ตอนที่ 864 ลดจำนวนทหาร
ท่ามกลางพายุหิมะ ราชวงศ์อู๋ได้จัดประชุมใหญ่ประจำราชสำนักขึ้นเป็นคราสุดท้ายของรัชศกเทียนเต๋อปีที่หนึ่ง
วันที่ยี่สิบแปด เดือนสิบสอง ยามเหม่า ณ ท้องพระโรงซวนเต๋อ
“ปีที่หนึ่งแห่งแผนพัฒนาระยะห้าปีแรกของราชวงศ์อู๋ได้จบสิ้นลงแล้ว”
ฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่บนแท่นสูง เขากวาดสายตามองเหล่าขุนนางที่อยู่ด้านล่างจากนั้นก็เอ่ยว่า “ในเชิงเศรษฐกิจ รายรับภาษีในปีนี้เทียบเท่ากับเงิน 66 ล้านตำลึง มองดูแล้วมากกว่าเดิมถึงสองเท่า แต่แท้ที่จริงเขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวนได้จ่ายภาษีมา 10 ล้านตำลึงแล้ว”
“ศักยภาพของเขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวนแข็งแกร่งเป็นอย่างมากในหนึ่งปีมานี้ โดยการชี้นำแนวทางจากผู้ว่าการเขตท่าป๋าคังจึงมิเกิดจลาจลขึ้นในเขตปกครองตนเอง ทั้งหกรัฐได้พัฒนาไปอย่างราบรื่น เศรษฐกิจระดับภูมิภาคของแต่ละรัฐค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่าง ส่วนในปีหน้าเขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวนจะเข้าสู่ช่องทางการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทุกคนจะได้เห็นภาพความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์ของอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายมากมาย”
“แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทางราชวงศ์อู๋ได้ใช้เวลาถึง 1 ปีเต็มกว่าจะก่อตั้งระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเบื้องต้นได้สำเร็จ จากระบบการค้านี้สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างแดนได้เป็นอย่างดี การจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมของพวกเขาก็ได้ดำเนินจนเสร็จสิ้นแล้ว”
“ดังนั้นในปีหน้า ธุรกิจเหล่านี้ต้องเข้าสู่กระบวนการผลิตอย่างเป็นทางการและขายออกสู่ตลาดอย่างแท้จริง จะเป็นปีทดสอบสำคัญของเศรษฐกิจ ในฐานะขุนนางของราชวงศ์อู๋ต้องจำให้ขึ้นใจว่าขุนนางทุกระดับและบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องมิประมาทและต้องคอยคุ้มกันองค์กรเหล่านั้นให้ดี ! ”
“ในแง่ของการทหาร ทางกองทัพบกมีทหารดาบเทวะ 3 กองทัพรวมเป็น 300,000 นาย ด้านกองทัพเรือมีจำนวน 100,000 นายและกองนาวิกโยธินอีก 50,000 นาย ในปีหน้าทหารดาบเทวะจะขยายกองทัพอีก 1 กอง และกองทัพเรือจะฝึกทหารเพิ่มอีก 100,000 นาย เจิ้นคิดว่ากองทัพเหล่านี้เพียงพอต่อการคุ้มกันราชวงศ์อู๋แล้ว ดังนั้น…เจิ้นตัดสินใจยกเลิกกองทหารรักษาการณ์ทั้งหมดของราชวงศ์อู๋ แล้วจะมีคำสั่งให้ปลดทหารจำนวนทั้งสิ้น…1,800,000 นาย ! ”
เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกไป ขุนนางทุกคนต่างก็พากันส่งเสียงฮือฮาออกมา…
ปลดทหารจำนวน 1,800,000 นาย !
เดิมทีเขตป้องกันทั้งหกมีกองทหารรักษาการณ์อยู่เขตละ 300,000 นาย ฝ่าบาททรงตัดพวกเขาทิ้งเยี่ยงนี้…ทหารดาบเทวะทรงพลังก็จริง ทว่ากองทัพเพียง 400,000 นายจะสามารถปกป้องผืนปฐพีที่กว้างใหญ่นี้ได้เยี่ยงนั้นหรือ ?
ยิ่งไปกว่านั้น ทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งทั้ง 100,000 นายก็ประจำการอยู่ในเขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวน ดังนั้นทหารดาบเทวะที่คุ้มกันราชวงศ์อู๋จะเหลือเพียง 200,000 นาย เพราะอีก 100,000 นายจะทำการฝึกฝนในปีหน้า หากมีศัตรูบุกเข้ามา อาณาเขตอันกว้างใหญ่แห่งนี้ก็จะมีทหารเพียงแค่ 200,000 นายที่สามารถส่งออกไปรบได้ ฟังแล้วมิเพียงพอเอาเสียเลย
ทว่าขุนนางเหล่านั้นก็ได้แต่กระซิบกระซาบ มิมีผู้ใดกล้าเสนอความเห็นขัดแย้งออกมา เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าขุนนางชั้นอาวุโสทั้งสามเมื่อได้ยินประโยคนี้แล้ว ก็มิได้แสดงอาการแตกตื่นแต่อย่างใด
อีกทั้งใต้เท้าจูเว่ยเสนาบดีกรมกลาโหมก็มิได้มีปฏิกิริยาใดเช่นกัน
แสดงว่านโยบายของฝ่าบาทได้มีการหารือกับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว
เป็นจริงดังคาด เพราะต่อมาฟู่เสี่ยวกวนก็ได้เอ่ยต่อว่า “สิ่งสำคัญของทหารมิใช่เรื่องจำนวนมากน้อย จากพื้นที่ทั้งสี่ทิศแล้วราชวงศ์อู๋ก็มิได้ใหญ่โตสักเท่าใดนัก และจากโครงร่างระยะห้าปีแรกนี้ พวกเราจะมิทำสงครามหากมิจำเป็น แต่ให้มุ่งเน้นไปที่การสร้างเศรษฐกิจ”
“การสร้างรากฐานเศรษฐกิจจำเป็นต้องใช้คนจำนวนมาก ดังนั้นทหารที่ปลดประจำการก็รอให้กวนเสี่ยวซีและเว่ยอู๋ปิ้งแม่ทัพทั้งสองนายกลับมายังราชวงศ์อู๋เสียก่อน จากนั้นก็ให้ผู้ที่ยินดีจะรับหน้าที่ทหารต่อไปเข้าร่วมกับทหารดาบเทวะกองทัพที่สามได้ หรืออาจจะเป็นทหารเรือกองทัพที่สองก็ย่อมได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)