บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าได้ดื่มซุปร้อน ๆ ก่อนนอน เลยทำให้ซูเมิ่งเยียนรู้สึกถึงความอบอุ่นที่อยู่ในปอด และก็หลับไปหลังจากที่นอนไปได้ไม่นาน
นางหลับสนิทมาก ไม่มีฝันร้ายเลย เพราะว่าไม่ได้ฝันถึงชีวิตที่แล้วอีกด้วย
และเดิมทีแล้วมันก็ควรที่จะเป็นเช่นนั้นต่อไป
แต่กลับไม่คาดคิดว่า ท้องฟ้ายังไม่ทันจะสว่าง ด้านนอกของเรือนหลังจะมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาเช่นนี้ได้
ซูเมิ่งเยียนขมวดคิ้วมุ่น แต่ก็ยังไม่ได้ตื่นขึ้นมา
ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงของชิวซวงที่เต็มไปด้วยความกังวลและสั่นเครือ จากนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมาในทันที
สื่งที่ชิวซวงกล่าวก็คือ "ท่านอ๋อง ร่างกายของคุณหนูยังไม่ฟื้นดี ท่านยังคงพักผ่อนอยู่เจ้าคะ"
แต่เห็นได้ชัดเจนว่า นางพูดค่อนข้างเบา จนแทบที่จะไม่มีใครได้ยินคำพูดของนาง และจากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าที่มั่นคงยืนมาหยุดอยู่ตรงนอกประตู
สีหน้าของมู่เสี่ยวแข็งท่องและซีดเซียว และเดินเข้ามาในห้องด้วยแววตาที่เย็นชาของเขา ในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู เขาก็เหมือนว่าจะคิดอะไรบางอย่างออก จากนั้นก็เหลือบมองไปทีหลัง "ซวนหยวน เจ้าเฝ้าข้างนอกเอาไว้"
"ขอรับ"
เมื่อเปิดประตูออก บนเตียงนอน มีหญิงสาวที่สวมเพื่อเสื้อทับในสีขาวตัวหนึ่งนั่งอยู่บนเตียงจริง ๆ ด้วย และใบหน้าที่มองเห็นได้ไม่ชัดเจนท่ามกลางความมืด ผมตรงสลวยนางที่ยาวลงมาไม่มีหยักศก แผ่กระจายอยู่ด้านหลัง ไม่คาดคิดว่าจะให้ความรู้สึกที่อ่อนแอเช่นนี้
มู่เสี่ยวตะลึงงันไปเล็กน้อย แต่กลับมีการตอบสนองที่รวดเร็วมาก เขาหมุนตัวไปหยิบตะบันไฟ จากนั้นก็จุดเทียน ทำให้ภายในห้องสว่างขึ้นมากในทันที
"ไม่ใช่ว่าท่านอ๋องไม่อยากเห็นข้าแล้วเช่นนั้นหรือ?" น้ำเสียงของซูเมิ่งเยียนค่อนข้างที่จะแหบพร่า
"เดิมทีข้าก็ไม่ต้องการพูดอ้อมๆ กับเจ้า" มู่เสี่ยวยืนอยู่ข้างเตียง จากนั้นก็ก้มมองลงมาที่นางจากมุมสูง "เจ้าเปลี่ยนยาที่ข้าจะส่งเข้าไปในวังเช่นนั้นหรือ?"
ซูเมิ่งเยียนเลิกคิ้วเล็กน้อย และดวงตาก็เต็มไปด้วย "คนงุนงง" "ที่ท่านอ๋องพูดคือยาอะไร?"
"ซูเมิ่งเยียน!" ทันใดนั้นเขาก็ยกกรามของนางขึ้นมา มู่เสี่ยวบีบนางด้วยมือข้างหนึ่ง และบังคับให้นางเงยศีรษะขึ้นมา ราวกับว่าต้องการที่จะตบนางอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นเขาก็พูดทีละคำว่า "ยา ที่ข้ามอบให้กับหย้วนหย้วนนั้น!"
หย้วนหย้วน...
ขนตาของซูเมิ่งเยียนสั่นไหวเล็กน้อย
ชีวิตที่แล้ว หลังจากที่เขายึดอำนาจได้ เขาก็เรียกฮัวหย้วนเช่นนี้ แต่ทว่า...นอกจากเวลาที่เขาต้องการจะใช้ประโยชน์จากนาง แม้แต่คำว่า "เมิ่งเยียน" ก็ยังเรียกน้อยครั้งมาก
"ข้าคิดว่าท่านอ๋องจะมาขอบคุณข้าเสียอีก" ซูเมิ่งเยียนพยายามขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง แต่กลับไม่อาจหลุดพ้นไปได้ โชคดีที่การเคลื่อนไหวโดยการที่ยกศีรษะอยู่ ทำให้เสียงของนางแผ่วเบา
"ขอบคุณรึ?" แต่ทว่ามู่เสี่ยวกลับเยาะเย้ยราวกับเป็นเรื่องตลก แต่ภายในดวงตานั้นกลับไม่ได้ตลกด้วยเลยสักนิด "พูดเช่นนี้ก็หมายความว่า เจ้าเปลี่ยนยาที่ข้าจะส่งเข้าไปในวังวันนี้จริง ๆ อย่างนั้นสินะ?"
"..." ซูเมิ่งเยียนไม่ได้กล่าวอะไรออกมา ซึ่งนั้นก็คือการยอมรับไปโดยปริยาย
"เจ้านี่...มีความคิดที่ชั่วร้ายอยู่ในจิตใจจริง ๆ!" มู่เสี่ยวยิ่งขยับเข้าไปใกล้นางมากขึ้น แต่คำพูดแต่ละคำที่พูดออกมานั้น ต่างก็ราวกับช้อนออกมาจากน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น "เมื่อก่อนเจ้าก็ใช้อำนาจบาตรใหญ่ จนไม่มีใครจัดการเจ้าได้ ตอนนี้ เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่า เจ้าจะสามารถทำเช่นนั้นต่อไปได้อีก?"
"...ท่านหมายความว่าอย่างไร?" ซูเมิ่งเยียนขมวดคิ้วมุ่น นางไม่เข้าใจคำเยาะเย้ยในคำพูดของมู่เสี่ยวว่ามีความหมายว่าอย่างไร
"เมื่อครู่นี้ เจ้าไม่ได้พูดว่าข้าจะต้องขอบคุณเจ้าเช่นนั้นหรือ?" ในที่สุดมู่เสี่ยวก็ปล่อยนาง และหยิบผ้าเช็ดหน้าข้างตัวขึ้นมาเช็ดมือด้วยความรังเกียจ "ข้าควรที่จะขอบคุณที่เจ้าทำให้ใบหน้าของหย้วนหย้วนเสียโฉมอย่างสมบูรณ์เช่นนั้นหรือ?"
อะไรนะ?
ซูเมิ่งเยียนตกใจเป็นอย่างมาก "นี่มันเป็นไปไม่ได้!"
"ตอนนี้หมอหลวงก็ไปดูแล้ว แล้วยังมีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้อีกล่ะ?" มู่เสี่ยวยิ้มเยาะ "ยาที่ข้าส่งเข้าไปในวัง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผลใด ๆ เลย แต่ก็ไม่ได้ทำอันตรายต่อนางเลยแม้แต่น้อย รับรองได้ว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน แล้วเหตุใดคืนนี้ หลังจากที่เจ้าเปลี่ยนยาแล้ว ใบหน้าของนางก็เสียโฉมไปอย่างสมบูรณ์เลยล่ะ?"
ไร้ข้อผิดผลาด...
ขนตาของซูเมิ่งเยียนสั่นไหวเล็กน้อย นี่คือการรับประกันของมู่เสี่ยวที่มีต่อฮัวหย้วน
ช่างน่าซาบซึ้งเสียจริง
"และสิ่งที่ดีที่สุดในการต่อสู้พิษด้วยพิษ ในการแก้พิษ จำเป็นที่จะต้องทำให้พิษระเหยออกมาเสียก่อน" ทันใดนั้นคำพูดของท่านเจ้าอาวาสก็ดังขึ้นมาในหูของซูเมิ่งเยียน
นางชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่คลุมเครือว่าพลางถามว่า "หากข้าบอกว่า ข้าไม่เคยมีความคิดที่อยากจะทำร้ายนางเลย เพียงแค่ต้องการที่จะลบล้างโทษของข้าก็เท่านั้น และใบหน้าของนาง สุดท้ายแล้วก็จะดีขึ้นล่ะ?"
"เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ไม่รู้สึกว่ามันสายเกินไปแล้วหรือ?" มู่เสี่ยวมองมาที่นาง สีหน้าของเขาสะท้อนอย่างคลุมเครือใต้แสงเทียน "ซูเมิ่งเยียน เรื่องที่กุ้ยเฟยเสียโฉม ตอนนี้ฝ่าบาทก็รู้แล้ว และเกรงว่าองครักษ์ในพระราชวังกำลังเดินทางมาแล้ว เจ้าคิดว่า พวกเขาจะฟังเจ้าเล่นสำบัดสำนวนเช่นนั้นหรือ?"
เล่นสำบัดสำนวน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน
อัพต่อหน่อยจ้าา...
อัพต่อด้วยค่ะ อยากอ่านต่อ...
อัพอีกหน่อยค่า อยากอ่านต่อ...
4/4/2567 ใครช่วยตอบที ไม่อัพตอนเพิ่มแล้วใช่ไหมค่ะ.... อยากอ่านต่ออะ 😢😢😢...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ หายไปเลย รออยู่นะคะ...
ไม่อัพแล้วหรอครับ...