พอเห็นตันเถียนถูกฟื้นฟูกลับมา จื่อเฉินก็เปลี่ยนอารมณ์เป็นตื่นเต้นและดีใจอย่างมาก สนใจแต่ตันเถียนจนลืมร่างกายตนเองไป
พลังที่ออกมาจากหัวใจนี้ มันเป็นเหมือนกับเลือดในกายที่ไหลเวียนไปทั่วทุกจุดในร่างกาย ในเลือด กระดูก ไขกระดูก ผิวหนัง ทุกส่วนในร่างกายล้วนมีพลังนี้ไปถึง กำลังเกิดการลอกคราบ
ถ้าจะบอกว่า พลังของโสมหิมะก่อนหน้านี้ถูกหัวใจดูดซึมไปหมดแล้ว อย่างนั้นตอนนี้ หัวใจก็กำลังคืนพลังกลับออกมาจากการที่รับเข้าไปแล้ว คืนพลังกลับออกมาเยอะกว่าที่ซับเข้าไปมากกว่าสิบเท่า
โสมหิมะอายุ500ปีหนึ่งต้น แต่หัวใจคืนพลังที่เทียบเท่ากับโสมหิมะอายุ5000ปีออกมา พลังงานนี้เข้าไปในกระดูกของเขาไม่ถึง1ส่วน ที่เหลืออีกเก้าส่วนได้เข้าไปอยู่ในตันเถียนของจื่อเฉิน เพื่อไปฟื้นฟูตันเถียน
ร่างกายถูกซ่อมแซมใหม่ ตันเถียนถูกฟื้นฟู นี่มันคือปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจากครั้งก่อน และสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้น ก็คือลูกแก้วที่เปล่งแสงสีเงินในหัวใจของจื่อเฉินนั่นเอง
พลังงานทั้งหมด ถูกปล่อยออกมาจากลูกกลมๆ นั้น สามารถฟื้นฟูตันเถียนที่เสียหายไปแล้วได้ ไม่ใช่เพราะว่าโสมหิมะมีอะไรที่ไม่ธรรมดา แต่ลูกกลมๆ ได้กินพลังงานทั้งหมดของแสงสีเงินนั้นไป
ลมหนาวค่อยๆ หยุดลง หิมะที่ตกทั่วฟ้าก็ไม่รู้ว่าหยุดไปเสียตอนไหน ถึงแม้ที่พื้นยังคงขาวไปด้วยหิมะ แต่แสงอัสดงกำลังที่จะลับขอบฟ้าไป
ในวสันตฤดูอันหนาวเหน็บ วันที่มีแสงอาทิตย์ ถือว่าเป็นวันที่อากาศดี
อากาศดี อารมณ์ของคนก็จะดีไปด้วย ตอนนี้จื่อเฉินอารมณ์ดีมาก ตันเถียนที่สลายไป กลับมาฟื้นฟูได้อย่างไม่คาดคิด ถึงแม้พลังจะไม่ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นขั้นสูงสุดทั้งหมด เป็นแค่หนุ่มน้อยที่มีพลังไม่ถึงชั้นหนึ่งเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ยังสามารถกักเก็บชี่แท้ไว้ได้ จื่อเฉินก็ดีใจมากแล้ว
นอกจากนี้แล้ว ร่างกายของจื่อเฉินก็มีแรงมากขึ้น ฝึกวิชาทะลวงกายฟ้าร้องครั้งแรก สภาพร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นไประดับสูง ความแข็งแกร่งทนทานนั้นไม่ด้อยไปกว่าสัตว์อสูรระดับสี่เลย
ฟื้นฟูตันเถียนใช้เวลาไปเกือบครึ่งวัน พระอาทิตย์ก็อยู่เกือบกลางหัวแล้ว พวกที่ตามมาก็ใกล้จะถึงแล้ว
หลังจากกลบรอยเท้าไปแล้ว จื่อเฉินก็ไปซ่อนตัวหลังก้อนหินใหญ่ จื่อเฉินเข้าใจจ้าวช่านดี รู้ว่าไม่นานพวกนั้นต้องตามมาถึงเร็วๆ นี้แน่นอน
เวลาค่อยๆ ผ่านไป ถึงแม้จะเป็นช่วงที่ตะวันกลางหัว จื่อเฉินก็ยังคงสัมผัสได้ถึงพลังเย็นยะเยือกในอากาศ
ในที่สุด รอไปกว่าครึ่งชั่วยาม จื่อเฉินก็ได้ยังเสียงอะไรบางอย่าง
“สมควรตายจริงๆ ถ้าข้าจับมันได้ล่ะก็ จะถลกหนังดึงเส้นเอ็นของมันออกมาเลยคอยดู!” เสียงของหลินหาวดังขึ้นมาก่อน
หลินหาวเดินอยู่ด้านหน้าสุด สบถด่าออกมาไม่หยุด เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น บนตัวยังมีรอยเลือด เหมือนว่าเพิ่งสู้ศึกมา ข้างๆ ก็มีหลินยิง สภาพย่ำแย่เหมือนกัน ตอนนี้สีหน้าก็โมโห สุดท้ายก็เป็นจ้าวช่านที่มีสีหน้านิ่งขรึม เสื้อผ้าของเขายังดูดีกว่าหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นักบู๊พลังสายฟ้า