข้ามาลงทุนยังสถานที่แห่งนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาเชื่อมั่นในตัวของฟู่เสี่ยวกวน
ดังนั้นเขาจึงใคร่ครวญอย่างตั้งใจ “หากท่านกลับไปยังราชวงศ์อู๋ เกรงว่าพ่อค้าเหล่านี้…”
ฟู่เสี่ยวกวนโบกมือไปมาเพื่อแสดงความมิเห็นด้วย “เป็นไปมิได้หรอก ในยามนี้พวกเขาได้รับอิทธิพลจากข้าก็จริง แต่ทว่าอย่างน้อยในอีกหนึ่งปีให้หลัง เมื่อเหล่าพ่อค้าหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำที่ว่อเฟิงเต้าแล้ว เมื่อนั้นสถานที่แห่งนี้ก็จะคับคั่งไปด้วยผู้คน และอิทธิพลจากตัวข้าก็จะค่อย ๆ เลือนหายไป ในท้ายที่สุดพฤติกรรมทั้งหมดจะต้องถูกควบคุมโดยกฎหมาย… กฎหมายก็คือข้อบังคับ ถือเป็นบรรทัดฐานและเส้นกำหนดขอบเขตที่พึงปฏิบัติ”
“ขอเพียงแค่กฎหมายมิเปลี่ยนแปลง กฎระเบียบต่าง ๆ ย่อมมิเปลี่ยนไปเช่นกัน ดังนั้นมิว่าต่อไปที่ว่อเฟิงเต้าจะได้ผู้ใดเข้ามาบริหาร ขอเพียงคนผู้นั้นมิเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ทุกอย่างย่อมดำเนินไปได้ตามรูปแบบของมัน”
“มิว่าจะเป็นเขตใดเขตหนึ่งก็ดีหรือแคว้นใดแคว้นหนึ่งก็ดี สิ่งที่เป็นรากฐานอย่างแท้จริงคือกฎหมาย… ส่วนการบริหารบ้านเมืองโดยมนุษย์เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ชอบยึดตามแนวทางของตนย่อมมิทำให้เกิดเสถียรภาพ เช่นนั้นแล้วจึงต้องร่างกฎหมายการค้าขึ้นมาและข้าต้องการให้สีฉวินเหมยลงรายละเอียดปลีกย่อยอีกที
กฎหมายเหล่านี้จะถูกบังคับใช้ในราชวงศ์อู๋ด้วยเช่นกัน แม้ว่าบัดนี้ยังมิเห็นผลเป็นรูปธรรม แต่หลังจากที่เจ้าของธุรกิจของราชวงศ์อู๋คุ้นเคยกับมันแล้ว เมื่อถึงคราวปฏิรูปทางการค้าก็เท่ากับว่าประสบความสำเร็จไปก่อนแล้วครึ่งทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีว่อเฟิงเต้าเป็นแบบอย่าง”
จัวตงหลายจ้องมองฟู่เสี่ยวกวนด้วยอารามตกตะลึงงัน กฎหมายการค้าที่ฟู่เสี่ยวกวนได้บังคับใช้ ตนย่อมรู้จักมันดี และยังรู้อีกว่าทุกวันนี้ธนาคารซื่อทงได้ก่อตั้งสาขาที่เมืองกวนหยุนเรียบร้อยแล้ว
จะว่าไปแล้วนั้น องค์ชายได้วางแผนเพื่อราชวงศ์อู๋เอาไว้ช้านานแล้ว อีกทั้งยังเริ่มเดินหมากแล้วด้วย
ในชั่วอึดใจนั้นเอง จัวตงหลายก็รู้สึกว่าองค์ชายผู้นี้ดูแปลกตาขึ้นมา
ช่างแตกต่างกับชายหนุ่มที่เคยร่วมงานแข่งขันกวีที่ราชวงศ์อู๋อย่างสิ้นเชิง !
อีกฝ่ายมิได้เอ่ยถึงเรื่องงานประพันธ์อีกต่อไป แต่ทว่าเป็นเรื่องของหลักการบริหารแคว้นแทน !
หลักการบริหารเหล่านี้ได้ลบล้างความเข้าใจเดิมของจัวตงหลายไปจนสิ้น เขาเพิ่งได้เข้าใจความสำคัญของเศรษฐกิจและเพิ่งเข้าใจอย่างแจ่มชัดในตอนนี้นี่เองว่าฟู่เสี่ยวกวนได้ร่างข้อกฎหมายที่ละเอียดถี่ยิบไปเพื่อสิ่งใด
และยังดำเนินการปฏิรูปคราใหญ่ชนิดที่ว่ามิเคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์… เพื่อให้สังคมนี้เปลี่ยนรูปแบบจากการบริหารโดยมนุษย์มาเป็นบริหารโดยกฎหมายแทน !
แต่ทว่าเรื่องนี้จะสามารถปฏิบัติได้จริงหรือ ?
เพราะแท้จริงแล้วมิว่าจะเป็นแคว้นใดก็ตาม ผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดย่อมมีเพียงผู้เดียว !
และคนผู้นี้ก็อยู่เหนือกฎหมายทั้งหมดทั้งมวล !
องค์ชายได้กล่าวไว้ว่าการบริหารด้วยมนุษย์อาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง หากคนที่ครองอำนาจเหนือผู้ใดทั้งปวงมิยอมรับกฎหมายฉบับนั้นหรือฉวยโอกาสเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ… หากเป็นเช่นนั้นสิ่งที่ลงแรงไปทั้งหมดจะมิสูญเปล่าหรอกหรือ ?
คำว่าองค์ประมุขผู้ปราดเปรื่องย่อมไร้ผู้ใดคัดค้าน แต่หากสามารถปล่อยวางอำนาจที่กุมอยู่ในพระหัตถ์ได้จึงจะคู่ควรต่อการยกย่องว่าเป็นมหาราชอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)