ตอนที่ 929 ฝนตกกลางสายหมอก
รัชสมัยเทียนเต๋อปีที่สาม วันที่เจ็ด เดือนหนึ่ง
ณ เมืองจินหลิงแห่งราชวงศ์หยู
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงยามเฉิน แสงสว่างจากท้องนภาปรากฏให้เห็นเพียงน้อยนิดเท่านั้น
ช่วงเวลาหยุดยาวของราชวงศ์หยูน้อยกว่าราชวงศ์อู๋ พวกเขาจึงเริ่มเปิดการประชุมราชสำนักในวันที่ห้าของเดือนแรก
ในการประชุมใหญ่ราชสำนักในวันที่ห้าของเดือนแรก หยูเวิ่นเต้าเอ่ยว่าจำเป็นต้องออกประพาสพื้นที่ทั้งหมดในราชวงศ์หยูเพื่อดูสถานการณ์ในสถานที่ต่าง ๆ ด้วยตาของตนเองและเพื่อทำความเข้าใจต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในแต่ละพื้นที่… นี่ถือเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว เพราะราชวงศ์อู๋ที่อยู่ติดกันนี้ในปีที่แล้วฟู่เสี่ยวกวนก็ได้ออกประพาสไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและสั่งประหารพวกขุนนางทุจริตเช่นกัน นอกจากนี้เขายังประกาศนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ต่อแคว้นอีกด้วย
วันที่ห้าของเดือนแรก ธนาคารซื่อทงสาขาเมืองจินหลิงก็เปิดทำการแล้วเช่นกัน ในยามที่ตลาดหุ้นเปิด หุ้นของตระกูลเฉิน ตระกูลโจวและตระกูลหลู่ก็ราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก !
ฉางหยูดีอกดีใจเมื่อได้เห็นผู้คนพลุกพล่าน รู้สึกว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีของตน
ส่วนเรื่องราคาของหุ้นก็ปกติดี มิได้ทำให้ฉางหยูตื่นตัวเลยสักนิด ด้านเจ้าของหุ้นรายใหญ่ทั้งสามก็มิแตกต่าง เนื่องจากพวกเขาคิดว่า การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นหมายความว่าหุ้นที่พวกตนถืออยู่ในมือก็มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
หยูเวิ่นเต้ามิได้ให้ความสนใจกับสถานการณ์นี้เลยสักนิด เพราะตั้งแต่ที่กรมการค้าปิดตัวลง เรื่องหุ้นก็มิอยู่ในความสนใจของเขาไปโดยปริยาย
เขาจ้องมองท้องนภาสีเทาหม่นด้านนอก “ดูเหมือนว่าจะมีหิมะตกอีกรอบ หิมะเพิ่งตกรอบที่สองของฤดูหนาวนี้ หากตกอีกหลาย ๆ รอบก็จะมิเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการพรวนและไถดินเพื่อเตรียมเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ก็ต้องฝากฝังให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในทุกเขตคอยเฝ้าระวังภัยพิบัติเอาไว้”
จัวหลิวหวินพยักหน้ารับ
หยูเวิ่นเต้าจ้องมองไปยังฉางฮวนแล้วเอ่ยถามว่า “เตรียมการไปถึงไหนแล้ว ? ”
“ทูลฝ่าบาท กำลังเปลี่ยนแนวป้องกัน กองทัพ 300,000 นายจะถูกสับเปลี่ยนเป็นกองทัพชายแดนใต้อย่างเงียบ ๆ เกรงว่าเรื่องนี้ต้องรอให้ถึงเดือนสองเสียก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
หยูเวิ่นเต้าครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นก็ตรัสออกมาว่า “ยังพอมีเวลาอยู่ แม้โจวถงถงจะดูเหมือนมิมีสิ่งใดให้น่าสงสัย แต่พวกเรายังต้องระวังเอาไว้… หลังจากข้าออกประพาสคงต้องรบกวนพวกเจ้าสักหน่อยแล้ว ! ”
จัวหลิวหวินและฉางฮวนทำความเคารพ “นี่คือสิ่งที่พวกกระหม่อมสมควรทำพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“จะสำเร็จหรือล้มเหลวนั้น…สามารถวัดได้ในคราเดียว ! ”
จากนั้นหยูเวิ่นเต้าก็เดินออกจากห้องทรงพระอักษร พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องนภาที่ยังคงเป็นสีเทา
เขาขึ้นไปนั่งบนพระเกี้ยวขนาดเล็ก ออกจากประตูด้านหลังของวังหลวงที่มีกองทัพสวรรค์ฆาตจำนวน 1,000 นายรออยู่
เมื่อเดินลงจากพระเกี้ยวแล้ว จึงเปลี่ยนไปควบหลังอาชา จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ออกเดินทางได้ ! ”
กองทัพ 1,000 นายเดินทางออกจากจินหลิงโดยทิศทางที่ไปนั้นมิใช่ว่อเฟิงเต้า ทว่าเป็น…แคว้นฝาน !
ในกองทัพที่มีทหาร 1,000 นายนี้ ปรากฏรถม้า 4 คันและมีผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งสามเยี่ยงตระกูลเฉิน ตระกูลโจวและตระกูลหลู่นั่งอยู่ในนั้น !
ทั้งด้านหน้าและหลังของขบวนมีสายลับจากหอซี่หยู่เดินทางอยู่ด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อครึ่งชั่วยาม ก่อนขบวนนี้จะเดินทางออกจากเมืองจินหลิง ก็มีขบวนที่คล้ายกันออกจากประตูหลักแล้วมุ่งหน้าไปยังว่อเฟิงเต้า
ฝูงมดที่คอยสอดส่องในจินหลิงได้ติดตามขบวนนั้นไปทางทิศเหนือ
ดูเหมือนว่ามิมีผู้ใดล่วงรู้ถึงกลยุทธ์ลอบตีเฉินชาง1 นี้เลย
……
……
ณ จวนหนิงชินอ๋อง รัฐหยุนแห่งแคว้นฝาน
เมื่อปีก่อน เขาได้ไปยังราชวงศ์อู๋แล้วลงนามข้อตกลงทางการค้าทวิภาคีกับฟู่เสี่ยวกวน เมื่อกลับมายังแคว้นฝานในเดือนสามของปีที่แล้ว ฝานเทียนหนิงและเซวี๋ยหยู่เยียนคุณหนูห้าแห่งตระกูลเซวี๋ยได้แต่งงานกัน จากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนิงชินอ๋อง เสด็จพ่อทรงประทานรัฐหยุนเป็นที่ดินศักดินาให้แก่พวกเขาทั้งสองคน
ในเดือนสี่เขาพาภรรยามาถึงรัฐหยุนแห่งนี้ และได้อาศัยอยู่ในเมืองหยุนหลานเมืองหลวงของรัฐหยุน
ก่อนหน้านี้เขาได้เสนอข้อชี้แนะให้แก่เสด็จพ่อแล้ว จากนั้นจึงเริ่มสร้างสะพานที่รัฐหยุนเพื่อข้ามผ่านแม่น้ำหลานไปยังราชวงศ์อู๋ บัดนี้สะพานเชื่อมระหว่างสองแห่งก็เสร็จสิ้นแล้ว แน่นอนว่าเมืองการค้าเสรีเป่ยจวิ้นของรัฐเหอซีแห่งราชวงศ์อู๋ก็ขยายเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
การค้าระหว่างสองแคว้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมืองเป่ยจวิ้นมีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อย ๆ มากจนทำให้ฝานเทียนหนิงประหลาดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)