อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 1

ณ เมืองหลวง แคว้นเจา

บนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน

“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”

“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”

โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง

“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”

คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันที

ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบเข้ามาห้าม “ไม่ได้นะ! เจ้าสาวจะลงจากเกี้ยวกลางทางได้อย่างไร? มันเป็นอัปมงคล จะเป็นที่รังเกียจของตระกูลเจ้าบ่าวด้วย”

ชาวเมืองที่ดูสถานการณ์อยู่รอบข้างเองก็พากันตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่จะมีคำสั่งให้เอาตัวเจ้าสาวลงจากเกี้ยวกลางถนนเช่นนี้ แถมยังจะสั่งให้ถอดชุดเจ้าสาวทิ้งอีกด้วย?

“ใครกล้ามาขวาง ก็เท่ากับเป็นอริกับพ่อข้า! หากว่าต่อไปพวกเจ้าเจ็บป่วยไม่สบาย ก็ไม่ต้องมารักษากับพ่อข้า! แค่พ่อข้าสั่งคำเดียว ร้านยาทั่วเมืองหลวงก็จะไม่มีใครกล้าขายยาให้พวกเจ้าแล้ว! ท่านพี่เซียวไม่ได้อยากแต่งกับฟู่จาวหนิงอยู่แล้ว แต่นังแพศยาคนนี้หน้าด้าน ใช้เล่ห์เหลี่ยมมาบีบบังคับให้ท่านพี่ต้องแต่งด้วย! พวกเจ้ายังจะยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบไปถอดชุดเจ้าสาวของนางซะ!”

ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีถูกถีบออกไปให้พ้นทาง พวกทหารพากันเปิดม่านดึงเอาตัวเจ้าสาวชุดสีแดง ที่ยังคงคลุมหน้าด้วยผ้าคลุมสีแดงผืนเล็กออกมา แล้วก็ทำการถอดชุดเจ้าสาวของนางออกตามคำสั่ง

“นะ นี่มันเกินไปแล้ว ถูกถอดชุดขนาดนี้แล้วคุณหนูฟู่จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร...” พวกชาวเมืองต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ได้เห็นตรงหน้า

แต่ก็มีบางคนที่เบิกตาโตแล้วชะเง้อคอมองไปทางเจ้าสาว

“รีบดูเร็วๆ ดูสิว่าเรือนร่างคุณหนูตระกูลฟู่จะขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะสักเพียงไร!”

“แน่นอนว่าต้องขาวผุดผ่องราวหิหะแรกตกน่ะสิ!”

พวกนักเลงที่มาดูเหตุการณ์ต่างพากันพูดจาแทะโลมอย่างสนุกปาก

เหล่าชาวเมืองที่มามุงดูเหตุการณ์ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาถนนเส้นนี้ติดหนึบจนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

“พวกเจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้นะ คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ ได้โปรดละเว้นคุณหนูฟู่ด้วยเถิดเจ้าค่ะ หากว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป องค์รัชทายาทเองก็จะต้องอับอายไปด้วยนะเจ้าคะ...” ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการนั่งตบเข่าบนพื้นอย่างคับข้องใจก่อนจะร้องไห้โวยวายออกมาไม่เป็นภาษา

“หากท่านถอดกระชากชุดแต่งงานไป คุณหนูฟู่ยังจะชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรเจ้าคะ!!”

“แล้วพวกบ่าวรับใช้ที่มาส่งเจ้าสาวเล่า เหตุใดจึงหลบอยู่ไม่ยอมออกมาช่วยขัดขวาง?” ชาวเมืองบางคนพูดขึ้นอย่างสงสัย “ตระกูลฟู่ไม่มีคนมาส่งตัวเจ้าสาวเลยหรือ? คุณหนูตระกูลฟูไม่มีพี่เลี้ยงหรือสาวใช้เลยหรืออย่างไร?”

“แล้วเหตุใดตัวเจ้าสาวจึงไม่ขัดขืนต่อต้านบ้างเลยเล่า?”

บางคนที่ทนดูต่อไปไม่ได้ ก็รีบวิ่งไปที่จวนตระกูลเซียวเพื่อขอความช่วยเหลือ จากที่นี่ไปถึงจวนตระกูลเซียวก็อีกไม่ไกลแล้ว

“แคว๊ก” ชุดแต่งงานของเจ้าสาวถูกฉีกออกเป็นทางยาวอย่างหยาบคาย

จาวหนิงที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังฉีกชุดของเธออยู่ ดวงตาคู่งามของเธอยังไม่ทันจะเปิดดี อารมณ์โมโหสุดขีดก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาซะก่อน เธอปล่อยหมัดออกไปยังอีกฝ่ายอย่างแรง จากนั้นก็ยกขา งอเข่าเตะไปที่อีกฝ่ายเต็มแรง

“พลั่ก!”

“โอ๊ย!!”

ทหารสองนายที่กำลังฉีกกระชากชุดแต่งงานของเธอ คนหนึ่งถูกเธอต่อยเข้าไปที่ดวงตา ส่วนอีกคนน่าสงสารกว่า ถูกเตะเข้าที่เป้ากางเกงอย่างจัง จนทำให้เขาหน้าเขียวจนคล้ำไปเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส