อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 130

บนหัวกำแพงมีคุณชายที่ดูอายุอยู่ระหว่างเด็กชายกับชายหนุ่มคนหนึ่ง สวมผ้าคลุมผ้าทอสีฟ้าอ่อนทับด้วยสีเงิน เหมือนกับกำลังส่งแสงระยับ เขาชันเข่าข้างหนึ่ง มือข้างหนึ่งพาดไว้บนหัวเข่า ถือขลุ่ยหยกไว้เลาหนึ่ง ขลุ่ยหยกบนมือโบกไหวเบาๆ ท่าทางสบายๆ เป็นอิสระ

ใบหน้าคุณชายก็ราวกับภาพวาดที่จิตรกรรังสรรค์มาอย่างประณีต ดวงตาดำริมฝีปากแดง มีไฝสีแดงเล็กๆ อยู่ระหว่างคิ้ว ผิวหนังขาวกว่าหิมะ ขาวเสียจนมองไม่เห็นตำหนิใดๆ ทั้งสิ้น

กำแพงข้างๆ นี้อันที่จริงก็เป็นแค่กำแพงดินธรรมดา แล้วยังมีตะไคร่บางส่วนเกาะอีกด้วย มีร่องรอยลมฝนพัดเซาะ แต่ด้านบนมีคุณชายที่นั่งอยู่ราวกับเซียนคนหนึ่ง จนกำแพงนี้ราวกับเปลี่ยนเป็นดูมีเสน่ห์มนตราขึ้นมา

ฟู่จาวหนิงเองก็มองแค่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถอยออกมาหลายก้าว

เงยหน้ามองแบบนี้ นางเมื่อยคอ

เพียงแต่ในเมืองหลวงแคว้นเจา ตอนไหนกันที่มีบุคคลแบบนี้อยู่ ในความทรงจำของ"คุณหนูฟู่"เองก็ไม่มีปรากฎ

"ผงยาของท่านเมื่อครู่นี้ ขายให้ข้าหน่อยได้ไหม?"

"ไม่ขาย"

ฟู่จาวหนิงขายยารักษาคน สิ่งของที่เอาไว้ป้องกันตัวเหล่านี้นางแค่เตรียมไว้ให้ตนเองกับคนในบ้านใช้ไว้เผื่อป้องกันเท่านั้น จะไม่นำมาขายเด็ดขาด

มิเช่นนั้นถ้ามีคนเอายาที่นางสกัดออกมาไปทำร้ายคน เช่นนั้นความผิดบาปมันจะไม่ตกมาที่หัวของนางหรอกหรือ?

"หนึ่งร้อยตำลึง ซื้อหนึ่งถุง"

หนึ่งถุงก็แค่ถุงกระดาษใบเล็กๆ ใบหนึ่ง ลงมือทีก็ฟุ่มเฟือยเหลือเกิน

แต่ฟู่จาวหนิงก็ยังคงสั่นหัว "ไม่ขาย"

"ชายชราน้อยอย่างท่าน นิสัยน่าสนใจจริง ข้าชอบท่านมาก"

ชายหนุ่มกระโจนตัวเบาๆ ลงมาจากกำแพง ท่วงท่าวิจิตร การเคลื่อนไหวสง่างาม แต่เขากลับไปทันสนใจพวกนักเลงหัวไม้ที่ถูกฟู่จาวหนิงเล่นงานจนสลบไปเหล่านั้น จังหวะที่ลงมาก็เหยียบโดนคนหนึ่งเข้า ทันใดนั้น...

"ไอ๊หยา!"

คุณชายที่ราวกับเซียนโบกมือทั้งสองข้างอย่างลนลาน จากนั้นก็ล้มโครมลงบนพื้น ล้มแบบเนื้อตัวแนบกับพื้นไปเลย

ฟู่จาวหนิง "..."

ราวกับเซียนอะไรนั่นพังกองลงกับพื้นในพริบตา

"อูยๆๆ ขายหน้ายับไปหมดแล้ว" เขาปีนขึ้นมา ปิดหน้าวิ่งหนี

"นี่..."

ฟู่จาวหนิงคิดจะเรียกเขาไว้ แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็เร็วยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก ครู่เดียวก็หายไปไม่เห็นแม้เงา

นางเดินออกไป หยิบขลุ่ยหยกเลานั้นขึ้นมา

ขลุ่ยหยกพอหยิบขึ้นมาก็รู้สึกถึงสัมผัสลื่นๆ หยกขาวดูชุ่มชื้น ดูแล้วเป็นขลุ่ยระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นขลุ่ยที่สลักออกมาจากหยกทั้งชิ้นอีกด้วย

นางอยากจะโยนขลุ่ยเลานี้ทิ้งไว้ไม่สนใจ แต่นักเลงหัวไม้พวกนี้โดนยาไปจนใกล้จะฟื้นแล้ว ถึงตอนนั้นขลุ่ยถ้าไม่ใช่พวกเขาเอาไปก็อาจจะถูกคนอื่นเก็บไปก็ได้

ฟู่จาวหนิงเก็บขลุ่ยหยกลงไป จากนั้นเดินไปทางที่ชายหนุ่มหายไป

นางเดิมทีคิดว่าพอชายหนุ่มพบว่าขลุ่ยตนเองหายไปจะย้อนกลับมา ใครจะคิดว่าเดินอยู่ตั้งนานสองนานก็ไม่เจอชายหนุ่มคนนั้น

นางจึงต้องปล่อยไป เก็บขลุ่ยหยกแล้วตรงไปจวนอ๋องเจวี้ยน

"ท่านหมอหนิงมาแล้วหรือ?" ผู้ดูแลจงพอเห็นนางก็รีบเชิญนางเข้าไป

เมื่อวานท่านหมอหนิงมาแล้วรอบหนึ่ง ผลลัพธ์คือจินเสวี่ยก็ถูกเปลี่ยนจากตำแหน่งสาวใช้ใหญ่ลงมาเป็นสาวใช้ทั่วไป ถูกส่งไปปัดกวาดที่เรือนเจียนเจียอีกด้วย

ในจวนล้วนคาดเดากันว่าท่านหมอหนิงนี้เป็นคนเช่นไร

"ท่านอ๋องของพวกท่านล่ะ?"

"ท่านอ๋องกำลังต้อนรับคนจากโรงหมอเมตตา" ผู้ดูแลจงกดเสียงต่ำ สีหน้าดูแล้วลังเลเล็กน้อย "ท่านหมอหนิง ท่านรู้จักกับคนของโรงหมอเมตตาด้วยหรือ?"

"โรงหมอเมตตา?"

ฟู่จาวหนิงคิดถึงเรื่องเหล่านั้นที่เซียวหลันยวนพูดกับนางเมื่อวาน นางคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อวานเพิ่งจะได้ยินชื่อโรงหมอเมตตา วันนี้คนของโรงหมอเมตตาก็มาจวนอ๋องเจวี้ยนแล้ว

แต่พวกเขามาทำอะไรกัน?

"พวกเขาเข้ามาดูอาการท่านอ๋อง นี่เป็นความต้องการขององค์จักรพรรดิ มาพร้อมกันถึงเจ็ดคนเลยทีเดียว"