เตียงของมู่เสี่ยวนั้นนุ่มมาก ถึงซูเมิ่งเยียนจะไม่เจ็บเท่าไรนัก
เพียงแต่สมองที่ถูกกระตุ้นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้วิงเวียนมากยิ่งขึ้น หน้ามืดทันที และมองสิ่งของไม่ชัดเจนไปครู่หนึ่ง จากนั้นเมื่อเงยหน้าก็มองไปเห็นแววตาที่เย็นยะเยือกนั้นของมู่เสี่ยว
ดวงตาของเขางดงามมาก ดวงตาหงส์เบิกขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าความสุกสกาวจะไหลเวียนเคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อย
สีหน้าเขาไม่แสดงออกเป็นปกติ ทั้งให้ความรู้สึกที่สง่างามภายในแววตาด้วย แต่ทว่า นางกลับยิ่งรู้สึกว่า เมื่อเวลาที่มู่เสี่ยวอ่อนโยน ดวงตาทั้งคู่ของเขามีเสน่ห์มากที่สุด
แต่ทว่ากลับมีน้อยครั้งนักที่นางจะได้เห็นความอ่อนโยนของเขา และมีเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น...ในเมื่อเผชิญหน้ากับฮัวหย้วน หรือเมื่อตอนที่เขาทำลายตระกูลซูในชีวิตที่แล้ว
ซูเมิ่งเยียนส่ายหัวเล็กน้อย แล้วใช้แรงพยุงตนเองขึ้น และยังอยู่ในความมึนงงอยู่ตลอดเวลา
"นี่เจ้าเล่นอะไรอีกแล้ว?" มู่เสี่ยวก้มหน้าลง แล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้นาง แล้วกล่าวถามด้วยเสียงเย็นชาทีละคำ
ซูเมิ่งเยียนจ้องมองไปยังผู้ชายที่เข้ามาใกล้ นางยิ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าความไม่พอใจของเขาชัดเจนอยู่ในแววตา
เขามักจะ...ไม่พอใจนางอยู่เสมอ...
นางเหม่อลอยเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไป เพื่ออยากที่จะแน่ใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้านางนั้นจริงหรือไม่
มีเสียง "เพี๊ยะ" ดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา เมื่อมือนางใกล้มาถึงแก้มของมู่เสี่ยว ก็ถูกเขาจับเอาไว้อย่างฉับไว และระยะห่างระหว่างทั้งสองก็แยกจากกันไกล
ปลายนิ้วของเขาเย็นเฉียบ และเมื่อซูเมิ่งเยียนถูกเขาจับไว้เช่นนี้ ก็ดูเหมือนสติจะตื่นขึ้นมาทันที จนอาการเหม่อลอยภายในดวงตาของนางจางหายไป เหลือไว้แต่ความเย็นยะเยือก "ขอโทษเจ้าคะ ท่านอ๋องดูยั่วยวนเกินไปแล้ว" นางตอบเขาไปอย่างแผ่วเบา
ดวงตาทั้งคู่ของมู่เสี่ยวจ้องเขม็งมาที่นาง สีหน้าของนางยังคงดูซีดเซียวอยู่ แต่ทว่าดวงตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความดื้อรั้น และเมื่อกล่าวคำชมเขาออกมา ภายในดวงตากลับเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
ภายในใจของเขาก็ยิ่งไม่พอใจมากยิ่งขึ้น "ข้าเกลียดคนโกหกมากที่สุด!" เขากล่าวอย่างแผ่วเบา และสลัดมือนางทิ้ง จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกจากประตูห้องไป เสื้อคลุมสีขาวสะท้อนเงาอยู่ภายในห้องที่มืดมิด แล้วหายไปชั่วพริบตาเดียว
ซูเมิ่งเยียนหรี่ตาลง หลังจากผ่านไปนาน นางก็ผายมือออก เป็นขวดยาที่ควักออกจากเสื้อมู่เสี่ยวตอนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาเมื่อครู่นี้
ดูเหมือนว่ามู่เสี่ยวจะถูกนางทำให้โกรธไม่น้อย ที่จริงแล้วเขาเป็นคนรอบคอบมาก ไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่สังเกตเห็นแม้แต่การกระทำนี้ของนาง
นางหัวเราะอย่างแผ่วเบา เมื่อชีวิตที่แล้วนางชื่นชมเขาอยู่ตลอด ชีวิตนี้กลับทำให้เขาโกรธเช่นนี้ได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากเลยทีเดียว
ซูเมิ่งเยียนไม่พลาดเวลาไปมากนัก นางรีบเปิดขวดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เทยาที่อยู่ในขวดออกจนหมด แล้วก็เทครีมที่ได้จากเจ้าอาวาสวัดชิงซานใส่กลับเข้าไปในขวดยาอย่างระมัดระวัง
ทันทีที่นางกระทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ประตูห้องก็ถูกใครบางคนเปิดออกอีกครั้ง
ซวนหยวนยืนอยู่หน้าประตูด้วยความลำบากใจ "หวางเฟย ท่านอ๋องได้ทำ...ขวดยาขวดหนึ่งหล่นไว้ที่นี่หรือไม่ขอรับ?" ท้ายที่สุดแล้วยาขวดนี้ ท่านอ๋องต้องการที่จะมอบให้ผู้อื่น เมื่อต้องมาพูดเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าหวางเฟย ภายในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อึดอัดใจ
อย่างไรก็ตาม ท่านอ๋องให้ความสนใจยาขวดนี้มาก และ...ท่านอ๋องก็โกรธเป็นอย่างมาก จนไม่ยอมแม้แต่เข้ามาภายในห้องนอนนี้เลยด้วยซ้ำ ในตอนแรกนั้นเขาก็ยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นว่าหวางเฟยยืนอยู่ข้างเตียงโดยที่ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ก็รู้อะไรบางอย่างได้ในทันที
"ตัวนี้หรือ?" ซูเมิ่งเยียนหยิบขวดลายครามออกมาจากมือ "ข้าหยิบมันขึ้นมาจากพื้นข้างเตียงเมื่อครู่นี้ คิดว่าน่าจะเป็นของที่ท่านอ๋องทำหายไปใช่หรือไม่?"
"ตัวนี้แหละขอรับ!" ดวงตาของซวนหยวนเป็นประกาย จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วรับขวดยามา ก่อนออกเดินทางกลับคิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะกล่าวแผ่วเบาว่า "หวางเฟย ท่านอ๋องโกรธมากเลย เขา...เกลียดการถูกคนอื่นหลอกที่สุด"
ทันทีที่พูดจบ เขาก็รีบร้อนออกไปทันที
ซูเมิ่งเยียนหรี่ตาขอนางลง นางต้องรู้ว่ามู่เสี่ยวเกลียดการถูกคนหลอกมากที่สุดอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ซวนหยวนไม่รู้ก็คือ สิ่งที่มู่เสี่ยวเกลียดมากที่สุดก็คือนางเอง ดังนั้น คนที่เกลียดทำเรื่องที่เกลียด ก็ไม่มีอะไรที่ผิด สุดท้ายแล้ว...อย่างมากที่สุดก็เพียงแค่เพิ่มความเกลียดชังของเขาให้มากขึ้นเท่านั้นเอง
...
กลางคืน ภายในพระราชวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน
อัพต่อหน่อยจ้าา...
อัพต่อด้วยค่ะ อยากอ่านต่อ...
อัพอีกหน่อยค่า อยากอ่านต่อ...
4/4/2567 ใครช่วยตอบที ไม่อัพตอนเพิ่มแล้วใช่ไหมค่ะ.... อยากอ่านต่ออะ 😢😢😢...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ หายไปเลย รออยู่นะคะ...
ไม่อัพแล้วหรอครับ...