ตอนที่ 119 ผมอยากหาเงินให้ได้มากๆ
“อันดับต่อไป เชิญผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 007 ลู่เฉินขึ้นเวทีครับ!”
เสียงโห่ร้องชื่นชมดังขึ้นตามมา หลังจากที่เสียงของพิธีกรสิ้นสุดลง ลู่เฉินก้าวก้าวขึ้นไปบนเวทีอันคุ้นเคย
แกรนด์สตูดิโอของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ได้ถูกตกแต่งใหม่ ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความแปลกใหม่ ที่นั่งผู้ชมทั้ง1500 คนไม่มีที่ว่าง ถานหง เฉินเฟยเอ๋อร์ หลินจื้อเจี๋ย และเจินเจิน กรรมการทั้งสี่ยังอยู่ครบทั้งหมด
วันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม รายการขับร้องให้ก้องจีนรอบคัดเลือกจาก 16 คน เหลือ 10 คนเริ่มขึ้นตรงตามเวลา
และนี่เป็นการแข่งขันรอบสุดท้ายในเขตปักกิ่ง คืนนี้ผู้เข้าประกวดที่ถูกคัดเลือกสิบคน จะเริ่มออกเดินทางจากเมืองหลวงในต้นเดือนหน้า ไปทัวร์แข่งขันตามเขตแข่งขันต่างๆ เฟ้นหาผู้เข้าแข่งขันสิบคนสุดท้ายจากทั่วประเทศ
ดังนั้นการแข่งขันในครั้งนี้จึงสำคัญมาก และเป็นที่จับตามองของผู้ชมเป็นอย่างมาก!
“อาจารย์กรรมการทุกท่าน สวัสดียามค่ำคืนครับ สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน!”
เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าไมโครโฟน ลู่เฉินก้มโค้งเคารพกรรมการ แล้วโค้งซ้ายและขวาให้แก่ผู้ชมเป็นการทักทาย
“ผมคือผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 007 ลู่เฉิน!”
อันดับการแข่งขันรอบคัดเลือก 16 คนของเขตปักกิ่ง ใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดอันดับผู้เข้าประกวด ก่อนหน้าลู่เฉินมีผู้เข้าแข่งขัน 6 คนขึ้นเวทีประกวดไปแล้ว การแสดงของพวกเขาล้วนแล้วแต่วิจิตรตระการตา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอิทธิพลของลู่เฉินหรือไม่ มีผู้เข้าแข่งขันถึงสองคนที่นำเพลงผลงานของตัวเองออกมา!
รายการแข่งขันประกวดคัดเลือกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการประกวดประเภทร้องเพลง ผลงานเพลงสูงส่งมากกว่าการขับร้องเพลงโคฟเวอร์ ทำให้ได้รับคะแนนเพิ่มมาก
ท่าทีของการสนับสนุนให้เกิดผลงานเพลงใหม่ นอกจากผู้ชมผู้ฟังได้รู้สึกถึงความแปลกใหม่แล้ว ต่อให้เป็นเพลงโคฟเวอร์ นักร้องหลายคนชอบนำเพลงเก่ามาแต่งทำนองใหม่ ยิ่งกว่านั้นคือตั้งใจเพิ่มระดับความยากขึ้น เพื่อเพิ่มลูกเล่นของการร้อง
แต่ก่อนอื่น คุณภาพของผลงานต้องไม่แย่จนเกินไป ไม่เช่นนั้นจะยิ่งทำให้พังไปหมด!
สติปัญญาล้ำค่ากว่าเทคนิคการร้อง เทคนิคการร้องสำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอก เข้ารอบ16 คนในเขตปักกิ่งได้ถือว่าไม่ธรรมดา
เพลง ‘รักล้นมหาสมุทร’ ของผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 002 จางจวิ้นหวา เพลง ‘วันรำลึก’ ของผู้เข้าประกวดหมายเลข 005 จั่วชิวชิง ล้วนเป็นผลงานเพลงที่ยอดเยี่ยม พวกเขาได้รับคะแนนท่วมท้นจากทั้งกรรมการ ผู้ชมในห้องส่งและผู้ชมทางบ้าน
ตอนนี้คะแนนของทั้งคู่ขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 และ 2 ของตารางจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 16 คน!
ต่างจากรอบคัดเลือก การแข่งขันรอบตัดสินของเขตปักกิ่งนี้จาก16 คนเหลือ10คนนี้เป็นการแข่งขันแบบเรียลไทม์ของจริง ดังนั้นจึงใช้เวลาให้คะแนนตามจริง ผู้เข้าแข่งขันร้องเพลงจบจะได้รับคะแนนของตัวเองทันที
สำหรับผู้เข้าแข่งขัน การเปลี่ยนแปลงวิธีการให้คะแนนเป็นการทดสอบสภาพจิตใจอันมั่นคงของพวกเขา
พวกเขาต้องพยายามร้องให้ดีมากขึ้น และไม่อาจสร้างความผิดพลาดใดๆ แม้แต่น้อย
การแสดงของจางจวิ้นหวาและจั่วชิวชิงนั้นโดดเด่น แน่นอนว่าสร้างแรงกดดันให้ลู่เฉินที่ขึ้นประกวดเป็นคนที่ 7 เป็นอย่างมาก
ถ้าบอกว่าในการแข่งขันรอบคัดเลือกความสามารถ ลู่เฉินร้องเพลงเดินไปร้องไปได้ไม่เลว ถ้าอย่างนั้นรอบคัดเลือก 32 คนเหลือ 16 คนที่เขาร้องเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน ทำให้เขาหมดไอเดียลงอย่างไม่ต้องสงสัย
กรรมการทั้งสามให้คะแนนเขา1 0 คะแนนเต็ม คะแนนรวมทั้งหมด 39 คะแนนขึ้นมาเป็นอันดับแรก สุดท้ายได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน16 คนอย่างหมดจดไม่มีข้อโต้แย้ง
ตามมาด้วยเว็บบล็อกเทียนคงและบล็อกหลางเฉาเกิดสงครามออนไลน์ปะทุขึ้น ผลักดันให้ลู่เฉินเหมือนยืนอยู่บนหน้าผาสูง ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น แล้วยังถูกมองว่าเป็นนักร้องผู้มีความสามารถรุ่นใหม่
ไม่ยอมแพ้เหรอ? ถ้าอย่างนั้นคุณลองเขียนเพลงชั้นยอดอย่างเพลงในฤดูใบไม้ผลิขึ้นมาอีกสักเพลง!
ดั่งคำว่าต้นไม้ใหญ่มักถูกกระทบด้วยสายลม ลู่เฉินได้รับทั้งเกียรติยศและชื่อเสียง เขากลายเป็นเป้าหมายที่ใครหลายๆ คนอิจฉาริษยา เขาเข้าร่วมการประกวดในเขตปักกิ่ง ไม่รู้ว่ามีดวงตากี่คู่จับจ้องเขาอยู่!
ไม่มีใครคิดว่าลู่เฉินจะตกรอบ 10 คนนี้ แต่ถ้าเขาร้องได้ไม่ดีพอ หรือไม่ได้นำเสนอผลงานเพลงที่ดีพอแล้วละก็ จะต้องมีคนนำเรื่องนี้ไปพูดแน่นอน
จางจวิ้นหวากับจั่วชิวชิงที่อยู่ด้านหน้า เป็นอาวุธร้ายที่โจมตีได้ดีที่สุด
ฉะนั้นทุกคนถึงพากันคิดว่า หากการแสดงของลู่เฉินมีปัญหา หรือเหมือนกับสำนวนที่ว่า ‘หมดปัญญา’ หรือ ‘เข้าตาจน’ หรือถึงขั้น ‘หมดสิ้นทนหาง’ จะต้องมีพายุฝนใหญ่พัดโหมกระหน่ำใส่เขาแน่นอน
สิ่งสำคัญคือลู่เฉินเป็นคนที่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ผลักดันเหมือนกับที่สถานีโทรทัศน์เซียงหนานผลักดันหลิงเสี่ยวซู ทั้งสองจะต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ส่งผลต่อยอดเรตติ้งของรายการ
หากลู่เฉินแสดงไม่ดี แล้วสถานีโทรทัศน์เซียงหนานไม่ออกมาแถลงข้อความอะไรบางอย่างถึงจะแปลก!
หน้าตาของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แห่งนี้ มีหรืออยากจะทำลายก็ทำได้ง่ายๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ การขึ้นเวทีของลู่เฉินคราวนี้มีความกดดันมาก
ในโพสต์ของรายการขับร้องให้ก้องจีน มีแฟนคลับจำนวนมากที่กังวลใจแทนลู่เฉิน
ขณะเดียวกันก็ได้เกิดข้อโต้แย้งมากมาย
“ลู่เฉินขึ้นเวทีแล้ว รอเพลงใหม่ของเขามานานเลย!”
“จางจวิ้นหวากับจั่วชิวชิงเก่งมาก ครั้งนี้ถ้าเขาอยากติดดันดับหนึ่ง น่าจะยากหน่อยแล้ว!”
“คนด้านบนรู้ได้ยังไงว่าเขาจะร้องเพลงใหม่ ไม่แน่ว่าอาจจะเอาเพลงของคนอื่นมาร้องก็ได้”
“ชิ! จะเป็นไปได้ยังไง เฉินเฟยเอ๋อร์บอกแล้วว่ารอฟังเพลงใหม่ของลู่เฉิน เขาจะต้องเค้นเอาเพลงใหม่ออกมาจนได้!”
“พวกเธอว่าเพลงของลู่เฉินเขาเขียนเองจริงเหรอ เก่งเกินไปแล้ว”
“ซื้อเพลงมาก็ยังไม่แน่ หลายคนที่ทำแบบนี้”
“พวกนายเลิกล้อเล่นได้แล้ว ลูกพี่ลู่เฉินมีแต่ขายเพลงให้คนอื่น เขาจะซื้อเพลงจากใครได้ น่าขำสิ้นดี!”
“นั่นน่ะสิ นั่นน่ะสิ ลู่เฉินของเราไม่แพ้ใครแน่นอน”
“ฮ่าๆๆ ร้องโคฟเวอร์เพลงของคนอื่น พวกเธอรู้ไหมว่าลู่เฉินมีผลงานเพลงตั้งกี่เพลง”
“มีกี่เพลง”
“รอดูต่อไปเถอะ!”
โพสต์ของแอดมินรายการขับร้องให้ก้องจีนตั้งขึ้นมาไม่นาน แต่มีคนเข้าไปติดตามมากกว่าสองล้านคน
เนื่องจากการตอบโต้ที่ดีของโพสต์ และยังมีการออกอากาศสดของลู่เฉินตั้งแต่เข้าประกวดเป็นต้นมา กลุ่มสมาชิกของขุนศึกตระกูลลู่ได้แห่กันมาให้การสนับสนุนถึงที่นี่
จนถึงตอนนี้ โพสต์ของรายการขับร้องให้ก้องจีนเกือบกลายเป็นสถานที่ชุมนุมของแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่ มีจำนวนความเคลื่อนไหวแฟนคลับที่น่าตื่นตกใจ ส่งผลทำให้มีผู้ติดตามที่ผ่านไปผ่านมากลายมาเป็นแฟนคลับกลุ่มใหญ่
เมื่อเห็นความกังวลใจและความสงสัยในความสามารถของลู่เฉิน ทำให้แฟนคลับหัวเราะเยาะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar