(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 230

สรุปบท ตอนที่ 230 อุ่นเครื่อง: (นิยายแปล) Perfect Superstar

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 230 อุ่นเครื่อง – (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

บท ตอนที่ 230 อุ่นเครื่อง ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 230 อุ่นเครื่อง

“บริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส”

ลู่เฉินกลับถึงบ้านตอนเย็น ก็โทรหาเฉินเฟยเอ๋อร์ บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้แก่อีกฝ่ายรู้

ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถูกจู้หมิงเหอจากบริษัทเป่าหลงฟิล์มปฏิเสธ จากนั้นคนของบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สก็เป็นฝ่ายเข้ามาหาเอง เหมือนกับจุดหักเหของนิยายก็ไม่ปาน ดังนั้นเขาจึงต้องอธิบายให้นางเอกฟัง

เฉินเฟยเอ๋อร์ได้ฟังชื่อของอีกฝ่ายก็รู้แล้ว “เป็นบริษัทที่เปิดขึ้นมาโดยจางกานกับจางเต๋อ ก่อนหน้านั้นเคยเจอพวกเขาในงานเลี้ยง ได้ยินว่าพี่น้องสองคนนี้เป็นคนมีน้ำใจต่อมิตรสหาย มีชื่อเสียงที่ไม่เลวในวงการ ถ้าหากตกลงเงื่อนไขได้ มอบให้กานเต๋อทำก็ไม่เป็นไร”

ลู่เฉินโล่งอกทันที “งั้นก็ดีครับ ถึงตอนนั้นผมจะเรียกให้ผู้จัดการของพี่มาคุยด้วยกันนะครับ”

เนื่องจากละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไม่ได้มีฉากที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษมากนัก เพราะฉะนั้นต้นทุนการผลิตจึงไม่สูงมาก แต่ค่าตัวของเฉินเฟยเอ๋อร์กลับเป็นปัญหา

ค่าตัวของนักแสดงละครโทรทัศน์เป็นปัญหาใหญ่มาโดยตลอด ถ้าหากเอามาเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ละก็ อย่างน้อยก็คงหนาเป็นชั้นๆ

แต่ก่อนในยุค 80-90 ค่าตัวของนักแสดงต่ำมาก แค่ไม่กี่ร้อยต่อหนึ่งตอน ถ้าขึ้นถึงหลักพันก็ถือว่าเป็นดาราดังแล้ว

ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมบันเทิงมีการพัฒนาที่ก้าวกระโดดมาก เค้กในตลาดภาพยนตร์โทรทัศน์ก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าค่าตัวของนักแสดงก็เพิ่มขึ้นเหมือนน้ำขึ้นเรือย่อมลอยสูงขึ้นตาม ดาราไอดอลที่มีเสน่ห์ล้นเหลือจึงมีค่าจ้างหลายแสนต่อหนึ่งตอน แถมยังเชิญยากอีกต่างหาก

ยกตัวอย่างดาราหนังตัวท็อป เช่น เกาเกอ ซูอวี่เหมิง ราคาที่แจ้งแก่คนภายนอกทะลุล้านแล้ว แต่ความจริงราคาที่ระบุในสัญญาเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากกว่านั้น ถ่ายทำละครยาวเรื่องหนึ่ง ค่าตัวทั้งหมดรวมแล้วสูงหลายล้านกระทั่งถึงหลักร้อยล้านก็เป็นเรื่องปกติมาก

จึงไม่น่าแปลกใจเลยหากคำนวณต้นทุนรวมทั้งหมดของละครเรื่องหนึ่งแล้วพบว่า ค่าตัวนักแสดงสูงกว่าต้นทุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำ การตัดต่อเบื้องหลัง หรือการโปรโมต ทุกคนเห็นจนเคยชินแล้ว

โดยเฉพาะละครสุดสัปดาห์ ค่าตัวของนักแสดงนั้นสำคัญมาก มักจะเกินงบที่คำนวณไว้เสียเป็นส่วนใหญ่

แน่นอนว่าเชิญเด็กใหม่มาแสดงก็ทำได้ และค่าตัวก็จะลดต่ำมาก แต่จะรับประกันเรตติ้งผู้ชมได้อย่างไร ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ

เพราะฉะนั้นการถ่ายทำละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ลู่เฉินจึงคิดค่าตัวของตัวเองในราคาของเด็กใหม่ แล้วเปลี่ยนเงินส่วนนั้นเป็นเงินลงทุน ได้ครอบครองหุ้นเป็นสัดส่วนเท่าไรไม่สำคัญ แต่เฉินเฟยเอ๋อร์กลับไม่เหมือนกัน

ตำแหน่งในวงการของเธอสูงมากเกินไป และยังไม่เคยถ่ายละครโทรทัศน์มาก่อน ดังนั้นการคำนวณค่าตัวจึงซับซ้อนมาก

ต่ำไปก็ไม่ได้ ถึงแม้เฉินเฟยเอ๋อร์จะไม่ขาดเงิน แต่ถ้าลดราคามากไปจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้ จะเสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด

แต่ถ้าสูงไปฝ่ายผู้ร่วมทุนจะต้องมีความคิดเห็นแน่นอน ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องรีบเจรจาปรึกษาหารือกัน หยิบแผนการกระจายสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมออกมา

แน่นอนว่าลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สองคนร่วมมือกันลงทุนก็มากพอแล้ว แต่การถ่ายละครโทรทัศน์ใช่ว่าหาบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์เจ้าไหนก็ได้มาสักเจ้า ก็สามารถถ่ายทำให้เสร็จได้ง่ายๆ แล้ว เพราะมันเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายมาก

อย่างเช่นการตรวจและอนุมัติเนื้อหาของบทละคร การตรวจและอนุมัติใบอนุญาตในการถ่ายทำ แล้วยังมีการถ่ายทำและกระบวนการหลังการถ่ายทำอีก ถ้าหากให้บริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ทำการ ‘แปรรูปวัตถุดิบ’ เพียงอย่างเดียว บริษัทที่มีความสามารถส่วนใหญ่มักไม่รับทำ บริษัทที่ไม่เก่งก็ทำงานชุ่ย

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแบ่งหุ้นแบ่งกำไรกัน ให้ทุกคนได้ผลประโยชน์กันอย่างเสมอภาค ถึงจะมั่นใจได้ว่าการถ่ายทำจะสำเร็จราบรื่นจนถึงช่วงสุดท้าย

ไม่อย่างนั้นแม้ว่าบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์จะรับงานของลู่เฉินมาแล้ว หรือแม้แต่เซ็นสัญญาแล้วก็ตาม หากมีการเล่นแง่ใช้ลูกเล่นเล็กๆ ระหว่างการถ่ายทำ ก็จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นจนสูงกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ ผลสุดท้ายจะได้ไม่คุ้มเสีย

ตอนนี้ภาพยนตร์โทรทัศน์ส่วนใหญ่ต้องการการลงทุนจากหลายๆ ฝ่าย เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์และความเสี่ยงร่วมกัน ทำเช่นนี้จนกลายเป็นระบบการปฏิบัติงานที่คุ้นชินกันมานานแล้ว

ในฐานะคนใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการภาพยนตร์โทรทัศน์ ลู่เฉินไม่อยากไปท้าทายกฎเกณฑ์นี้

อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว เว้นเสียแต่ว่าจะเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์เป็นของตัวเอง

เมื่อเป็นเช่นนี้ หุ้นส่วนที่ร่วมงานด้วยจึงสำคัญมากอย่างเห็นได้ชัด

เฉินเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “เดิมทีฉันรู้สึกประทับใจเป่าหลงฟิล์มมาก ในเมื่อพวกเขาไม่รู้จักทะนุถนอม…เชอะ!”

เห็นได้ชัดว่าพี่สาวไม่พอใจ

เธอไหว้วานเพื่อนให้ช่วยเป็นตัวเชื่อมระหว่างลู่เฉินกับเป่าหลงฟิล์ม แต่กลับคิดไม่ถึงว่าฝ่ายหลังจะปฏิเสธไม่ร่วมงานด้วย

ลู่เฉินยิ้มแล้วเอ่ยว่า “พวกเขาก็พิจารณาแล้วครับ ถึงยังไงก็ไม่ใช่แนวที่เป็นที่นิยม ถ้าหากไม่ใช่เพราะผมดึงพี่ออกมา เกรงว่าฝั่งกานเต๋อก็คงจะไม่ร่วมมือด้วย นับว่าชื่อเสียงของเฟยเอ๋อร์เลื่องลือระบือนามพอตัว!”

“อะไรคือเลื่องลือระบือนามพอตัว…”

เฉินเฟยเอ๋อร์แสร้งทำเป็นดุ “ฉันไม่ใช่จอมยุทธ์หญิงในยุทธภพนะ นายรีบเขียนบทละครหลังจากนี้ออกมาเร็วๆ เลย!”

จนถึงตอนนี้ ลู่เฉินเพิ่งเขียนบทละครเสร็จไปแค่สี่ตอน ตามแผนการแล้วยังเหลืออีกสิบหกตอน

ที่เฉินเฟยเอ๋อร์มีต้นฉบับบทละครอยู่ เธอยังอ่านไม่จุใจเลย

ความจริงความเร็วของลู่เฉินถือว่าเร็วมากแล้ว ทุกวันตอนเช้าเขาจะต้องไปออกกำลังกายที่สโมสรป๋อรุ่ย แล้วก็ต้องไปเข้าชั้นเรียนที่วิทยาลัยดนตรีแห่งปักกิ่ง แถมยังต้องแบ่งเวลามาเขียนบทละคร เวลาของทุกวันถูกจัดตารางงานไว้เต็มไปหมด

ด้วยเหตุนี้ ลู่ซีจึงต้องช่วยลู่เฉินปฏิเสธงานโชว์ตัวไปไม่น้อย รายได้ขาดหายไปมากเลยทีเดียว

แต่เป็นเพราะเขามีสตูดิโอเป็นของตัวเองทำให้มีอิสระ มิเช่นนั้นถ้าเซ็นสัญญากับบริษัทบันเทิงไหนสักแห่ง มีหรือจะได้รับอนุญาต คงถูกให้ทำงานหนักหาเงินจนงานทับตายไปนานแล้ว

ลู่เฉินเกาศีรษะ “ผมจะพยายามเร่งความเร็วนะครับ”

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ฉันก็พูดไปอย่างนั้น นายไม่ต้องคิดจริงจัง อย่าหักโหมเกินไปนัก โดยเฉพาะตอนกลางคืนอย่าทำงานจนดึก ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร”

ลู่เฉินรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองอบอุ่นเหลือเกิน

แต่ถึงเฉินเฟยเอ๋อร์จะรอได้ กลับมีบางคนที่รอไม่ไหวแล้ว

เช้าวันถัดมา บริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สได้ส่งคนมาที่สตูดิโอของลู่เฉิน เพื่อเจรจาร่วมงานกัน

ยกเว้นหลู่อี้ที่ลู่เฉินรู้จักแล้ว กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สยังส่งรองผู้จัดการใหญ่กับผู้อำนวยการมาด้วย แสดงท่าทีให้ความสำคัญกับละครโทรทัศน์เรื่องนี้อย่างเต็มที่

แต่การเจรจาธุรกิจแบบนี้ โดยทั่วไปแล้วลู่เฉินจะไม่ยุ่ง มอบให้พี่สาวจัดการทั้งหมด

ถ้าหากพูดว่าก่อนหน้านั้นลู่เฉินแอบแง้มข้อมูลของละครเพื่อกระตุ้นการวิจารณ์แล้ว เช่นนั้นตอนนี้โพสต์บล็อกอันนี้ ก็ทำให้เกิดความอึกทึกครึกโครมทั้งภายในและภายนอกวงการเป็นอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย!

สาเหตุนั้นง่ายมาก เพราะเฉินเฟยเอ๋อร์ราชินีแห่งวงการเพลงจะปรากฏตัวในละครโทรทัศน์เป็นครั้งแรก แถมยังรับบทนางเอกอีกด้วย

ข้อมูลนี้เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะว่าตอนท้ายของโพสต์บล็อก ลู่เฉินได้แท็กเฉินเฟยเอ๋อร์ และคนหลังก็ตอบกลับมาสี่คำหลังจากผ่านไปเพียงสิบนาทีกว่าๆ ว่า ‘น่ารอคอยจัง!’

บวกกับสัญลักษณ์หน้ายิ้มอีกอันหนึ่ง

แน่นอนว่าลู่เฉินไม่ได้เกิดฉุกคิดขึ้นมาอย่างฉับพลันแล้วเขียนโพสต์บล็อกทั้งสองอัน แต่เป็นแผนการโปรโมตฉบับอุ่นเครื่องต่างหาก

หลังจากผ่านการเจรจาสามฝ่ายอย่างจริงจัง ข้อตกลงในการถ่ายทำละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็บรรลุผลขั้นพื้นฐานแล้ว โครงเรื่องของบทละครได้ส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว ถ้าหากผ่านก็สามารถเริ่มถ่ายทำได้เลย

เนื่องจากมีการร่วมงานกับเฉินเฟยเอ๋อร์ บริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สจึงให้ความสำคัญกับโปรเจกต์นี้มาก ไม่เพียงแต่ยอมถอยให้หลายก้าวในระหว่างที่มีการทำข้อตกลงเท่านั้น หนำซ้ำยังรวบรวมทีมงานถ่ายทำระดับหัวกะทิ และส่งทีมงานหลายคนมุ่งหน้าไปที่เมืองจินหลิงก่อน

สถานที่ที่เลือกมาเป็นฉากในการถ่ายทำละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์อยู่ที่เมืองจินหลิงและโรงถ่ายจินหลิง

แน่นอนว่ากานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สใช่ว่าจะไม่มีความต้องการใดๆ เงื่อนไขหนึ่งในนั้นก็คือพวกเขาอยากให้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์โปรโมตล่วงหน้าโดยอาศัยช่องทางของตัวเอง เพื่อดึงดูดให้สถานีโทรทัศน์และเว็บไซต์ที่มีกำลังความสามารถมาแย่งสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรก

นี่ไม่ใช่วิธีการที่คดโกงอะไร แต่เป็นวิธีปกติทั่วไปของการตลาดภาพยนตร์โทรทัศน์

มีละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ที่ยังไม่เริ่มถ่ายทำก็ขายสิทธิ์ในการออกอากาศได้แล้ว เรียกต้นทุนกลับคืนมาได้ทั้งหมด

เพียงแต่คนโสดมากมายที่ทนดูไม่ได้ร้องไห้น้ำตาไหลพรากด้วยเหตุนี้

“แม่งเอ๊ย นี่คือการอวดความรักใช่ไหม นางฟ้าของฉัน หัวใจฉันแตกสลายแล้ว!”

“ฮ่าๆๆ เดิมทีฉันเดาว่านางเอกคือเฉินเฟยเอ๋อร์ แล้วฉันก็ทายถูกจริงๆ!”

“เฉินเฟยเอ๋อร์เหรอ คาดไม่ถึงจริงๆ”

“สงสัยข่าวลือของทั้งสองคนก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นเรื่องจริง ทุกคนคิดว่ายังไง”

“พูดไม่ออกกับทุกคนจริงๆ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ทั้งสองคนเป็นพี่สาวกับน้องชาย พวกเธอไม่รู้เหรอ”

“เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นนางเอก หรือว่าเกิดความรักต่างวัย?”

“รักต่างวัย+1!”

ความคิดเห็นของทุกคนเพิ่มสูงขึ้น แล้วละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็กลายเป็นคำค้นหายอดฮิตบนบล็อกล่างฉาวในไม่ช้า!

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar