ตอนที่ 162 เลื่องลือ
วันที่ 6 เดือนกันยายน อัลบั้มแรกของลู่เฉิน ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ เป็นวันที่สองของการอุ่นเครื่องโปรโมทในเฟยซวิ่นมิวสิค
ตอนเช้า เวลาเก้าโมงสิบนาที มีไอดีบัญชีวีไอพีเล็กๆ หนึ่งชื่อว่า ‘หนุ่มกอสซิปบันเทิง’ ในโพสต์บล็อกของบล็อกล่างฉาวได้แอดข้อความถึงลู่เฉินFMX เนื้อหาคือวีดีโอตัดต่อของชุยเจิ้งจื้อที่ให้สัมภาษณ์กับช่องบันเทิงล่างฉาวเมื่อวานนี้
ไอดีหนุ่มกอสซิปบันเทิงแอดข้อความหาลู่เฉินในขณะเดียวกัน ก็ยังเพิ่มสัญลักษณ์ใบหน้ายิ้มแบบเจตนาร้าย
‘หนุ่มกอสซิปบันเทิง’ เป็นไอดีที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งในบล็อกล่างฉาว มีแฟนคลับติดตามหนึ่งล้านคนขึ้นไป เขาจะเชี่ยวชาญในการโพสต์ข่าวซุบซิบต่างๆ ของวงการบันเทิงในบล็อกของเขา สามารถอ่านโพสต์บล็อกหลายร้อยข้อความในหนึ่งวัน
ผู้คนล้วนชอบซุบซิบนินทากันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในวงการบันเทิง ซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจจากผู้คนเสมอมา และบัญชีวีไอพีเล็กๆ คนนี้ก็คือคนหนึ่งที่เห็นการตลาดอยู่ในนั้น เขาพยายามโพสต์ข่าวบันเทิงอย่างมุ่งมั่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งความนิยมในบล็อกของเขาถือว่าไม่เลว
เรื่องที่เขาชอบทำที่สุด ก็คือการแอดข้อความไปยังผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือคู่กรณีของข่าวซุบซิบที่อยู่ในบล็อก
ถึงแม้ศิลปินดาราส่วนใหญ่จะไม่สนใจหนุ่มกอสซิปบันเทิงคนนี้ แต่ก็มีข้อยกเว้นเสมอ
ห้านาทีผ่านไป ลู่เฉินตอบกลับมาว่า “มาสู้กัน!”
คำง่ายๆ สามคำ บวกเครื่องหมายอัศเจรีย์ กลับทำให้หนุ่มกอสซิปบันเทิงถึงกับงง
เขารู้จักสามคำนี้ ทว่าเมื่อเอามารวมกันแล้วเขาจึงไม่เข้าใจ…อะไรคือ ‘มาสู้กัน’
บัญชีวีไอพีเล็กๆ คนนี้รู้สึกว่าสนุกมาก ดังนั้นเขาจึงโพสต์บล็อกอีกอันหนึ่ง ถามความหมายของ ‘มาสู้กัน’
เขาแอดข้อความถามลู่เฉินFXM อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ลู่เฉินไม่ได้สนใจเขา ไม่ตอบกลับ
แต่แฟนคลับของหนุ่มกอสซิปบันเทิงก็มีไม่น้อย พอเห็นโพสต์บล็อกที่พิเศษนี้ จึงเดาและทยอยตอบกลับมาเรื่อยๆ
มีคำตอบมากมายหลายอย่าง บางอันถึงขนาดจินตนาการขึ้นมาเองทำให้คนอดขำไม่ได้
แต่ไม่ช้าก็มีคนอธิบายตามเนื้อหาหน้าหลังของโพสต์นี้ น่าจะมาจากคำย่อว่า ‘มาสู้กันให้เต็มที่’
หนุ่มกอสซิปบันเทิงจึงเข้าใจทันที ส่งสัญลักษณ์หัวเราะสามตัวติดต่อกัน ขณะเดียวกันก็แอดไปที่ลู่เฉินFXM กับชุยเจิ้งจื้อ!
เจตนาของเขาชัดเจนมาก ก็คืออยากจะยั่วยุการต่อสู้กันระหว่างทั้งสองคน
น่าเสียดายไม่ว่าจะเป็นลู่เฉินหรือว่าชุยเจิ้งจื้อ ก็ไม่มีใครสนใจเขา
ทว่า ‘มาสู้กัน’ ที่ไม่มีความหมายอื่นแฝงอยู่ แต่กลับถูกคนแชร์ในบล็อกล่างฉาวไปทั่ว
ลู่เฉินมีแฟนคลับอยู่ในบล็อกล่างฉาวห้าล้านคนขึ้นไป ชุยเจิ้งจื้อมีเก้าล้านคนขึ้นไป ทั้งสองคนเดบิวต์มาจากการประกวด คนหนึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งในรายการ ‘ซูเปอร์เมลวอยซ์’ อีกคนหนึ่งได้รับรางวัลผู้ชนะเลิศในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’
และทั้งสองคนล้วนเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น เต็มไปด้วยความสามารถ แถมยังวางจำหน่ายอัลบั้มในเว็บไชต์แห่งหนึ่งในวันเดียวกัน จึงกลายเป็นองค์ประกอบร้อนแรงของการซุบซิบนินทาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฉะนั้นมีหลายคนรวมทั้งบัญชีวีไอพีจึงแชร์โพสต์ของหนุ่มกอสซิปบันเทิงคนนี้ แพร่กระจายคำท้าของชุยเจิ้งจื้อและการตอบกลับของลู่เฉินไปหลายที่
แฟนคลับที่คุ้นเคยกับชุยเจิ้งจื้อต่างก็รู้ว่าไอดอลลูกครึ่งจีนเกาหลีคนนี้พูดจาตรงไปตรงมา มีความเก่งและหยิ่งในตัวไม่เคยยอมแพ้ใคร เขาคิดว่าตัวเองสามารถเอาชนะลู่เฉินได้อย่างสบาย ซึ่งทุกอย่างสมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง
แต่การตอบกลับของลู่เฉินกลับทำให้คนตกใจมากจริงๆ
ในฐานะศิลปินอิสระที่เพิ่งเดบิวต์ได้ไม่นาน ลู่เฉินให้ภาพลักษณ์เป็นคนถ่อมตัวและมีมารยาทกับทุกคน แม้ว่าคนอื่นจะหาเรื่องเขา เขาก็ไม่เคยโต้กลับอย่างรุนแรง แต่จะพิสูจน์ตัวเองมากกว่า
แต่วันนี้เขาตอบกลับคำท้าของชุยเจิ้งจื้อ มีความดุเดือดรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง!
นายอยากสู้ งั้นก็มาสู้กันให้เต็มที่สิ!
ไม่เงียบ ไม่อดทน ไม่ถ่อมตัว ไม่เย่อหยิ่ง แค่สามคำง่ายๆ แต่กลับทรงพลังมาก!
กลุ่มคนที่เล่นบล็อกบ่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ซึ่งส่วนมากกำลังอยู่ในวัยกบฏเลือดร้อนและหุนหันพลันแล่น ดังนั้นภายใต้การถ่ายทอดและเผยแพร่โดยเจตนาของใครบางคน คำศัพท์ใหม่นี้จึงมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ในบล็อก และถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็วในฟอรัม กระทู้และกลุ่มเฟยซวิ่น
และคนที่สร้างกระแสของคำนี้อย่างแท้จริง ก็คือเหล่าแฟนคลับของลู่เฉิน!
เหล่าสมาชิกของลู่เจียจวินมีหลายคนหลังจากที่เข้าใจความเป็นมาของเรื่องแล้ว แต่ละคนก็เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม และไม่ต้องรอให้ใครสร้างทีมปลุกปั่นทั้งนั้น พวกเขาก็ล็อกอินเข้าบัญชีของตัวเอง เข้าไปที่บล็อก ฟอรัมและกระทู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชุยเจิ้งจื้อ แล้วทิ้งคำประกาศที่ดุเดือดคำว่า ‘มาสู้กัน!’
มาตบหน้ากันถึงบ้านขนาดนี้ แฟนคลับของชุยเจิ้งจื้อจะไม่ทนอีกต่อไป และสู้กับแฟนคลับของลู่เฉินทันที!
วันที่ 6 เดือนกันยายนเป็นวันอาทิตย์พอดี คนที่ว่างไม่มีอะไรทำจึงเยอะมาก เป็นผลทำให้คำนี้กลายเป็นกระแสฮิตมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนเย็นวันนั้น คำว่า ‘มาสู้กัน’ จึงติดชาร์ตคำค้นหายอดฮิตในบล็อกล่างฉาวไปแล้ว
บล็อกเกอร์และชาวเน็ตหลายพันคนจึงรู้จักลู่เฉินด้วยเหตุนี้ และรู้ถึงการต่อสู้กันระหว่างเขากับชุยเจิ้งจื้อ และก็ยังรู้ว่าอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ จะวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 8 นี้อีกด้วย
ขณะที่คำฮอตฮิตนี้ปรากฏอยู่ในหน้าแรกของบล็อกล่างฉาว ภายในหอพักนักศึกษาหมายเลขห้อง 307ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปักกิ่ง หวางอวี่เพิ่งจะคลิกโพสต์อันหนึ่ง
ในฐานะผู้ดูแลฟอรัมเป่ยไห่เฉิง หวางอวี่ชอบงานพาร์ทไทม์นี้เป็นอย่างมาก ตอนที่พวกรูมเมทออกไปเที่ยวโรแมนติกกับแฟน เขานั่งตรงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ราวกับผู้นำที่น่าเกรงขามกำลังลาดตระเวนอาณาเขตของตัวเอง หากพบเหตุการณ์ใดๆ ที่ไม่ปรองดองกันเกิดขึ้น ก็จะปิดโพสต์โดยเด็ดขาด
มีบางครั้งเขาจะช่วยเหลือพวกมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในฟอรัมอย่างกระตือรือร้น ตอบคำถามประจำวันอย่างใส่ใจเขาได้รับการยกย่องว่าทำงานสุขุมรอบคอบจริงจัง และได้รับความพึงพอใจอย่างมากจากงานนี้
เขาเปิดดูโพสต์ใหม่ที่เพิ่งเขียนลงในบอร์ด ‘นานาสารพัน’ พูดตามจริงหวางอวี่ไม่ค่อยชอบใจนัก
เพราะว่าโพสต์นี้เป็นโพสต์โฆษณา และยังเป็นโพสต์โฆษณาอย่างเป็นทางการอีกด้วย
ฟอรัมเป่ยไห่เฉิง ก็คือฟอรัมของมหาวิทยาลัยเป่ยไห่ มีประวัติยาวนานถึงยี่สิบปี เป็นชุมชนเว็บบอร์ดของนักศึกษาที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ และมีชื่อเสียงมาจากการรวมตัวเป็นจำนวนมากของนักศึกษาในเมืองหลวง
ชุมชนเว็บบอร์ดอันหนึ่งสามารถอยู่ได้นานขนาดนี้ อย่างแรกจำเป็นต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นต้องผ่านวิธีการโฆษณาต่างๆ เป็นต้นเพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรหรือค่าใช้จ่ายเงินอุดหนุน
โพสต์โฆษณาอย่างเป็นทางการก็เป็นวิธีการทำกำไรบนเว็บไซต์อย่างหนึ่ง สาเหตุที่ฟอรัมห้ามการโพสต์โฆษณาจากภายนอกพวกนั้น นอกจากจะรักษาระบบการทำงานให้ดำเนินต่อไปอย่างปกติแล้ว สาเหตุที่สำคัญก็คือไม่อยากให้ผลประโยชน์แก่บุคคลภายนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar