(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 161

ตอนที่ 161 มาสู้กันให้เต็มที่!

ลู่ซี เฉินซิน หลี่เฟยอวี่ เฉินเสียงแล้วก็หลี่มู่ไป๋

สายตาเป็นประกายของลู่เฉิน กวาดมองใบหน้าของทุกคนที่นั่งอยู่อย่างช้าๆ

พวกเขามีบางคนเป็นญาติพี่น้องกับลู่เฉิน บางคนเป็นเพื่อน บางคนเคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน แล้วก็มีคนที่เคยเป็นแฟนคลับ

โชคชะตานำพาให้มาพบกัน ทุกคนมานั่งรวมกันอยู่ที่นี่ สร้างทีมงานเล็กๆ ขึ้นมา

ไม่ว่าจะเคยทำอาชีพอะไรมาก่อน หรือเคยทำงานอะไรมา ตอนนี้ทุกคนล้วนเป็นคนใหม่ตัวเล็กๆ ที่บุกเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง มีประสบการณ์และกำลังความสามารถไม่เพียงพอ เต็มไปด้วยความงงงันกับอนาคต

สิ่งที่ทำให้ลู่เฉินมีความมั่นใจ ก็คือความสามัคคีของทีมงานนี้!

สตูดิโอในตอนนี้เหมือนกับยอดอ่อนที่เพิ่งแตกหน่อ ยังอ่อนแอนัก แต่รากใต้ดินที่ค้ำจุนใบอ่อนนั้นเต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา แม้ต้องเจอการบดขยี้ของก้อนหินใหญ่และผ่านลมพายุมาอย่างโชกโชน แต่ก็ยังมีพลังในการยืนหยัดต่อไป

เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

“ความจริงทุกคนคิดถึงปัญหาที่รุนแรงเกินไป”

ลู่เฉินยิ้มแล้วเอ่ยพูดว่า “พวกเราไม่จำเป็นต้องชนะใคร ขอแค่อัลบั้มชุดนี้ได้วางจำหน่ายก็ถือว่าสำเร็จแล้ว นอกจากนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องแข่งขันทำยอดขายกับคนอื่น ประเด็นสำคัญคือได้ต้นทุนกลับมาหรือไม่”

“ต้นทุนของพวกเราต่ำมากนะ”

การผลิตอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ มีต้นทุนที่ต่ำมาก ซึ่งคนในวงการส่วนใหญ่ไม่สามารถจิตนาการได้

โดยปกติทั่วไป อัลบั้มที่สมบูรณ์โดดเด่นหรือกระทั่งคุณภาพผลงานที่ยอดเยี่ยม ต้นทุนในการผลิตอยู่ระหว่างหลักแสนถึงหลักล้าน เกินหนึ่งล้านถือว่าปกติมาก ถ้าหากเพิ่มค่าโปรโมทเข้าไปก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายถึงสามสี่ล้าน

แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ใช้ไปเพียงหนึ่งแสนหยวนเท่านั้น!

ลู่เฉินเขียนเพลงทั้งหมดสิบเพลงด้วยตัวเอง เขาไม่จำเป็นต้องเสียเงินสักแดงเดียวไปจ้างคนอื่นให้เขียนเพลงให้ เพลงเดียวสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างน้อยหลักแสนหรือกระทั่งสองสามแสน

นักร้องนักแต่งเพลงชื่อเสียงดี เพลงหนึ่งสามารถเปิดราคาได้สองสามหมื่นเป็นเรื่องปกติมาก

รองลงมาคือด้านการเรียบเรียงเพลง ดนตรีประกอบและการบันทึกเสียง ลู่เฉินไม่ได้เลือกหน่วยงานผลิตอันดับหนึ่งของวงการ เหมือนบริษัทใหญ่อย่างเช่นเทียนไล่เวิร์กชอป แต่เลือกใช้สตูดิโอเนี่ยผานที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก

จึงทำให้ประหยัดเงินได้สองสามแสน!

หากยึดตามหลินจื้อเจี๋ยผู้อำนวยการเพลงของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด สตูดิโอเนี่ยผานผลิตอัลบั้มให้ลู่เฉิน ราคาที่แท้จริงน่าจะอยู่ระหว่างสองแสนถึงสามแสน ถือว่าเขาโชคดีมาก

ค่าใช้จ่ายในการผลิตหนึ่งแสนหยวน เท่ากับราคาสิบวันของพื้นที่โฆษณาทั่วไปบนเว็บไซต์เฟยซวิ่นมิวสิค!

บวกกับเงินค่าโฆษณาก้อนนี้ ต้นทุนหักลบค่าแรงก็คือสองแสนหยวน!

ตามการเซ็นสัญญาของสตูดิโอลู่เฉินกับเฟยซวิ่นมิวสิค ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ จะจำหน่ายเป็นอัลบั้มไม่แยกขายเป็นเพลงเดี่ยว สมาชิกทั่วไปคือสิบหยวนต่อหนึ่งแผ่น สมาชิกวีไอพีลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์

ส่วนแบ่งของสตูดิโอลู่เฉินกับเฟยซวิ่นมิวสิคคือห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งสองฝ่ายได้คนละครึ่ง

แม้ว่าจะยึดตามราคาวีไอพีทั้งหมด ขอเพียงขายได้ห้าหมื่นแผ่นก็เรียกต้นทุนกลับคืนมาได้แล้ว ส่วนที่เกินก็คือกำไรสุทธิ

อัตรากำไรแบบนี้ แม้ว่าชุยเจิ้งจื้อ โจวเป้ยหรือหลิงเสี่ยวเซียวจะควบม้าตามก็ยังตามไม่ทัน

พวกเขาทำอัลบั้มลงทุนค่าโฆษณาหลายแสนหรือหลายล้าน บวกกับต้นทุนการผลิต อย่างน้อยก็ต้องขายสี่ถึงห้าแสนแผ่นถึงจะรักษาต้นทุนไว้ได้ แบบนั้นนอกจากการโกงแล้วก็ยากที่จะทำให้ยอดขายเป็นจริงได้ทั้งหมด

แน่นอนไม่ว่าจะเป็นชุยเจิ้งจื้อ หรือว่าโจวเป้ยและหลิงเสี่ยวเซียว บริษัทที่พวกเขาเซ็นสัญญาเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกต้นทุนกลับมาโดยอาศัยการขายอัลบั้มทางออนไลน์เท่านั้น ประเด็นสำคัญยังต้องทำกำไรผ่านการร้องเพลงโชว์ การโฆษณาและผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงที่เกี่ยวกับศิลปินดาราเป็นต้น

เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ของทั้งสองฝ่าย จึงไม่เหมือนกันตั้งแต่ตอนเริ่มต้นแล้ว

ความต้องการของลู่เฉินไม่สูงมาก แค่ได้ต้นทุนกลับคืนมาก็พอใจแล้ว ขอเพียงชื่อเสียงที่ดีของอัลบั้มได้แพร่ออกไป ก็สามารถยกระดับและความดังภายในวงการได้ โอกาสในการทำกำไรในภายหลังยังมีอีกเยอะ

ดังนั้นลู่เฉินจึงไม่จำเป็นต้องแย่งชิงแข่งขันกับพวกเขา และยิ่งไม่ต้องทุ่มเงินเพื่อพนันอะไร

“พวกเราแค่ทำเรื่องของพวกเราให้ดีก็พอแล้ว!”

ลู่เฉินพูดกับทุกคนว่า “เขาแกร่งก็ปล่อยให้เขาแกร่งไป วางอัลบั้มวันเดียวกันกับชุยเจิ้งจื้อมันเกี่ยวอะไรกันล่ะ เป้าหมายของพวกเราคือยอดขายห้าหมื่น ถึงห้าหมื่นก็ชนะแล้ว!”

“ห้าหมื่นน้อยไป…”

หลี่มู่ไป๋กล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “สมาชิกของลู่เจียจวินไม่ได้มีแค่ห้าหมื่นคน แฟนคลับที่อยู่ในห้องถ่ายทอดสดก็เกินล้าน ในบล็อกล่างฉาวก็ยังมีอีกห้าล้านคน!”

ลู่เฉินหัวเราะพลางส่ายหน้า ยกเว้นแฟนคลับตัวยงของลู่เจียจวินแล้ว แฟนคลับในห้องถ่ายทอดสดกับบล็อกล่างฉาวมีกี่คนที่สามารถเป็นสมาชิกที่จ่ายเงินได้ ล้วนเป็นจำนวนที่ยังไม่รู้ โดยเฉพาะจำนวนแฟนคลับที่ผสมอยู่ในบล็อกล่างฉาวคือจำนวนที่มากที่สุด

จำนวนการติดตามในบล็อกล่างฉาวของเขาเกินห้าล้านคน จึงมีคุณสมบัติขึ้นพื้นฐานในการเป็นบัญชีวีไอพี แต่ส่วนใหญ่เป็นขาจร มีหลายคนที่เข้ามาเพราะถูกดึงดูดจากการทะเลาะกันในบล็อกล่างฉาวสองสามครั้ง แต่ไม่ถือว่าเป็นแฟนคลับที่แท้จริง

หากฝากความหวังว่าแฟนคลับขาจรจะยอมควักเงินซื้อ แบบนั้นดูไร้เดียงสาเกินไปแล้ว

แน่นอนว่าแฟนคลับตัวยงของลู่เจียจวิน ยอดขายห้าหมื่นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อเทียบกับยอดขายออนไลน์ของเฟยซวิ่นมิวสิค ความจริงลู่เฉินให้ความสนใจอัลบั้มแผ่นเสียงมากกว่า นั่นถึงจะเป็นการยกระดับอย่างแท้จริง!

กริ๊ง!

และในเวลานี้ โทรศัพท์ของลู่ซีที่วางอยู่บนโต๊ะพลันดังขึ้น

เธอหยิบขึ้นมาดู จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเอง “เสี่ยวเหม่ยบอกว่ามีข้อมูลให้พวกเราดู”

พี่เสี่ยวเหม่ยหรือเฉินเสี่ยวเหม่ยรับผิดชอบงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ในสตูดิโอลู่เฉิน เวลาว่างเธอจะช่วยลู่ซีค้นหาข่าวออนไลน์ โดยเฉพาะข่าวซุบซิบและข่าววงในของวงการบันเทิงเป็นต้น

ตอนนี้เธอส่งลิงค์วีดีโออันหนึ่งไปยังเฟยซวิ่นของลู่ซี

“คือชุยเจิ้งจื้อ…”

ลู่ซีคลิกลิงค์ แล้วหันหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ทุกคนดูด้วยกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar