เซียวปี้เฉิงครุ่นคิดไปคิดมา ก็เห็นว่าข้ออ้างนี้เหมาะสมดี
“ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่นอน แต่เจ้าก็สามารถมั่นใจได้ว่าเหลียนฮูหยินเกี่ยวข้องกับคนทูเจวี๋ย”
หยุนหลิงพยักหัว พร้อมพูดตามที่ตนเองคาดเดาขึ้นมาว่า “ใช่ ครั้งแรกที่ข้าได้เจอเหลียนฮูหยิน ก็เห็นว่าใบหน้าของนางมีมิติมากกว่าผู้หญิงทั่วไป และนางกับฉู่หยุนหานต่างก็ผิวขาวโทนชมพู ซึ่งยิ่งสอดคล้องกับการที่ข้าคาดเดา”
ด้านรูปร่างหน้าตา ฉู่หยุนหานกับแม่ล้วนค่อนข้างมีลักษณะแบบตะวันตก เหลียนฮูหยินแลดูชัดเจนกว่าฉู่หยุนหาน
แต่ความเป็นลูกครึ่งของเหลียนฮูหยินไม่ค่อยชัดเจน หยุนหลิงเดาว่านางน่าจะมีเชื้อสายคนจงหยวน
“ผิวโทนเย็น?”
“เป็นผิวของคนต่างเผ่าที่พบบ่อย”
ความจริงแล้ว ผิวโทนเย็นเป็นสีผิวที่พบบ่อยมากในหมู่คนผิวขาว ในชนเผ่าสีเหลืองกลับพบเห็นได้น้อย
เซียวปี้เฉิงไม่รู้ว่าผิวขาวดุจหิมะที่หยุนหลิงพูดถึงคืออะไร แต่ผิวพรรณฉู่หยุนหานขาวกว่าคนอื่นจริงๆ ขาวราวหิมะ เป็นที่อิจฉาของคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก
หยุนหลิงก็ขาว แต่ไม่ได้ผิวโทนเย็นที่ดูสูงส่งเย่อหยิ่งเหมือนฉู่หยุนหานแบบนั้น
ผิวของนางบอบบางและชุ่มชื้นราวกับกระเบื้องเคลือบสีขาว ขาวจากภายในจนภายนอกเผยให้เห็นถึงสีชมพูอ่อนๆ สมดั่งประโยคที่ว่าสวยงามราวกับดอกท้อสีชมพู
เซียวปี้เฉิงจ้องมองดูหยุนหลิงด้วยสายตาไม่กะพริบ รูปลักษณ์ที่มีม่านบังหน้าไว้ครึ่งหนึ่งนี้ ทำให้รู้สึกไม่สามารถที่จะละสายตาได้
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ข้าคิดว่าเจ้าดูดียิ่งกว่า”
เงาร่างของหยุนหลิงสะท้อนภายในดวงตาสดใส โดยไม่มีอะไรอย่างอื่นอีกเลย
หยุนหลิงหายใจติดขัด ก้มหน้าลงอมยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เลวนี่ ช่วงนี้ท่านอ๋องยิ่งอยู่ก็ยิ่งปากหวานแล้วนะ”
ไม่รู้ว่าทำไม ใช่ว่าเมื่อก่อนจะไม่เคยถูกคนจ้องมองดูตรงๆแบบนี้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์คู่นี้ หัวใจของนางเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ