ตอนที่ 10 ชายผู้อยากจะเป็นราชาโจรสลัด
ออกจากเขตชุมชนจิ่งหมิงทางประตูตะวันออก ข้ามทางม้าลายแล้วเดินเรียบทางเท้าไปทางใต้ 50 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่ซอยหยางหลิ่ว ตรงไปเรื่อยๆ จนสุดซอยก็จะเป็นร้านอาหารเล็กๆ ของอาจารย์เฉิน
อาจารย์เฉินเป็นคนเมืองไหวหนาน เขาไม่ได้เป็นพ่อครัวชั้นพิเศษหรือมีความเชี่ยวชาญนัก แต่มีฝีมือทำอาหารท้องถิ่นแถบไหวหยาง หลายปีก่อนพอเกษียณอายุ จึงมาเปิดร้านอาหารอยู่ในเมืองหลวงด้วยกันกับภรรยาคู่ชีวิต เพื่อดูแลเลี้ยงดูหลานสาวหลานชาย
การย้ายมาอยู่ในเมืองหลวงนั้นไม่ง่ายเลย ค่าครองชีพสูงมาก อาจารย์เฉินเช่าบ้านเก่าๆ ในซอยหยางหลิ่วเพื่อเปิดเป็นร้านอาหาร อาศัยฝีมือปลายจวักและความมีจิตใจดีเรียกลูกค้า ก็พอจุนเจือเลี้ยงชีพไปได้
สุดซอยเก่าๆ มีสวนเล็กๆ โต๊ะไม้ห้าหกตัวกับเก้าอี้หลายสิบตัว ตอนที่ลู่เฉินกับหลี่เฟยอวี่เข้ามาถึง ภายในมีลูกค้านั่งกันเต็มหมดแล้ว แทบไม่มีที่ว่างเหลืออยู่…กิจการดีจริงๆ!
โชคดีที่หลี่เฟยอวี่เป็นลูกค้าประจำ เขาดึงตัวภรรยาของอาจารย์เฉินที่รับหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย พลางเรียกเธอว่า ‘คุณน้า’ อย่างสนิทสนม พูดจาออดอ้อนออเซาะให้ฝ่ายนั้นหัวเราะชอบใจ สุดท้ายก็หลอกให้เพิ่มโต๊ะพิเศษขึ้นมา
โต๊ะเขียนหนังสือของนักเรียนกับเก้าอี้พลาสติกสองตัว อยากได้ดีกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว
แต่ทั้งหลี่เฟยอวี่หรือลู่เฉินต่างก็พอใจ
ครัวอาจารย์เฉินเป็นร้านอาหารคุณภาพดีราคาประหยัด พวกตะกละหลายคนมาถึงร้านเพื่อจองโต๊ะตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลา ถ้าไม่ใช่หลี่เฟยอวี่ออดอ้อนเป็น มีหรือจะได้เพิ่มที่นั่ง!
ลูกชิ้นวัวน้ำแดง เป็ดตุ๋นน้ำแกง ปลาทอดเปรี้ยวหวาน เต้าหู้เส้นต้มไก่ แล้วยังมีซาลาเปาใส้ไข่ปูอีกสองถาด ล้วนเป็นอาหารขึ้นชื่อของทางไหวหยางทั้งนั้น รับประทานร่วมกับเบียร์เยี่ยนตูอีกสี่ขวด ทำเอาลู่เฉินผู้ไม่ได้กินเนื้อสัตว์มานานกินไปน้ำตาไหลไป
รอจนอาหารหมดไปอย่างละครึ่งจาน เบียร์หมดไปสามขวด หลี่เฟยอวี่ที่กินอิ่มดื่มพอแล้วก็เริ่มบทสนทนา
พูดถึงเรื่องการถ่ายทอดสดออนไลน์
หลี่เฟยอวี่เริ่มถ่ายทอดสดออนไลน์มาเดือนกว่าแล้ว เขาตั้งใจซื้อไมโครโฟนอย่างดีกับกล้องเว็บแคมความละเอียดสูงมาใช้ คิดว่าลองเล่นในวงการออนไลน์ดูสักตั้ง แล้วก็ได้หารายได้พิเศษไปในตัว
ตอนแรกเริ่มถ่ายทอดสดออนไลน์ในเว็บไซต์จิงอวี๋ทีวี เดินบนเส้นทางของนักเล่นเกมผู้ถ่ายทอดสด สิ่งที่น่าเบื่อคือบนเว็บไซต์มีเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดสามอันดับได้แก่ CKG ฮีโร่ซิตี้ และแพลนเน็ต โอเวอร์ลอร์ด เขาเล่นจนหมดแล้ว เล่นอยู่ครึ่งเดือนเสียเงินไปมากมาย ยังถอนทุนค่าไฟคืนมาไม่ได้เลย
เมื่อครึ่งเดือนก่อนเปลี่ยนมาเล่นเว็บไซต์ลานแสงดาว เลิกเล่นเกมแล้วหันไปแสดงสดแทน เล่าเรื่องตลกให้คนอื่นฟังเป็นช่วงๆ แล้วเริ่มร้องเพลงตลกๆ ไม่นึกว่าจะดึงดูดคนเข้ามาดูได้ ได้รางวัลดาวมาถึง 0.3T
0.3T หมายถึงดาว 30,000 ดวง เทียบเท่ากับเงิน 300 หยวน แต่ตามกฎของลานแสงดาว พวกดอกไม้ริมทางอย่างหลี่เฟยอวี่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้ออกอากาศ จะได้เงินจริงเพียง 50% เท่านั้น
เอาเถอะ ค่าไฟถือว่าถอนทุนคืนแล้ว ลำบากยากเข็ญอยู่สองสัปดาห์ยังไม่สู้ไปรับจ้างขนอิฐหนึ่งวัน!
พูดถึงเรื่องการเป็นผู้ออกอากาศสดอันขมขื่นของตัวเองแล้ว พี่เสี่ยวเฟยบ่นโอดครวญไม่หยุด อยากได้มากกว่านี้แต่ทำไม่ได้ ลู่เฉินฟังแล้วสงสารจนน้ำตาจะไหลตามไปด้วย
“เสี่ยวลู่ นายรู้ไหม?”
หลี่เฟยอวี่กระดกเบียร์อึกใหญ่ เล่าต่อว่า “เสี่ยวเหม่ยที่ทำงานในบริษัทของฉัน เมื่อเดือนที่แล้วหาเงินได้เป็นรางวัลจากเว็บไซต์ลานแสงดาวสองหมื่นกว่าเกือบสามหมื่น ได้มากกว่าเงินเดือนร้าน 4S ตั้งห้าหกเท่า เดือนหน้าเธอจะไม่มาทำงานแล้ว!”
เสี่ยวเหม่ย ลู่เฉินเคยได้ยินเรื่องเธอ เป็นพนักงานต้อนรับร้าน 4S ที่หลี่เฟยอวี่ทำงานอยู่ เธอมีดวงตากลมโต ใบหน้ารูปหัวใจ เอวบางคอดกิ่ว ขายาวเรียวสวย… สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือเธออายุแค่ 20 ปี ยังไม่มีแฟน เป็นเหมือนดอกไม้งามในบริษัท ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอต้องตกเป็นเป้าหมายของการตามจีบจากพวกผึ้งและผีเสื้อหนุ่มแน่ แล้วยังมีคนแอบชอบเธออีกมาก!
ลู่เฉินรู้เพียงเท่านี้ ไม่ได้รู้จักเธอโดยตรง เพียงได้ยินจากปากของหลี่เฟยอวี่มานับครั้งไม่ถ้วน
อืม เจ้านี่เป็นหนึ่งในสมาคมผู้แอบชอบเสี่ยวเหม่ย!
“เธอมีความสามารถมากเหรอ?” ลู่เฉินถามอย่างสงสัย
หลี่เฟยอวี่อธิบายว่า “เธอร้องเพลงไม่เป็น เต้นก็ไม่เป็น แต่ถ่ายทอดสดตอนเธอแต่งหน้า กินอาหาร ทำท่าน่ารัก และก็พูดคุย…”
ลู่เฉินพูดไม่ออก…แบบนี้ก็ได้เหรอ?
“ได้จริงๆ!”
หลี่เฟยอวี่สงบสติอารมณ์สักพัก บอกว่า “อย่าว่าแต่ทำตัวน่ารักหรือพูดคุยเลย ในเว็บไซต์ลานแสงดาวยังมีถ่ายทอดสดตอนนอนหลับ ดูโทรทัศน์ ทำอาหาร เขียนนิยาย อะไรก็มีทั้งนั้น มีแต่สิ่งที่นายคิดไม่ถึง ไม่มีสิ่งที่ทำไม่ได้!”
“เสี่ยวลู่ ด้วยสติปัญญาและความสามารถของนาย ต้องมีอนาคตไกลในลานแสงดาวแน่นอน!”
เขาท่าทางจริงจังขึ้นมา
“ตอนนี้ดาราดังที่สุดเจ็ดคนในลานแสงดาว ได้เงินเดือนหนึ่งอย่างน้อยหนึ่งแสนกว่า ตามรายได้ของเยี่ยนม่านหนีดาราดังที่ได้เซ็นสัญญา เดือนหนึ่งได้มากกว่าห้าล้านเลยนะ แล้วยังได้รีวิวโฆษณาสินค้าตั้งหลายชิ้น มีผู้ติดตามในลานแสงดาวถึงสองล้านคน นายคิดดูสิว่าเธอจะได้เงินรางวัลเท่าไร?”
ลู่เฉินพยักหน้าตาม เขายืมชื่อบัญชีของหลี่เฟยอวี่มาเล่นตามสบาย เป็นแค่ตัวปลอมยังได้รางวัลมากขนาดนี้
แฟนคลับที่ติดตามสองล้านคน คิดแล้วน่ากลัว!
หลี่เฟยอวี่ยิ้มเจื่อน “ฉันไม่มีทางทำได้ขนาดนี้หรอก แต่เสี่ยวลู่นายไม่เหมือนกัน นายร้องเพลงเก่งแถมยังหล่อ แล้วนายยังเขียนเพลงเองด้วย เป็นศักยภาพที่จะทำให้นายโด่งดังในลานแสงดาว!”
“ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่นายร้องเพลงเมื่อครู่แค่สามเพลง ฉันดูรางวัลได้ตั้ง 2.8T ถ้านำเงินออกมาทันทีจะได้ตั้ง 1400 หยวนเชียว นายว่ามากกว่าเงินที่นายทำงานที่ร้านเคเอฟซีกับงานนักร้องควบบริกรในบาร์แค่ไหน?”
ลู่เฉินเริ่มคล้อยตามแล้ว!
ครอบครัวเขาติดหนี้จำนวนมหาศาล ถ้าหาเงินโดยอาศัยแต่งานประจำของตัวเอง คาดว่าทั้งชีวิตนี้คงไม่มีทางใช้หนี้หมด ต่อให้ช่วยกันกับครอบครัวก็ตาม
ตอนนี้เขามีคลังสมบัติล้ำค่าอยู่กับตัวแล้ว แต่อยากจะเปลี่ยนคลังสมบัติล้ำค่านี้ให้เกิดประโยชน์นั้นไม่ง่ายเลย คิดถึงสัญญาเอารัดเอาเปรียบที่ซูชิงเหมยยื่นให้ก็รู้แล้ว คนไม่มีชื่อเสียงอย่างเขาอยากจะอยู่ในวงการนี้ อาศัยแค่ความสามารถกับพรสวรรค์นั้นไม่พอ!
เว็บไซต์ถ่ายทอดสดออนไลน์แบบลานแสงดาว เหมือนเวทีเล็กๆ ที่เป็นช่องทางหาเงินอีกทางหนึ่งของคนชั้นรากหญ้า!
หลี่เฟยอวี่อาศัยจังหวะตีเหล็กตอนร้อน พูดต่อว่า “เสี่ยวลู่ ฉันไม่อยากเล่นต่อแล้ว ชื่อสมาชิกของฉันยกให้นายเลยแล้วกัน ชื่อข้อมูลทุกอย่างแก้ไขได้ การออกแบบการถ่ายทอดสดฉันยกให้นาย เอาเป็นว่าฉันไม่ใช้แล้ว”
ลู่เฉินตกใจ รีบตอบกลับว่า “จะทำแบบนี้ได้ไง…”
“ทำไมจะไม่ได้?”
หลี่เฟยอวี่ถลึงตาเอ่ยต่อว่า “อย่างนี้เรียกว่าการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า ฉันไม่เสียหายอะไร เงินรางวัลในบัญชีฉันไม่ให้นายแล้วกัน ยังไงก็ไม่มีของมือสองขายในราคานี้นะเว้ย!”
ถึงแม้หลี่เฟยอวี่จะพูดแบบนี้ แต่ลู่เฉินก็รู้ว่าอุปกรณ์สองชิ้นนั้นถูกคิดราคาติดมาด้วย ถึงแม้เงินรางวัลทั้งหมดจะไม่มีทางได้มาแน่นอน ยิ่งกว่านั้นชื่อบัญชียังกลายเป็นชื่อของเขาด้วย
“พี่หลี่…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar